บทที่ 42 – ตอนที่ต้องอ่านของ คนเสเพล
ตอนนี้ของ คนเสเพล โดย ชะนีติดมันส์ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 42 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
"ดินจะไปไหนลูก"
"จะไปดูน้องฟ้าใสหน่อยครับ"
"แม่ว่าอย่าเพิ่งไปดีกว่า"
"ทำไมครับแม่" ชายหนุ่มที่กำลังจะออกมาจากบ้าน หลังจากที่ยืนมองอยู่ได้สักพักแล้ว ถึงกับหยุดแล้วหันกลับมาถามแม่
"ลูกอย่าลืม ว่าลูกเป็นได้แค่พ่อของน้องฟ้าใส ลูกไม่ใช่สามีของทอรุ้งอีกแล้ว" ทำไมนางจะไม่รู้ว่าอาการที่ลูกชายเป็นอยู่คืออะไร
ดินกลับเข้ามาในบ้านด้วยท่าทางที่ฉุนเฉียว เขาตรงไปที่ห้องนอนของตัวเอง แล้วเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า ..ที่จริงกำหนดที่เขาจะกลับคือพรุ่งนี้..แต่ไม่รอแล้ว
ได้กระเป๋าเสื้อผ้า ดินก็เดินออกมา
"ไหนลูกบอกว่าจะกลับพรุ่งนี้ตอนเย็นไง"
"อยู่ไปผมก็เหมือนคนไม่มีตัวตนอยู่แล้ว ผมไปนะครับแม่" เขาถือกระเป๋าเดินขึ้นรถ แล้วถอยออกมา
"ขอบใจนะ" ทอรุ้งเดินออกมาส่งชนกันต์ จังหวะนั้นรถเก๋งของดินก็ขับผ่านไป
"นั่นรถใคร" ที่ชนะกันต์ถาม เพราะคนขับรถเหยียบคันเร่งใส่จนเขาต้องได้มองตาม
"รถของคนข้างบ้าน"
"เดี๋ยวถ้าว่างเราจะมาเยี่ยมหลานอีกแล้วกัน" ชนกันต์ก็เลยไม่พูดถึงเรื่องเจ้าของรถคันนั้น
"ขอบใจอีกครั้งนะ"
พอชนกันต์จากไป ทอรุ้งก็กลับเข้ามาหาลูกในบ้าน หญิงสาวชะโงกหน้าไปมองดูเด็กทารกน้อยที่อยู่ในเปล
ป๊อก~ หยดน้ำตาของแม่ตกลงไปถูกลูกที่นอนอยู่ เธอต้องรีบเช็ดน้ำตาออก
"แม่ขอโทษนะ" หญิงสาวต้องได้รีบเอ่ยคำขอโทษ ให้ลูกรับรู้อารมณ์ของเธอตอนอยู่ในท้องก็หนักหนาพอแล้ว คลอดออกมาเธอยังทำน้ำตาหยดลงไปถูกลูกอีก
"ฟ้าใสตื่นหรือยังลูก" ธิมาพรทำงานบ้านเสร็จก็มาหาทอรุ้ง
"ยังเลยค่ะ" ทอรุ้งพูดพร้อมกับจับโน่นทำนี่ เพราะเธอไม่อยากให้แม่ของเขาเห็นว่าเธอกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน
วันต่อมา..
"คิดถึงตากับยายไหมลูก" เดือนและสามีกลับมาถึงก็เดินเข้าไปชื่นใจหลานสาว
ทอรุ้งเห็นแม่มาก็เลยทิ้งลูกไว้กับแม่ เพราะเธอต้องได้ไปเก็บผ้าอ้อมของลูกออกมาซัก
"พ่อของหนูล่ะทำไมยายไม่เห็นรถ" คำถามนี้ของแม่มันวิ่งเข้ามาสะกิดใจ ทอรุ้งถึงกับหยุดชะงัก ตั้งแต่เขาขับรถออกไปเมื่อวานนี้เธอก็ยังไม่เห็นเขากลับมาอีกเลย
"กลับไปทำงานตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว" ธิมาพรเห็นว่าคุณยายของฟ้าใสกลับมาแล้วก็เลยเดินเข้ามาได้ยินคำถามนั้นพอดี
เขากลับไปทำงานแล้วเหรอ.. เขาไม่คิดจะมาลาลูกก่อนไปเลยหรือไง ..หัวใจดวงน้อยๆ หล่นลงไปอยู่ตาตุ่ม เมื่อรู้ว่าเขากลับไปแล้ว เพราะคงอีกเป็นปี กว่าเขาจะกลับมา
เสียงสะอื้นดังออกมาจากลำคอ หญิงสาวต้องรีบวิ่งเข้าไปในห้อง เพราะกลัวว่าพวกผู้ใหญ่จะได้ยิน เดือนและธิมาพรต่างก็มองหน้ากัน เพราะพวกนางได้ยินเสียงนั้นชัดเลย
หลายเดือนผ่านไป..
