"เราไปไม่ได้หรอก เพราะเดินเรื่องค้างไว้" ยังมีเอกสารอีกหลายอย่างที่แพรไหมต้องเซ็นต์ และก็รอวางเงินให้กับนายหน้าที่จัดหาคนงานส่งต่างประเทศ
"เธอยังจะไปอีกเหรอ"
"ถ้าฉันไม่ไป คงถูกแม่ตีแน่เลย"
เรื่องนี้ทอรุ้งรู้ดี เพราะเคยเห็นเพื่อนเจออยู่บ่อยครั้งตอนสมัยเริ่มแตกเนื้อสาว แต่ตอนนี้พวกเธออายุก็ล่วงเลยผ่านมามากแล้วไม่คิดว่า เพื่อนยังจะถูกแม่ทำโทษอยู่อีก
"จะเอายังไงกัน ฉันไม่มีเวลาอยู่กับพวกเธอทั้งวันนะ" ชายหนุ่มเริ่มจะทำหน้าเอือมระอา เพราะมันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเขาเลย
"ไป.. เพื่อนฉันจะไปกับนาย ฝากดูแลแพรไหมด้วย" ว่าแล้วทอรุ้งก็ดันแพรไหมขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ของชนกันต์
"รุ้ง"
"ไปเถอะน่า" ทอรุ้งคิดว่าแผนนี้นอกจากจะช่วยแพรไหมจากเสี่ยตัณหากลับแล้ว มันยังจะช่วยแพรไหมจากครอบครัวที่เห็นแก่ตัวของเพื่อนได้อีกด้วย
เพราะถ้าแพรใหม่ไปต่างประเทศ คงจะไม่หมดหนี้สินง่ายๆ แน่ ทางบ้านคงจะกู้ยืมเงินใช้ต่อกันแบบสบายใจ
พอแพรไหมขึ้นรถได้ ชนกันต์ก็รีบออกตัวอย่างไว จนเธอต้องได้โน้มตัวลงมากอดเอวเขาไว้แน่น เพราะถ้าไม่งั้นคงจะปลิวไปตามแรงลม
ขับรถอยู่ร่วมชั่วโมงได้ เขาก็มาถึงกลุ่มเพื่อนที่จอดรอ
"กูว่าละ ที่มันสายเพราะแบบนี้นี่เอง"
"แต่ทริปนี้เราไม่ได้ตกลงกันไว้ว่าจะเอาสาวๆ มาด้วยนี่ มึงทำแบบนี้พวกกูก็ตายสิวะ"
"เหตุสุดวิสัยนิดหน่อย ไปต่อกันเถอะน่า" ว่าแล้วเขาก็ขับรถนำหน้าขบวนของเพื่อนไป เพื่อนก๊วนนี้มีทั้งหมดห้าคน พวกเขาถึงไหนถึงกัน บางคนทำงานอิสระ บางคนเปิดร้านค้าแต่ถ้าจะออกทริป ก็ปิดไม่งั้นก็ให้ครอบครัวขายแทน
"นายจะไปไกลเลยเหรอ" ขับรถมาเกือบจะสามชั่วโมงได้ยังไม่ถึงที่พักเลย หญิงสาวก็เลยอดที่จะถามไม่ได้
"จะเปลี่ยนใจยังทันนะ หรือจะลงตรงนี้เดี๋ยวส่งขึ้นรถทัวร์กลับ" ชายหนุ่มเปิดหมวกกันน็อคหันมาคุยในขณะที่กำลังขับรถอยู่
"นายใจเย็นหน่อยสิมองข้างหน้าโน่น" ถึงแม้ชีวิตเธอจะไม่มีอะไรดีเลย แต่เธอก็ยังอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อ
"ถ้างั้นก็เงียบๆ ไว้ ไม่ต้องพูดมาก ถึงแคมป์แล้วก็ไม่ต้องพูดอะไรนะ" ที่จริงก็ใกล้จะถึงแล้ว แต่เขาขี้เกียจบอก ขี้เกียจพูด
แพรไหมแอบมองทางที่เขาพาขับรถเข้าไปมันเป็นป่าลึก และต้นไม้ใหญ่สองข้างทางเรียงรายกันน่ากลัวมาก แถมมีแต่ผู้ชาย ..นี่เธอกำลังทำอะไรอยู่
เพียงไม่นานรถทุกคันก็ได้มาหยุดอยู่ที่เนินภูเขาเล็กๆ แต่มองทอดออกไปแล้ววิวสวยมาก ..พวกเขารู้จักที่แบบนี้ได้ยังไง
"เราจะค้างที่นี่กันสองคืน แล้วไปต่อกันอีกสักสามคืน ค่อยกลับ" โตโน่เพื่อนในก๊วนเดียวกัน ส่วนมากเขานี่แหละจะเป็นคนหาทำเลตั้งแคมป์
อะไรนะ?? ห้าคืนเลยเหรอ มาหลายคืนไม่เท่าไรหรอก แต่เธอไม่มีเสื้อผ้าติดมาด้วยนี่สิจะไม่เน่าเลยเหรอ เพราะดูจากทางที่เข้ามาแล้ว คงไม่มีตลาดให้ซื้อเสื้อผ้าแน่ แถมเงินก็ไม่ได้เอามาด้วย เพราะรีบตามทอรุ้งออกมาก็เลยไม่ได้หยิบอะไรเลย
"มาช่วยกันยกของลงหน่อยเร็ว" รถทุกคันช่วยกันขนของ มอเตอร์ไซค์คันไหนที่รองรับของได้เยอะหน่อยก็จะรับของเพื่อนด้วย
อย่างเช่น ของชนกันต์ เพราะมีผู้หญิงติดรถมาด้วยเขาก็เลยต้องได้โยนภาระนั้นให้เพื่อน
"อันไหนเต็นท์ของฉัน" แพรไหมกระซิบถามชนกันต์เมื่อเห็นกางเต็นท์เสร็จเรียบร้อยแล้ว
"ก็อันเดียวกับฉันนี่แหละ"
"นายจะบ้าเหรอ จะให้ฉันนอนกับนายได้ยังไง"
"ถ้าไม่อยากนอนกับฉัน ก็เลือกได้เลยอีกสี่เต็นท์ว่าเธออยากจะนอนกับใคร"
"?!!!?" จะพูดอะไรมากก็ไม่ได้ เพราะดูจากคำพูดแล้วเขาไม่ได้สนใจเธอเลย
"เบาๆ กันหน่อยนะ อย่าลืมว่าเพื่อนไม่มีสาวๆ ติดมาด้วย" แต่เพื่อนมองว่าทั้งสองกำลังหวานกันอยู่ เพราะเห็นกระซิบกระซาบกัน
"พูดมาก กระเป๋าเสื้อผ้ากูอยู่กับใครวะ" พอถามหากระเป๋าเสื้อผ้าชนกันต์ถึงกับนึกได้ แล้วมองกลับมาที่เธอ ..ตายห่าแล้วเธอไม่ได้เอาอะไรมาด้วย
เพื่อนอีกคนส่งกระเป๋าของเขามาให้
"เข้ามา" พอได้กระเป๋าเขาก็เลยชวนเธอเข้าไปในเต็นท์ แพรไหมรีบตามเข้าไปอย่างว่าง่าย เพราะเห็นสายตาของเพื่อนเขาที่มองเธอแล้ว กลัวว่าจะหนีเสือปะจระเข้มากกว่า
"เตรียมตัวไปอาบน้ำ แถวนี้มีลำธาร"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คนเสเพล