เช้าวันต่อมา..
"เมื่อคืนเห็นไอ้เจ้ากันต์มันกลับมาแล้วไม่ใช่เหรอ"
"คะ?" แพรไหมที่เพิ่งจะเดินลงมาจากบ้าน ถึงกับตกใจเสียงถามนั้น "เออค่ะ"
"แล้วตอนนี้มันไปไหนแล้วล่ะ มีเรื่องจะคุยกับมันก็ไม่ได้คุยสักที"
เธอจะรู้ไหมว่าเขาไปไหน ยังไม่ได้คุยกันสักคำ
"แล้วหนูเป็นยังไงบ้างมาอยู่ที่นี่" เห็นว่าเธอไม่ตอบก็เลยถามเรื่องอื่นไป
"ก็..ดีค่ะ" ขณะที่กำลังพูดคุยกับเสี่ยชนะชัยอยู่นั้น ชนกันต์ก็ได้ขับรถเข้ามา
"มาแล้วเหรอ พ่อมีเรื่อง.."
"ไปเก็บกระเป๋า" ชนกันต์ไม่ได้พูดกับพ่อ เขามองมาที่เธอแล้วก็สั่ง
"เก็บกระเป๋าไปไหน"
"จะถามทำไม บอกให้เก็บกระเป๋าก็เก็บ"
"ถ้าแกว่างแล้วค่อยคุยกับพ่อแล้วกัน" เสี่ยชนะชัยไม่เคยยอมใคร แต่กับลูกชายหัวแก้วหัวแหวน..ก็เป็นแบบที่เห็นนี่แหละ
แพรไหมกลับเข้าไปในห้องนอน และเก็บของทุกอย่างที่เป็นของเธอ เพราะคิดว่าเขาคงจะพากลับไปส่งที่บ้านแน่
"มาขึ้นรถคันนี้" ทีแรกเธอกำลังจะเดินไปเอามอเตอร์ไซค์ของตัวเองออกมา แต่เขาเข้าไปหาแล้วคว้าเอากระเป๋าจากมือเธอมาที่รถมอเตอร์ไซค์ของเขาเอง
แพรไหมก้าวขึ้นซ้อนท้ายพร้อมกับรับหมวกกันน็อคจากเขามาสวมใส่
"ส่งกระเป๋ามาฉันถือเองก็ได้" หญิงสาวพูดขึ้นเพราะเห็นแล้วมันดูเกะกะเวลาขับรถ แต่ชนกันต์ก็ไม่ได้ส่งให้ เขายังห้อยไว้ข้างหน้า แล้วขับรถออกไป
แพรไหมเห็นเขาขับรถออกมาทางหน้าหมู่บ้านก็แอบแปลกใจ เพราะเธอคิดว่าเขาจะไปส่งที่บ้าน แต่พอรถมุ่งหน้าไปที่ต่างจังหวัด เธอก็เริ่มสงสัย
"นายจะไปไหน"
เขายังคงไม่ตอบ แต่ตอนนี้เธอคิดว่าเขาคงจะตามเพื่อนไปตั้งแคมป์ นี่เขากลับมารับเราเหรอ หรือว่าเขาลืมของแล้วกลับมาเอา ..คงจะเป็นอย่างหลังมากกว่า
"ส่งกระเป๋ามา ฉันถือเอง" ถ้ารู้ว่าเขาไม่ได้พาไปส่งที่บ้าน ก็คงไม่เก็บของมาทั้งหมดแบบนี้
"นั่งดีๆ ไม่ต้องพูดมาก"
พอถูกดุเธอก็เลยเงียบ หญิงสาวกอดเอวเขาอยู่แบบนั้นจนเผลอหลับไป
"แล้วเมื่อไรจะถึงเนี่ย" ชายหนุ่มแวะจอดรถที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เขาต้องได้นั่งทำตัวตรงไว้ และใช้ขาตัวเองเป็นที่ค้ำยันรถ จะใช้ขาตั้งก็ไม่ได้ เพราะเดี๋ยวรถเอนไม่งั้นคนที่หลับอยู่ข้างหลังคงต้องตกแน่
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป..
"ถึงแล้วเหรอ" หญิงสาวถามด้วยท่าทางที่ยังงัวเงีย ใบหน้างามมองซ้ายมองขวาแต่ก็ไม่เห็นใคร
"นั่งดีๆ แล้วอย่าหลับอีกล่ะ" ว่าแล้วเขาก็ขับรถไปต่อ
ขับรถมาอีกสองชั่วโมงก็ถึงทางเลี้ยวเข้า ทางนี้ดูกันดารกว่าตอนที่มาคราวก่อน
"มาโน้นแล้ว" เอกเพื่อนหนึ่งในห้าเห็นรถของชนกันต์มาก็เลยบอกเพื่อนๆ
"ว่าไงจ๊ะน้องแพร" โตโน่รีบเดินมารับกระเป๋าจากเพื่อน
แพรไหมไม่ตอบเธอก้าวลงรถคันใหญ่ แต่เกือบจะเสียหลัก โตโน่กำลังจะรับแต่ไม่ทัน ชนกันต์หันกลับไปคว้าเธอไว้ก่อน
"ซุ่มซ่าม" พอรับได้เขาก็ปล่อยให้เธอยืนเอง
"!!" ทำไมต้องพูดตรงขนาดนั้นด้วย
"ก็จะได้พาไปถูกไง"
"เบา"
"เบาก็เอามันตรงนี้แหละ"
แพรไหมเดินขยับเข้าไปอีกนิด เพราะกลัวว่าเขาจะได้ยินเสียงตอนที่ปล่อยออกมา
พอเสร็จธุระเขาก็เดินตามหลังเธอ หญิงสาวเดินกลับมาก็รีบมุดเข้าไปในเต็นท์ ..ส่วนชนกันต์ก็กลับไปนั่งรวมกลุ่มกับเพื่อน
"ทีหลังเราไม่ต้องเชื่อมันแล้วนะว่า ทริปจะไม่มีผู้หญิง" เพื่อนเริ่มจะอิจฉา แต่กับผู้หญิงที่เคยพามาก็ไม่เห็นเขาจะเทคแคร์แบบนี้เลย
"พูดมากแดกเข้าไป เมาแล้วจะได้ไปนอน" ว่าแล้วชนกันต์ก็ยกเบียร์ที่ยังคาอยู่ในแก้วขึ้นมาดื่มรวดเดียวจนหมด ..วันนี้มีทั้งเหล้าและเบียร์แต่เขาเลือกดื่มเบียร์
สองชั่วโมงผ่านไป..
"กันต์" เธอเผลอหลับไปแต่พอมารู้ตัวอีกทีเหมือนมีคนกำลังทำอะไรกับร่างกายของเธออยู่ และที่หญิงสาวเรียกชื่อ เพราะกลัวว่าเพื่อนของเขาเมาแล้วจะเข้าเต็นท์ผิด
"หือ" ชายหนุ่มที่กำลังมัววุ่นอยู่กับหน้าอกของอีกฝ่าย เปล่งเสียงออกมาแค่ในลำคอ
พอรู้ว่าเป็นเขาเธอก็เลยปล่อย มือหนาค่อยๆ ลูบไล้ต่ำลงไปจนถึงเนินน้องสาว ขาเรียวหนีบเข้าหากันจนแนบชิด เพราะตอนนี้นิ้วของเขาเริ่มจะซุกซน
"อือ" เขาตำหนิเธอโดยการเปล่งเสียงออกมาแค่ในลำคอ เพราะไม่ชอบใจที่เธอหวง
แต่หญิงสาวก็ไม่ยอมเปิดทางให้ เพราะตั้งแต่มาถึง ยังไม่ได้ทำความสะอาดร่างกายเลย แถมยังเพิ่งไปปล่อยเบามา ก็เลยไม่กล้าให้เขาแตะต้องส่วนนั้น แต่ชายหนุ่มไม่ละความพยายามส่งนิ้วเข้าไปจนสำเร็จ
"อื้อ" พอนิ้วของเขาเข้าไปได้ก็เริ่มอยู่ไม่นิ่ง จนมีเสียงครางออกมาจากลำคอของหญิงสาว "อื้อ อื้อ อื้อ" เสียงนั้นดังเป็นจังหวะเมื่อเขาขยับนิ้วเร็วขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คนเสเพล