คนเสเพล นิยาย บท 53

สรุปบท บทที่ 52: คนเสเพล

สรุปตอน บทที่ 52 – จากเรื่อง คนเสเพล โดย ชะนีติดมันส์

ตอน บทที่ 52 ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง คนเสเพล โดยนักเขียน ชะนีติดมันส์ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

"ถ้านายออกไปทางประตูพ่อกับแม่ฉันก็เห็นน่ะสิ"

"เห็นก็เห็นสิจะเป็นไรไป"

"นายเป็นผู้ชาย นายไม่รู้หรอก"

"เอ๊อ! ไปหน้าต่างก็ไปหน้าต่าง ทำเหมือนกูเป็นชู้ไปได้" ว่าแล้วดินก็เปิดหน้าต่างออก มองซ้ายมองขวา เพราะกลัวว่าคนจะเห็นว่าเขาออกทางหน้าต่างห้องของเมียตัวเอง "หมดกันชื่อเสียงที่กูสะสมมา" เป็นถึงผู้จัดการ แต่ต้องปีนออกหน้าต่างเนี่ยนะ ใครเห็นคงอายเขาแย่

"แม่นึกว่าลูกอยู่ในห้องไม่ใช่เหรอ แล้วนี่ลูกไปไหนมาแต่เช้า" ธิมาพรเปิดประตูออกมาจังหวะที่ลูกชายกำลังจะเปิดพอดี

แต่ดินไม่ตอบ เพราะถ้าตอบไปคงได้โกหก เขาก็เลยเลือกที่จะเงียบแล้วเดินเข้าห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

"รุ้งล่ะครับน้า" พอออกมาดินก็เข้าไปที่บ้านหลังนั้นก่อน

"ให้พ่อไปส่งที่บริษัทแล้วจ้า"

"ทำไมไม่รอไปพร้อมผมล่ะครับ"

"แม่ก็ไม่รู้ เป็นอะไรกันอีกหรือเปล่า" ที่นางถามแบบนั้นเพราะเพิ่งจะเห็นไปเที่ยวมาด้วยกันเอง

"เปล่าหรอกครับ" อารมณ์ผู้หญิงนี่เข้าใจยากจริง

[บริษัท]

"ตอนเย็นพ่อไม่ต้องมารับหรอกนะ เดี๋ยวรุ้งขับมอเตอร์ไซค์กลับเอง" เพราะรถมอเตอร์ไซค์ของเธอยังจอดอยู่ที่บริษัท

หญิงสาวยืนมองพ่อขับรถออกไปถึงได้เข้ามาที่แผนก

"หัวหน้าคะ ฉันขอโทษด้วยที่ไม่ได้ลา" เพราะเธอลงโอทีไว้กับเพื่อนแล้ว แต่ไม่ได้มาทำ

"ก็เห็นมีคนลาให้แล้วไม่ใช่เหรอครับ" ..แถมคนที่ลาเป็นถึงผู้จัดการ

"เออ..ค่ะ" ทอรุ้งไม่ค่อยชินกับท่าทางที่เปลี่ยนไปของภาณุเลย ถ้าเป็นแต่ก่อนเขาคงจะมีคำพูดอะไรมากมายกว่านี้ แต่ตอนนี้พูดแค่นั้นแล้วเขาก็เดินไป

"น่าสงสารหัวหน้านะ"

"ใช่..ดูสิ ตามจีบมาตั้งหลายเดือน" หลายคนต่างก็พูดคุยกันเรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าทอรุ้งจะไม่ได้ยิน แต่เธอก็ไม่เคยแสดงออกว่าให้เขาเข้ามาในชีวิตของเธอสักที

"ผู้จัดการมา" เสียงนั้นแว่วเข้ามาในหูเมื่อตอนที่เธอกำลังทำงาน แต่หญิงสาวไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง เพราะถ้ามองเธอนั่นแหละจะเป็นเป้าสายตายิ่งกว่าผู้จัดการเสียอีก

"ตามสบายเลยครับ ผมแค่เข้ามาดูงานเฉยๆ" ดินเห็นว่าทุกคนยืนขึ้นเมื่อเห็นเขาเข้ามา

"ของล็อตนี้ที่จะส่งไปภูเก็ตค่ะ" เลขายื่นเอกสารส่งให้กับผู้จัดการได้ดู

ภูเก็ตเลยเหรอ หวังว่าคงไม่ใช่รถพ่อเรานะไกลขนาดนั้น ..ถึงแม้เธอจะตั้งหน้าตั้งตาทำงานแต่ก็ยังแอบฟังที่พวกเขาคุยกัน

"ดูคนขับรถด้วยนะ อยากจะให้เป็นหนุ่มแข็งแรงหน่อย เพราะถ้าให้คนที่มีอายุเดี๋ยวจะขับไม่ไหวเอา"

ประโยคนี้ออกจากปากของผู้จัดการ ทอรุ้งถึงกับหันไปมอง เขาก็มองมาที่เธอเช่นกัน เพราะคิดว่าเธอคงจะเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องรถคันที่ไปส่งของแน่

"ได้ครับ" ภาณุยืนรับงานอยู่ตรงนั้นและก็แอบสงสัย เพราะผู้จัดการไม่จำเป็นต้องเข้ามาดูงานที่จะส่งออกด้วยตัวเองแบบนี้ก็ได้ ยังไงเอกสารก็ต้องถูกส่งเข้าไปในห้องของผู้จัดการอยู่แล้ว

