เมื่อได้ยินเสียงนี้ เจียงเฉิงก็หันไปมองและเห็นฟางหลันหลันนั่งอยู่ตรงหน้า เธอเอามือท้าวคางแล้วมองมาที่ตนด้วยตาโต
“คุณมาที่นี่ได้ไง?” เจียงเฉิงถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ฉันมาหาหมอไงล่ะ ฉันไม่สบายหน้าอกจริงๆ ช่วยฉันตรวจดูหน่อย” ฟางหลันหลันพูดและยืดอกขึ้นมา
เจียงเฉิงเหลือบมองที่หน้าอกของฟางหลันหลัน ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ เธอดูอายุยังน้อย แต่หน้าอกนี่แน่นซะจนแทบจะเทียบเท่าของสวี่ฉิง
และวันนี้ฟางหลันหลันใส่ชุดเห็นสะดือ คอเสื้อค่อนข้างกว้าง ถึงแม้ว่าเจียงเฉิงกำลังนั่งอยู่ แต่ก็สามารถมองเห็นเนินอกสีขาวดั่งหิมะข้างในนั้นได้
หัวใจของเจียงเฉิงเต้นระรัวเมื่อเขาเห็นภาพนี้ แต่เขารู้ดีว่า ฟางหลันหลันมีเล่ห์เหลี่ยมเยอะ คงไม่ใช่แค่มาหาหมอรักษาตัวหรอก
“ดูแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร” เจียงเฉิงกล่าวหลังจากเหลือบมอง
“จะไม่มีได้ยังไง คุณยังไม่ได้ตรวจเลย” ฟางหลันหลันพูดอย่างโกรธเคืองเมื่อเห็นว่าเจียงเฉิงไม่หลงกลเธอ “คุณไร้ความรับผิดชอบมาก ฉันจะไปห้องคณบดีของคุณ”
เจียงเฉิงรู้สึกหมดหนทางอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวว่า “แล้วแต่เลย”
หลังจากที่ใส่ข้อมูลสุดท้ายแล้ว เขาก็ปิดเครื่องเตรียมออกไป เพราะเขาจะไปซื้อเหล้าพร้อมสวี่ฉิง
“นี่ อย่าเพิ่งไปสิ!”
ฟางหลันหลันเห็นว่าเจียงเฉิงจะไป จึงเร่งตามไปอย่างเร่งรีบ
ฟางหลันหลันจงใจจะหลอกเจียงเฉิง เธอเห็นว่าเจียงเฉิงไม่ได้คิดที่จะสอนตัวเองให้ดริฟท์ได้ เธอเลยคิดว่าเจียงเฉิงไม่สอนเธอก็สามารถเรียนรู้เองได้ ฉะนั้นสองสามวันนี้เธอก็ฝึกอยู่ที่บ้านเอง
แต่ฟางหลันหลันศึกษาอยู่นาน ก็ยังทำไม่เป็น จากนั้นเธอก็คิดขึ้นมาได้ว่า สามารถใช้ความสวยยั่วเจียงเฉิงได้ ตราบใดที่เจียงเฉิงกล้าแตะต้องตัวเธอ เธอจะตะโกนว่าเจียงเฉิงกำลังคุกคามเธอ แล้วเธอก็สามารถบังคับให้เจียงเฉิงทำตามกฎได้
ฟางหลันหลันไม่คิดว่าเจียงเฉินจะหลงกล เขาไม่สนใจเธอด้วยซ้ำ
“เจียงเฉิง! พี่เจียง พี่ชายที่แสนดี ช่วยสอนฉันหน่อยได้ไหม” ฟางหลันหลันตามเจียงเฉิงไป เธอกอดแขนของเจียงเฉิงเอาไว้ และพูดด้วยความอ้อนอยู่เรื่อย
หากคนอื่นเห็นว่าลูกสาวของตระกูลฟาง กำลังยุ่งกับผู้ชายราวกับว่าเธอเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กขี้อ้อน เช่นนั้นหลายๆคนจะต้องตกใจอ้าปากค้างแน่นอน
เจียงเฉิงถูกฟางหลันหลันกอดแขนเอาไว้ เขาเองก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าหน้าอกของหญิงสาวแน่นและดันไปที่แขนของเขา
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่สอน แต่ฉันต้องซื้อเหล้ากับภรรยาของฉัน” เจียงเฉิงพูดอย่างช่วยไม่ได้กับฟางหลันหลัน
“จะซื้อเหล้าแบบไหนดีล่ะ ฉันจะซื้อให้ แล้วซื้อให้เท่าไหร่ก็ได้” ฟางหลันหลันชอบซิ่งรถ ฉะนั้นสำหรับเธอแล้ว การฝีกดริฟท์เป็นนั้นสำคัญอย่างมาก
เจียงเฉิงกำลังจะไล่ฟางหลินหลินไป จู่ๆโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น สวี่ฉิงโทรมา
ในที่สุดหลางหยาก็สืบหาคนที่หักแขนขาตนจนเจอ เขาคือหมอของโรงพยาบาลนี้ และพี่หัวโล้นก็อยู่ที่นี่พอดี ฉะนั้นเขาจึงขอให้พี่หัวโล้นพาคนมาแก้แค้น
“พี่หัวโล้น มันนั่นแหละ ที่หักแขนขาของผม พี่จะต้องล้างแค้นให้น้องๆนะครับ” หลางหยารีบตะโกนบอกพี่หัวโล้น
หลางหยารู้ว่าพี่หัวโล้นในฐานะหัวหน้าแก๊งเทียนหลางพวกเขาดูแลน้องๆเป็นอย่างดี และครั้งนี้จะต้องออกตัวแทนตัวเองแน่นอน
เมื่อพี่หัวโล้นได้ยินสิ่งที่หลางหยาพูด เขาหรี่ตาลง และพูดเบาๆว่า “ขอโทษเดี๋ยวนี้!”
“บัดซบ ไอ้หนุ่มได้ยินไหม พี่ใหญ่ของเราให้นายขอโทษ” หลางหยาจ้องไปที่เจียงเฉิงคิดว่าเขาอาจมีโอกาสแก้แค้น
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่หลางหยาพูดจบ ก็ได้ยินเสียงตบหน้าดังขึ้น และรู้สึกเจ็บแสบร้อนบนใบหน้า
“พี่หัวโล้น ตีผมทำไม” หลางหยาถามด้วยสีหน้าที่เศร้าโศก
“เขาเป็นหมอเทวดาที่รักษาแขนกูจนหาย และเป็นพี่ใหญ่ที่เพิ่งกราบสัญญากันมา นายก็คิดดูแล้วกันว่าฉันตบนายทำไม?”
พี่หัวโล้นมองไปที่หลางหยาอย่างโกรธจัด เดิมทีเขาต้องการล้างแค้นให้น้องชายของเขา แต่ไม่คิดว่าคนที่ทำให้ลูกน้องตนพิการก็คือเจียงเฉิงนี่เอง
คราวนี้หลางหยาตกใจ เขาไม่ได้คิดว่าเจียงเฉิงคือพี่ใหญ่ที่รุ่นพี่ของตัวเองเพิ่มไปรู้จักมา เขามองไปที่เจียงเฉิงด้วยสีหน้าตกใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง