คลั่งรักเมียแต่ง นิยาย บท 39

ทัตเทพได้แต่มองตามหลังทั้งสองที่ออกจากห้องไป เขาดูคนไม่ผิดจริงๆ ตอนนี้ถ้าตายไปคงหมดห่วงแล้ว

{"ฮัลโหลสวัสดีค่ะ ฉันอยากให้คุณทนายมาพบที่บ้านหน่อยค่ะ"} ขณะที่เดินขึ้นห้อง หญิงสาวก็เอาโทรศัพท์ออกมาโทร ซึ่งคนที่เดินตามหลังทำได้แค่คอยระวังไม่ให้เธอสะดุดขั้นบันไดตกลงไป

ที่เธอต้องให้ทนายมาพบที่บ้าน เพราะเรื่องนี้จะทำที่บริษัทไม่ได้ ดูแล้วในบริษัทมีแต่หูตาของพงษ์พิบูลย์ทั้งนั้น

พอเปิดประตูห้องก็เห็นว่าเขาเดินตามมา หญิงสาวก็เลยหยุดแล้วหันกลับไป "ฉันอยากให้คุณไปเตรียมเอกสาร วันนี้เราต้องเซ็นต์มอบหุ้นกันให้เสร็จ"

"ได้ครับ"

"เดี๋ยวก่อนค่ะ"

เขากำลังจะรีบไปทำตามคำสั่งของเธอ แต่ก็ต้องได้หยุดแล้วหันกลับมา

"การที่หุ้นจะตกไปอยู่ในมือของคุณเพียงคนเดียว คุณรู้ใช่ไหมว่าความรับผิดชอบนั้นมันหนักหนา ไม่ว่าคุณจะเซ็นต์อะไรลงไป ต้องไตร่ตรองให้ดีก่อน เพราะต่อจากนี้ไปลายเซ็นต์ของคุณคือสิ่งที่กำหนดทุกอย่างในบริษัท" ที่จริงไม่ใช่แค่ในบริษัท..ในวงศ์ตระกูลนี้เลยด้วยซ้ำ แต่พูดไปแค่นั้นเขาคงจะเข้าใจ

"ครับ" นี่อะไรกันเธออายุยี่สิบกว่าจริงไหมเนี่ย ชายหนุ่มแค่คิดอยู่ในใจ

พอแทนคุณออกจากห้องไปน้ำอิงก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรกลับไปหาทนายอีกครั้ง..

"หนูจะไปไหนลูก" อิงนภาถามเมื่อเห็นว่าลูกสาวลงมาจากชั้นบนเพียงคนเดียว

"อิงมีธุระข้างนอกหน่อยค่ะแม่ ถ้ามีผู้หญิงมาขอพบอิง แม่ให้ขึ้นไปหาคุณแทนคุณข้างบนได้เลยนะคะ"

"ผู้หญิง?"

"เรื่องงานค่ะแม่ อิงไม่มีเวลาอธิบายแล้ว อิงขอตัวนะคะ"

ขณะที่แทนคุณกำลังถ่ายเอกสารสำคัญจากเครื่องที่อยู่ในห้องนอน เขาก็ได้ยินเสียงรถของตัวเองวิ่งออกไป ชายหนุ่มเปิดหน้าต่างแล้วมองลงไปดูว่าใครเป็นคนขับรถของเขา

"ไปไหนของเธออีก" ชายหนุ่มกำลังจะมาที่ประตู แต่ก็ต้องได้ตัดใจกลับมาทำงานที่เธอมอบหมายให้เสร็จก่อน

เวลาผ่านไปยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ ก็มีคนที่น้ำอิงบอกว่าจะมาขอพบเธอที่บ้าน อิงนภาก็เลยให้ขึ้นไปหาแทนคุณบนห้องนอน

"ทำไมเป็นคุณ" แทนคุณแปลกใจ..แทนที่จะเป็นทนายของบริษัท แต่กลับเป็นฝ่ายกฎหมายอีกคนที่เพิ่งจะเข้ามาทำงาน

"คุณน้ำอิงให้เอาเอกสาร ที่คุณต้องเซ็นต์มาค่ะ" ช่อฟ้าเป็นนักศึกษาทางกฎหมายที่เข้ามาฝึกงานในบริษัท

"น้ำอิง? แล้วตอนนี้เธอไปไหน"

"ออกไปพบคุณทนาย..เออ.."

"บอกผมมาว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่" แทนคุณมองตาก็รู้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้ก็ต้องรู้เรื่อง

"เรารีบทำตรงนี้ให้เสร็จกันก่อนดีกว่าค่ะ"

"สิ่งที่เมียผมทำอยู่อันตรายไหม" ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เพราะคิดว่ารู้แล้ว ว่าเธอกำลังทำอะไร คงหลอกให้พวกนั้นสนใจรถของเขา และเธอคงจะนัดแนะกับทนายทำอะไรสักอย่าง เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ

"ไม่หรอกค่ะ คุณทนายให้ตำรวจช่วยอีกแรง"

"ตอนนี้เธออยู่ไหน" ชายหนุ่มรีบมาที่ประตูพร้อมที่จะออกจากห้องนี้

"คุณต้องรีบเซ็นต์เอกสารทุกอย่างให้เสร็จก่อนค่ะ"

"ไปเซ็นต์บนรถ"

"ไม่ได้ค่ะ เอกสารพวกนี้มันคือความลับ"

"ตอนนี้เธอปลอดภัย แต่ถ้าคุณออกไปนั่นแหละเธอจะไม่ปลอดภัย"

"หมายความว่ายังไง"

"เชื่อการตัดสินใจของน้องเถอะลูก" ทัตเทพได้ยินเสียงเอะอะโวยวายก็เลยออกมาจากห้อง

"พ่อรู้ไหมว่ามันอันตราย" เขาจำได้แม่นว่าพงษ์พิบูลย์หวังจะเอาชีวิตของเธอตั้งแต่ตอนของหล่นลงมาแล้ว ยิ่งทำเรื่องแบบนี้ มันคงไม่ปล่อยเธอไว้แน่

"พ่อให้ท่านผู้กำกับช่วยเรื่องนี้แล้ว"

"พ่อรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ" ชายหนุ่มเดินกลับมาหาพ่อที่อยู่กลางห้องโถง

"พ่อเพิ่งจะได้คุยกับน้ำอิง" ใช่แล้วพอวางสายจากหลานสาว ทัตเทพก็ต่อสายตรงไปหาผู้ใหญ่ที่พอจะรู้จัก

"ผมอยากคุยกับเธอ"

"ตอนนี้ยังไม่ได้ ลูกกลับขึ้นห้องไปก่อน"

"ผมเป็นผู้ชายนะพ่อ"

"แทนขึ้นห้องไปก่อนเถอะลูก" อิงนภาไม่รู้ว่าลูกสาวกำลังทำอะไรอยู่ แต่ตอนนี้ลูกคงกำลังปกป้องสามี ซึ่งถ้าถึงตาจนจริงๆ ผู้หญิงทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว เหมือนกับนางที่เคยทิ้งสมบัติเพื่อจะอยู่กับผู้ชายที่ตัวเองรัก

"ผมคงทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ผมจะไปตามเธอ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน"

"เรื่องมอบหมายหุ้นยังไม่สำเร็จ คุณไปไหนไม่ได้ค่ะ ถ้าคุณมีอันตรายทุกอย่างที่คุณน้ำอิงทำ มันก็จบ" การมอบหมายหุ้นให้เร็วที่สุดคือมอบให้กับบุคคลที่พึงจะได้รับ นั่นคือบุตรที่แท้จริง

เหมือนที่ทัตเทพมอบให้น้ำอิง จนถึงตอนนี้เรื่องมอบหุ้นให้กันยังไม่สำเร็จเลย เพราะน้ำอิงเป็นเพียงหลานสาว ซึ่งข้อกฎหมายต้องพินิจให้แน่ใจก่อน ว่าทัตเทพมีสัมปชัญญะครบถ้วนไหม ยิ่งตอนนี้เขาประสบอุบัติเหตุ แต่ถ้าหุ้นหรือสมบัติทุกอย่างตกไปอยู่ในมือบุตรโดยชอบธรรม เรื่องนี้จะสมบูรณ์ได้ง่ายมาก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คลั่งรักเมียแต่ง