แล้วสายตาภาณุก็มองมาที่ทอรุ้ง เพราะพ่อของเธอเป็นพนักงานขับรถ ผู้จัดการคงจะเป็นห่วงเรื่องนี้ ระยะทางเป็นพันกิโลเมตร ซึ่งเขาก็ช่วยเธอไม่ได้ถ้าถึงคิวรถของพ่อเธอ แต่ด้วยอำนาจของผู้จัดการมันง่ายมากที่จะช่วยเธอเรื่องนี้

"ตอนเที่ยงไปทานข้าวด้วยกันนะ" พอเสร็จธุระจากตรงนั้นแล้ว ดินก็เดินตรงมาที่โต๊ะของเธอ โดยไม่แคร์สายตาใครทั้งนั้น

"ค่ะ" หญิงสาวตอบออกไปแล้วก็ก้มลงทำงานต่อ ที่เธอตอบไปแบบนั้นเพราะมีเรื่องอยากจะคุยกับเขาอยู่พอดี แต่เรื่องที่เธอจะคุยพูดตรงนี้ไม่ได้ด้วย

ดินแอบแปลกใจเล็กน้อยที่เธอตอบตกลงอย่างง่ายดาย ..พอได้คำตอบเขาก็เลยออกมาพร้อมกับเลขา ก่อนออกมาอดไม่ได้ที่จะมองไปดูใบหน้าของภาณุ จนคนที่ถูกมองต้องได้หลบสายตา

เที่ยงวันเดียวกัน.. พอสัญญาณพักเที่ยงดังขึ้น ทอรุ้งก็รีบไปหาเขาที่ห้องโดยไม่รอ

"ฉัน.."

"มาพบผู้จัดการหรือคะ เชิญเข้าไปข้างในได้เลยค่ะ"

"ขอบคุณค่ะ" แต่ก่อนขอเข้าไปยังไงก็ไม่ได้ ตอนนี้ยังไม่ทันได้ขอเลยด้วยซ้ำ คงเป็นเพราะทุกคนรู้ว่าเธอเป็นภรรยาเก่าของเขามั้ง

"นายซื้อยามาหรือยัง" นี่แหละคือสิ่งที่ทอรุ้งรีบมาหา

"ยาอะไร" ดินไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองก็รู้แล้วว่าคนที่ถามคือใคร และถามหายาอะไรแต่เขาแกล้งทำเป็นไม่รู้

"จะยาอะไรอีกล่ะ!"

"ทำไมต้องขึ้นเสียงด้วย" ชายหนุ่มมองไปที่ประตู เพราะถ้าใครเอาหูแนบฟังคงได้ยินเสียงที่เธอตะคอกเขาแล้ว

"นายยังไม่ซื้อยาคุมให้ฉันใช่ไหม"

"ยัง"

"แล้วจะทำยังไงกว่าฉันจะออกจากบริษัทได้ก็ตอนเย็น นายไปซื้อเดี๋ยวนี้เลยนะ" เพราะพนักงานธรรมดาไม่ถูกอนุญาตให้ไปไกลบริษัท แต่ถ้าไปซื้อที่ร้านขายยาข้างหน้า ทุกคนต้องมองแน่เพราะมันเป็นยาคุม

"ไปหาหมอ"

"เจ็บแค่นิดเดียวเองจะไปหาหมอทำไม"

"มาขึ้นรถ"

"แล้วมอเตอร์ไซค์ล่ะ"

"จอดไว้นี่แหละเดี๋ยวค่อยออกมาเอา" ดินเริ่มพูดด้วยอารมณ์ โมโหให้ตัวเองมากกว่าเพราะมัวแต่ติดประชุม ถ้าออกมาเร็วกว่านี้ ไม่มีทางที่เขาจะให้เธอขับรถมาเอง

ชายหนุ่มขับรถมาจอดที่หน้าบ้าน แล้วรีบเดินอ้อมไปเปิดประตูรถให้กับเธอ

"นายอย่าบอกแม่นะว่ารถล้ม" เพราะเธอกลัวว่าแม่จะไม่สบายใจ

"แล้วรถล่ะลูก" เดือนได้ยินสามีบอกว่าลูกสาวจะขับมอเตอร์ไซค์กลับมาเอง แต่พอเห็นติดรถมากับดินก็เลยถามดู

"เดี๋ยวดินจะออกไปเอาให้ค่ะแม่" ทอรุ้งพูดพร้อมกับมองหน้าเขาแบบขอร้อง

"จอดอยู่ที่หน้าหมู่บ้านครับ เดี๋ยวผมไปเอามาให้" สายตาของเขามองตามเธอไปแบบเป็นห่วง เพราะเห็นเธอพยายามเดินให้ปกติ คงกลัวแม่จะเห็นว่าตัวเองเจ็บขา

ค่ำมืดของวันเดียวกันนั้น..หลังทานข้าวเย็นเสร็จ

ป๊อก ป๊อก เสียงเคาะกระจกหน้าต่างเบาๆ

"มีอะไร" หญิงสาวรีบมาเปิดผ้าม่านดู

"ขาเป็นยังไงบ้าง กินยาหรือยัง" ที่ถามหมายถึงยาแก้เจ็บขา

"ยัง" เธอไม่กล้าขอยาจากแม่เพราะกลัวแม่ถามว่าเป็นอะไร

"ฉันว่าแล้ว" พอพูดจบดินก็กระโดดเข้ามาทางหน้าต่าง

"นายจะเข้ามาทำไม"

"หรืออยากให้แม่รู้ล่ะ ถ้าดึกๆ ลูกตื่น ใครจะดูแลลูก กินยาซะ" ชายหนุ่มเอายาออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วส่งให้กับเธอ

"อย่าบอกนะว่านายจะนอนที่นี่อีก"

"ก็บอกแล้วไงว่าช่วยจะดูแลลูก"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คนเสเพล