คลั่งรักเมียแต่ง นิยาย บท 41

จังหวะนั้นคนที่อยู่ในโกดังหันไปมองหน้าประตูพร้อมกันแบบอัตโนมัติเพราะว่าอยู่ดีๆ ก็มีเสียง

"เฮ๊ย!" จากที่หันกระบอกปืนไปหาแทนคุณ พงษ์พิบูลย์รีบสะบัดมือหันมาที่ประตู "ถ้าพวกมึงเข้ามากูจะยิงมัน" ว่าแล้วพงษ์พิบูลย์ก็หันกลับไปหาแทนคุณอีกครั้ง

แทนคุณมองไปเห็นผู้หญิงที่เดินเข้ามากับกลุ่มผู้ชายอีกหลายคน เขาหายใจโล่งขึ้น เพราะนั่นคือคนที่เขากำลังตามหาอยู่ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร กลัวถ้าพูดไปแล้วพงษ์พิบูลย์จะให้ความสนใจกับเธอ

"ทางที่ดีคุณวางปืนลงดีกว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ล้อมพื้นที่ไว้หมดแล้ว" หนึ่งในกลุ่มชายที่เข้ามากับเธอได้เอ่ยพูดขึ้น ตำรวจพยายามไม่วู่วาม เพราะวิถีกระสุนปืนอยู่ใกล้ตัวประกันมาก

"ตำรวจ?" ทีแรกพงษ์พิบูลย์ไม่แน่ใจว่าผู้ชายพวกนี้เป็นตำรวจไหม เพราะพวกเขาอยู่นอกเครื่องแบบ พอได้ยินแบบนั้นมันยิ่งสร้างความตื่นตระหนกให้ "พวกมึงแจ้งตำรวจเลยเหรอ มึงไม่กลัวว่าจะเป็นข่าวกันหรือไง!"

หลายครั้งแล้วที่เกิดเรื่อง แต่ทางนี้เงียบเพราะกลัวหุ้นตก ถ้าภายนอกรู้ว่ามีการขัดแย้งในบริษัท ใครเขาจะอยากมาร่วมลงทุนด้วย ทุกครั้งที่พงษ์พิบูลย์ก่อเรื่องก็เลยถูกปล่อยผ่านไป เพราะเขาก็มีหุ้นอยู่ในบริษัทนั้นมากพอสมควรจนได้เป็นรองประธาน

"คุณทำแบบนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ยิ่งจะทำให้ตัวเองติดข้อหาหนักขึ้น แต่ถ้าคุณปล่อยสามีฉัน จะเหลือแค่ข้อหาฉ้อโกงในบริษัท"

"กูไม่เชื่อมึงหรอก"

"ข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวและมีอาวุธปืน ฉันคิดว่ามันเป็นแค่ข้อหาเล็กๆ สำหรับคุณ เป็นคดีเล็กๆ สำหรับคุณ แต่ถ้าคุณเหนี่ยวไกเมื่อไรต้องมีการเสียชีวิตเกิดขึ้นแน่ ต่อจากนั้นคุณคงรู้นะว่ามันจะกลายเป็นข้อหาอะไร"

ตำรวจหลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ไม่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ จะมีคำพูดมาโน้มน้าวผู้ก่อเหตุได้ถึงเพียงนี้ เพราะแค่ตำรวจฟังก็รู้แล้วว่าพงษ์พิบูลย์คงใจอ่อนไปได้เกินครึ่ง

ลูกน้องของพงษ์พิบูลย์เห็นท่าไม่ดี เพราะดูแล้วเจ้านายคงจะวางปืนแน่

ปัง!

"พวกกูไม่คิดว่ามึงจะใจเสาะถึงขนาดนี้" พวกมันจะถูกตำรวจจับไม่ได้เพราะมีคดีติดตัวกันทุกคนก็เลยยิงปืนขู่ไป ..คิดว่าจะเอาค่าจ้างงานนี้แล้วหนีไปต่างประเทศ

"พวกมึงทำอะไรกัน กูยังไม่ได้สั่งให้ยิงปืนเลย!"