ทอรุ้งให้ลูกออกนมแล้ว เธอก็เลยต้องได้ไปหางานทำ เพราะตอนนี้จะอยู่เฉยๆ ไม่ได้
หญิงสาวได้งานที่บริษัทเดียวกันกับพ่อ เพราะพ่อของเธอฝากงานให้ บริษัทนี้เป็นบริษัทส่งออกสินค้าไปทั่วประเทศ
วันไหนที่พ่อไปออกรถ เธอก็ต้องได้ขับมอเตอร์ไซค์มาทำงานเอง
"คุณรุ้งครับ"
"คะหัวหน้า"
"งานตรงนี้มันหนักเกิน คุณไม่ต้องมายกของหรอกครับ เอาไว้ให้ผู้ชายทำ" ว่าแล้วภาณุก็เดินไปยกเอาของจากมือเธอแล้ววางลงที่เดิม "เห็นไหมเนี่ยมือสวยๆ ช้ำหมดแล้ว" ว่าแล้วภาณุก็จับมือของเธอมาลูบเล็กน้อย
"ขอบคุณค่ะ ฉันไม่เป็นอะไร" หญิงสาวรีบดึงมือตัวเองกลับออกมา
"ผมชินกับการขับรถแล้วล่ะครับ"
"คุณพ่อไม่ต้องพูดแบบนั้นกับผมหรอกครับผมอายุน้อยกว่า"
"ไม่ได้หรอกครับหัวหน้า"
"รุ้งว่าพ่อกลับไปพักผ่อนดีกว่าค่ะ รุ้งขอตัวนะคะหัวหน้า"
"ถ้างั้นผมเข้าไปข้างในก่อนนะครับ" ภาณุรีบขอตัวจากพ่อของเธอแล้วเดินตามหลังเธอไป
"นี่อะไรคะ" หญิงสาวมอง กล่องเล็กๆ ที่ภาณุส่งมาให้ ในขณะที่เดินตามกันมานั้น
"ได้ยินว่าน้องฟ้าใสอายุครบ 1 ขวบ ของรับขวัญหลานครับ"
"ขอบคุณค่ะ" บอกว่ารับขวัญลูก เธอก็เลยจำเป็นต้องได้รับไว้ เพราะมันเป็นของรับขวัญชิ้นแรก
เข้ามาถึงแผนกข้างในก็เห็นเพื่อนกำลังคุยอะไรกันไม่รู้เจี๊ยวจ๊าวไปหมด
"มีอะไรเหรอคะ" ทอรุ้งถามออกไปแบบสงสัย ว่ามีเรื่องอะไรกัน
"บริษัทเรามีผู้จัดการคนใหม่เข้ามารับตำแหน่งแล้วนะ"
"ตำแหน่งผู้จัดการก็ว่างนานแล้วสมควรที่จะมีแล้วนี่คะ"
"สมควรที่จะมีน่ะมันก็ใช่ แต่ผู้จัดการคนใหม่นี้สิ หล่อลากดินเลย"
"แค่ฉันเห็นแว๊บเดียว เข่าฉันแทบจะทรุด"
"ป้า เก็บน้ำหมากด้วย" เพื่อนๆ ต่างก็พูดคุยกันไปทั่ว ชื่นชมในความหล่อของผู้จัดการที่เพิ่งจะเข้ามารับตำแหน่ง
"อะไรจะหล่อขนาดนั้น" ทอรุ้งนึกขำเพื่อนๆ และเธอก็ไม่ได้สนใจผู้จัดการสุดหล่อคนนั้นเลย ที่จริงเธอไม่ได้สนใจใครเลยด้วยซ้ำ เพราะนอกจากหัวหน้าแผนกของเธอแล้ว ยังมีเพื่อนพนักงานหนุ่มๆ อีกหลายคนที่คอยขายขนมจีบให้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คนเสเพล