“พ่อ สิ่งที่เจียงพูดเป็นความจริง พอดีอีกสองวันจะเปิดกิจการ เชิญพวกคุณไปเยี่ยมดูได้” สวี่จื้อจุนเห็นว่าหลายๆ คนไม่เชื่อ จึงทำได้แค่พูดอย่างนี้กับสวีฉางเซิง
“เอาเถอะ ถ้าอีกสองวันจะเปิดกิจการ พวกเราจะไป” ในขณะพูดสวีฉางเซิงก็ให้คนเอาไม้กฤษณาสองอันไปเก็บ และกำชับให้เก็บเป็นอย่างดี
พูดตามตรง สวีฉางเซิงก็ไม่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ถึงอย่างไรที่ดินที่นั่นก็มีราคาแพงมาก ไม่ใช่พูดว่าเปิดคลินิกก็จะเปิดได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ามีคนส่งมอบคลินิกในสถานที่แบบนั้น แต่ถึงอย่างไรก็รับของขวัญล้ำค่าแล้ว เขาก็ไม่ควรพูดไม่น่าฟัง
“เอาล่ะ คนก็มากันครบแล้ว เสิร์ฟอาหารเถอะ” สวีฉางเซิงสั่งโดยตรง
ทุกคนจึงเริ่มทานอาหาร เจียงเฉิงกับสวี่ฉิงไม่ได้ทาน เพียงแค่ลุกจากโต๊ะและมาที่สวนหลังบ้านของตระกูลสวี่
“ตอนเด็กๆ ฉันก็โตที่สวนนี้ แต่หลังจากอายุได้ไม่กี่ขวบ ฉันก็ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว” สวี่ฉิงนั่งลงบนม้านั่งยาวข้างๆ และพูดอย่างทอดถอนใจ
“ไม่เป็นไร คุณเป็นแบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ” เจียงเฉิงนั่งลงข้างๆ สวี่ฉิง ในขณะพูดก็โอบสวี่ฉิง
“ใช่ แต่การกลับมาอีกครั้ง ช่างหดหู่จริงๆ” ในขณะพูดสวี่ฉิงก็ยิ้มให้เจียงเฉิง
“เจียงเฉิงเอ๊ย นายเก่งมากจริงๆ” จู่ ๆ สวี่จื้อจุนก็เดินออกมาจากห้อง หลังจากเห็นเจียงเฉิง เขาก็รีบเข้ามาพูดด้วยความตื่นตระหนก
“พ่อ เกิดอะไรขึ้น?” เจียงเฉิงไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ พ่อตัวเองถึงพูดแบบนี้
“ไม้กฤษณานั่น นายดูออกได้อย่างไรว่าเป็นไม้กฤษณา? ฉันดูไม่ออกเลย” สวี่จื้อจุนจับมือของเจียงเฉิงอย่างตื่นตระหนก
เมื่อเห็นท่าทางที่ตื่นเต้นของสวี่จื้อจุน เจียงเฉิงก็พูดไม่ออกอยู่ชั่วขณะหนึ่ง และคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร ที่แท้ก็เป็นเรื่องเล็กน้อย
“คือว่า ผมเคยเห็นมาก่อน ดังนั้นจึงจำได้ จะว่าไปแววตาของคุณพ่อก็ดีขึ้น และได้ส่งมอบของขวัญที่ทำให้คุณปู่พอใจมากขนาดนั้น” เจียงเฉิงยังพูดปลอบใจสวี่จื้อจุนด้วยรอยยิ้ม
เมื่อได้ยินอย่างนี้ สวี่จื้อจุนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ และพูดว่า “นายหน่ะ ไม่ต้องมาปลอบโยนฉัน หลายครั้งแล้วที่ฉันตาถั่ว ครั้งนี้ถ้าไม่ใช่เพราะนาย ฉันคงขายหน้าคนในครอบครัวอีกแล้ว”
“ครั้งนี้คุณช่วยออกรับแทนผม และทำให้หลายคนด้านล่างชื่นชมผม โดยการบอกว่าเปิดคลินิกบนถนนชิงเหนียน ช่างมีความสามารถจริงๆ” สวี่จื้อจุนพูดด้วยสีหน้าที่ภาคภูมิใจมาก
แท้จริงแล้ว สวี่จื้อจุนได้รับความอึดอัดใจจากครอบครัวของตัวเองมาตลอดชีวิต ในที่สุดตอนนี้ก็ได้เชิดหน้าชูตา ทั้งหมดล้วนอาศัยลูกเขยของตัวเอง ไม่เช่นนั้นครั้งนี้เขาก็คงจะขายหน้าอีก
“พ่อ นี่เป็นเรื่องเล็กน้อย” เจียงเฉิงพูดด้วยรอยยิ้มสบายๆ
“นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย นายไม่เห็นสีหน้าของลุงรองเหรอ เขาโกรธจนหน้าเขียว และเดิมทีก็ต้องการทำให้ฉันลำบากใจ ไม่คิดเลยว่ากลับทำให้ฉันเด่นกว่าเขา” สวี่จื้อจุนอารมณ์ดีมากจริงๆ เดิมทีคิดว่าครั้งนี้กลับมาแล้ว จะต้องอับอายขายหน้าอีก ไม่คิดเลยว่าจะรู้สึกโล่งใจมากขนาดนี้
“พ่อ ตอนนี้พ่อพอใจแล้วใช่ไหม?” สวี่ฉิงที่อยู่ข้างๆ พูดกับสวี่จื้อจุนด้วยรอยยิ้ม
“พอใจๆ เป็นลูกเขยของพ่อที่นำความเบิกบานใจมาให้พ่อ” สวี่จื้อจุนอดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมาในทันที
“เอาล่ะพ่อ พ่อกลับไปดื่มเหล้าเถอะ” สวี่ฉิงเร่งรัดสวี่จื้อจุน
“ได้ๆๆ ไม่รบกวนโลกของแกสองคนแล้ว” สวี่จื้อจุนพูด แล้วกลับไปเข้าไปดื่มต่อในบ้าน
เมื่อสวี่ฉิงเห็นว่าพ่อของตัวเองมีความสุขมาก เธอก็มองไปที่เจียงเฉิงด้วยความโล่งใจ สามีของตัวเองยิ่งอยู่ยิ่งดีเลิศ
“เป็นอะไรไป? ชื่นชมผมมากยิ่งขึ้นใช่ไหม?” เจียงเฉิงมองไปที่สวี่ฉิงและพูดด้วยรอยยิ้ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง