ใกล้เลิกงานวันเดียวกันนั้น วันที่พ่อเธอไปออกรถ
{"อะไรนะ นายไปแคมป์ตั้งแต่เมื่อไร"}
{"ฉันยังไม่ได้บอกเธอเหรอ สงสัยฉันลืม"} ตอนนี้ชนกันต์มาตั้งแคมป์ที่ต่างจังหวัด
{"แล้วฉันจะกลับยังไงเนี่ยพ่อก็ไปออกรถแล้ว มอเตอร์ไซค์ก็ไม่ได้เอามาด้วย"}
{"แล้วว..."} ชนกันต์อยากจะถามว่า แล้วพ่อของลูกล่ะวันนั้นยังเห็นขับรถตามหลังกันอยู่เลย ..แต่ทอรุ้งก็ตัดสายไปเสียก่อน
พอถึงเวลาเลิกงานหญิงสาวก็ออกมายืนที่หน้าบริษัท ถ้ามีรถรับจ้างคงต้องได้จ้างให้เขาไปส่งแล้วล่ะ
"ขึ้นรถ" ดินจอดรถแล้วก็เลื่อนกระจกลงตรงที่เธอนั่งอยู่ศาลาหน้าบริษัท
หญิงสาวลุกขึ้นแต่เธอไม่ได้เดินมาหาเขา ทอรุ้งเดินไปที่รถอีกคัน
"เพื่อนยังไม่มารับเหรอครับ" ภาณุรีบลงจากรถแล้วเดินอ้อม
ส่วนดินเห็นแบบนั้นก็ขับรถออกไปเลย เพราะคิดว่าเธอคงจะนัดกับภาณุให้ไปส่งที่บ้าน เขารู้สึกหน้าแตกแบบหมอไม่รับเย็บเลย
"ใช่ค่ะเพื่อนไม่ว่าง" พูดกับภาณุแต่สายตาแอบมองตามรถคันที่เพิ่งขับออกไป
"ผมไปส่งเองครับเชิญขึ้นรถเลย"
ทอรุ้งไม่ปฏิเสธอีกแล้ว ไปกับภาณุยังดีกว่าไปกับเขา เพราะเธอจะเข้าใกล้เขาอีกไม่ได้ กลัวหัวใจตัวเองมากยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด
ขับรถออกมาเกือบครึ่งชั่วโมงได้ ก็มาถึงร้านขายยา
"คุณจะซื้อยาเหรอครับ"
"เปล่าหรอกค่ะ รุ้งจะลงที่นี่ขอบคุณมากนะคะที่มาส่ง"
"บ้านของคุณอยู่แถวนี้เหรอครับ"
"ไม่ใช่ค่ะ เพื่อนทำงานที่นี่ เดี๋ยวรุ้งจะกลับกับเพื่อน" เธอเห็นรถของแพรไหมยังจอดอยู่หน้าร้านก็เลยให้เขาส่งลงตรงนี้
"ถ้างั้นพรุ่งนี้เจอกันนะครับ" เขารู้ได้ในทันทีว่าเธอคงยังไม่พร้อมให้ไปที่บ้าน
"ขับรถกลับดีๆ นะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ"
"ใครมาส่งแกวะ" แพรไหมรีบเก็บของเพื่อที่จะออกมาแต่ก็ไม่ทัน
"หัวหน้าที่ทำงาน"
"เขาจีบแกเหรอ"
"จีบที่ไหน"
"เพื่อนเรานี่เนื้อหอมจังเลยนะ"
"อย่าพูดบ้า.. เก็บของเสร็จหรือยัง"
"เสร็จแล้วค่ะ..ตกลงมาขอกลับบ้านด้วยหรือมาข่มขู่กันแน่เนี่ย" ว่าแล้วแพรไหมก็เลื่อนรถมอเตอร์ไซค์ออกมา แล้วทั้งสองก็ขับรถกลับมาที่บ้าน
แพรไหมเห็นรถของดินจอดอยู่ก็คิดอยากจะถาม แต่ไม่ถามดีกว่าเดี๋ยวไปกระตุ้นจิตใจเพื่อน
"น้องฟ้าใสล่ะคะน้า" ทอรุ้งถามเมื่อเห็นย่าของลูกสาวเดินออกมาจากบ้าน
"อยู่กับพ่อจ้า" ธิมาพรเพิ่งจะว่างเมื่อตอนที่พ่อและแม่น้องฟ้าใสกลับมา เพราะตากับยายไปออกรถนางก็เลยต้องได้ดูหลานอยู่คนเดียว
"ถ้าแกอยากชื่นใจหลานคงต้องไปบ้านโน้นแล้วล่ะ" ตอนที่ขับรถมาแพรไหมถามหาหลานสาวจ้อยๆ "แกไม่ไปกับฉันเหรอ"
"แกไปเถอะฉันจะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า" ทอรุ้งแอบมองตามหลังแพรไหมที่เดินเข้าไปในบ้านของเขา ถึงแม้อยากจะตามไปแต่ต้องห้ามตัวเองไว้
"ว่าไงคะคนเก่ง"
"อ้าวไหม" ดินซึ่งกำลังถอดเสื้อสูท และปลดกระดุมเสื้อเชิ้ต ได้หันมามองคนที่ทักลูกสาว
อึก! แพรไหมต้องได้รีบละสายตาจากพ่อหันมาคุยกับลูกต่อ "เราออกไปเล่นข้างนอกกันไหม" ว่าแล้วแพรใหม่ก็อุ้มหลานออกมาโดยที่ไม่รอให้พ่ออนุญาต คนอะไรจะน่ามองปานนั้น ขนาดไม่ได้หลงรักยังอดไม่ได้ที่จะมอง
แง้~ ฟ้าใสไม่ค่อยสนิทกับ แพรไหมพอถูกอุ้มออกมาก็ร้องไห้งอแงจะหาพ่อ
"นี่น้านะหนูจำไม่ได้เหรอ" แต่ฟ้าใสก็ยังคงงอแง จนดินเดินตามออกมา
"จะร้องไห้ทำไมครับ ถ้าหนูไม่อยากเรียกน้าก็เรียกป้าสิลูก"
"หยาบคาย!" แพรไหมตำหนิดิน ส่วนดินได้แต่ขำ พอพูดแบบนั้นแล้วลูกก็หยุดร้องไห้
ส่วนบ้านอีกหลังก็ได้แต่ยืนมองที่พวกเขาหัวเราะกัน ..ทำไมฉันยืนกับนายแล้วดูไม่เหมาะสมกันเลยล่ะ คนอื่นยืนกับเขายังเหมาะสมมากกว่า
20 : 20 น.
"น้าพรคะ" ทอรุ้งเห็นว่ามันดึกแล้ว บ้านนี้ยังไม่เอาลูกไปส่งเธอเลย หญิงสาวก็เลยมาตาม
"น้านึกว่าหนูหลับไปแล้วเห็นปิดไฟในห้องนอน ก็เลยไม่ได้เอายัยหนูไปส่ง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คนเสเพล