ตำรวจดูแล้วว่ามันเป็นการขัดแย้งในกลุ่ม แค่จ่อปืนหันมาหาพวกมันไว้ก่อน

"พวกกูไม่อยู่แล้วโว้ย" ลูกน้อง 3-4 คนที่พงษ์พิบูลย์จ้างมา ต่างก็รีบวิ่งหนีออกทางด้านหลังโกดัง ส่วนพงษ์พิบูลย์ค่อยๆ วางปืนลงพื้นแล้วก็ชูมือขึ้น

ตำรวจรีบเข้ามาเคลียร์ ขณะนั้นก็ได้ยินเสียงปืนด้านนอกตรงที่พวกมันวิ่งหนีออกไป เพราะตำรวจอีกชุดดักรออยู่ตรงนั้น

"คุณเป็นยังไงบ้าง" น้ำอิงรีบตรงเข้ามาดูว่าเขาเป็นอะไรไหม

"คุณนั่นแหละเป็นอะไรไหม"

"ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ ฉันให้คนเฝ้าคุณไม่ใช่เหรอ แล้วนี่คุณออกมาทำไม!"

"หึหึ" ผู้ชายหลายคนอยู่ในที่นั้นต่างก็อดขำไม่ได้ถึงแม้ สถานการณ์จะตึงเครียด แต่เพราะประโยคที่เธอพูดมามันสมควรที่จะเป็นผู้ชายที่พูดมากกว่า

"พวกคุณขำอะไรกัน"

"อย่าทำแบบนี้อีกได้ยินไหม" แทนคุณเอื้อมมือไปลูบผมของเธอเบาๆ แล้วก็ดึงเข้ามาโอบกอดไว้ "ผมรู้ว่าคุณเก่ง แต่คุณอย่าทำเรื่องอะไรที่มันเสี่ยงแบบนี้"

"ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย" ความคิดของเธอก็แค่หลอกให้พวกมันสับสน โชคดีที่มีหลายฝ่ายยื่นมือเข้ามาช่วยก็เลยไม่เสี่ยงมาก

"นี่ขนาดยังไม่ได้ทำนะ"

ขณะที่ทั้งสองคุยกัน ตอนนี้ตำรวจได้เอานายพงษ์พิบูลย์ออกไปที่รถแล้ว

"คุณทำอะไร" หญิงสาวตกใจอยู่ดีๆ ก็ถูกอุ้มลอยขึ้นจากโซฟา

"คุณนั่นแหละทำอะไร มานอนโซฟาทำไม"

"ต่อไปนี้เราจะแยกกันอยู่ค่ะ คุณปล่อยฉันลงนะ"

"ทำไมต้องแยกกันอยู่"

"เรื่องที่เราคุยกันก่อนหน้านั้น คุณลืมแล้วเหรอ"

"ผมยังไม่ได้ตกลงอะไรกับคุณสักหน่อย"

"ถึงยังไงฉันก็จะยืนยันคำพูดเดิม" เรื่องที่เธอบอกว่าจะหย่า ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังเซ็นต์ใบหย่าไม่ได้ เพราะยังติดเรื่องหุ้น เธอทำหุ้นโอนให้เขาในฐานะภรรยา ถ้าทั้งสองไม่มีทะเบียนสมรสการโอนหุ้นก็จะยาก เหมือนที่ทัตเทพโอนหุ้นให้กับเธอ

"ผมก็บอกแล้วไงว่าไม่ ผมไม่มีวันปล่อยคุณไป"

"คุณอย่าลืมสิว่าคุณกำลังจะมีลูกกับคนนั้น เด็กที่กำลังจะเกิดออกมาเขาผิดอะไร คนที่ผิดคือผู้ใหญ่ ถ้ารู้ว่าผิดแล้วต้องแก้ไขให้ถูกสิ"

"ทำไมกับบางเรื่องคุณถึงเข้าใจยากนัก" เรื่องยากที่คนอื่นทำไม่ได้ เธอกลับแก้ปัญหาได้เพียงในไม่กี่นาที แต่กับเรื่องนี้

ใช่แล้วผู้หญิงถึงแม้จะเก่งมาจากไหน..ก็แพ้ความรักอยู่ดี

"คุณแทนคุณปล่อยฉันนะ!" นอกจากเขาไม่ปล่อยแล้วยิ่งกอดรัดเธอแน่นขึ้นแถมยังยื่นจมูกและปากมาพรมจูบตามเรือนร่างของเธออีก..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คลั่งรักเมียแต่ง