จ้าวไห่เป็นคนแรกที่มาถึงก่อน ตามมาด้วยซูหย่า
เมื่อเห็นหลี่โม่มาถึงเช่นกัน สีหน้าของจ้าวไห่ก็เต็มไปด้วยความสงสัย ความเร็วรถจีอาร์ทีของเขาไม่ได้ช้า คนอื่นยังมาไม่ถึงเลย หลี่โม่กลับมาถึงก่อน?
“โอ้ หลี่โม่ ไม่คิดว่าจะขึ้นแท็กซี่เร็วขนาดนี้? มาทางลัดเหรอ?”
จ้าวไห่หัวเราะอย่างติดตลก และในขณะที่พูดเขาก็เหลือบไปมองข้างหลังของหลี่โม่
ดูเหมือนหลี่โม่จะลงจากรถเบนท์ลีย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด
เป็นไปได้เหรอ?
เดาว่าตัวเองตาลายแล้ว
ซูหย่าก็พูดอย่างเย้ยหยันว่า “คงจะวิ่งมาล่ะสิ”
จ้าวไห่หัวเราะ
หลี่โม่ก็ไม่ได้สนใจอะไร
ทั้งสองหันตัวกลับแล้วเข้าไปข้างในก่อน
หลี่โม่รอครู่หนึ่ง เฉียวเจิ้งหลงก็วิ่งเข้ามาพูดกับหลี่โม่ไม่กี่ประโยค จากนั้นก็หันหลังเดินจากไป
พอดีกับที่เพื่อนร่วมงานเก่าอีกหลายสิบคนก็ล้วนมาถึงกันแล้ว
“หลี่โม่? นายมาถึงก่อนจริง ๆ” หลายคนเห็นหลี่โม่ยืนอยู่ที่ประตูก็เกิดความสงสัย
ผู้ชายคนนี้ไม่มีรถไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเร็วกว่าพวกเขาที่มีรถกัน?
รวดเร็วจริง ๆ !
หลี่โม่ยิ้มและพูดว่า "คนขับใช้ทางลัด"
เมื่อไม่กี่คนได้ยินก็รู้สึกผิดหวังทันที
ซ่งเหวินเหวินพูดอย่างจิกกัดว่า “คนขับอะไรกัน ขึ้นแท็กซี่ก็คือขึ้นแท็กซี่ หยุดเสแสร้งจะตายไหมยะ?”
ซ่งเหวินเหวินในตอนนี้สูญเสียความกระตือรือร้นที่มีต่อหลี่โม่ไปแล้ว
ตอนอยู่บนรถ เธอก็รู้แล้วว่าหลี่โม่เป็นผู้แพ้โดยสมบูรณ์
เรื่องเปิดร้าน เรื่องเหมาจองภัตตาคารห้าล้านอะไรนั่น ปลอมทั้งนั้น!
ต้องเป็นหน้าม้าที่หามาแน่
ซ่งเหวินเหวินเล่าเรื่องนี้ให้หลายคนฟังด้วย ทุกคนเห็นพ้องกันว่าหลี่โม่กลัวที่จะอับอายต่อหน้าซูหย่า ดังนั้นเขาจึงจงใจกุเรื่องขึ้น
คนกลุ่มหนึ่งส่ายหัวแล้วหัวเราะอย่างดูถูก จากนั้นก็หันหัวเดินจากไป
หลี่โม่เพียงแค่ยิ้ม ๆ งานเลี้ยงนี้น่าเบื่อจริง ๆ
แค่กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่มองหาคนที่เหนือกว่าตัวเอง
ไม่นานคนกลุ่มหนึ่งก็รวมตัวกันนั่งอยู่ในห้อง
ภัตตาคารกวนเหรินถังนั้นค่าใช้จ่ายไม่น้อย และยังเป็นโรงแรมที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง
คนที่สามารถมาทานอาหารที่นี่ได้ ล้วนเป็นคนร่ำรวย
เพื่อนร่วมงานเก่าหลายคนไม่เคยมาที่นี่ และพวกเขามองไปรอบ ๆ อย่างประหลาดใจ
งานเลี้ยงปกติจะนั่งสบาย ๆ แต่วันนี้ต่างออกไป
ทุกคนต่างระมัดระวังตัวมากและยังโน้มน้าวจ้าวไห่ให้นั่งตรงหัวโต๊ะ จากนั้นทุกคนก็นั่งลง
หลี่โม่เป็นคนที่ถูกลืมไปนานแล้ว ดังนั้นเขาจึงหาที่สำหรับนั่งสบาย ๆ
ทุกคนไม่พูดอะไรและรู้อยู่ในใจเป็นอย่างดี
ตามสถานะของหลี่โม่ ไม่มีใครอยากจะประจบเขา
ทันทีที่เขานั่งลง จ้าวไห่ก็ดีดนิ้วเรียกพนักงานเสิร์ฟแล้วพูดว่า "นำไวน์แดงมูตอง กาเดต์มาสามขวด และเหล้าขาวอีกสองขวด"
ไม่นานพนักงานเสิร์ฟก็นำไวน์มา
"ว้าว! ไวน์แดงมูตอง กาเดต์ ราคาหนึ่งแสนต่อขวด!"
“โอ้โห ประธานจ้าวเจ๋งเกินไปแล้ว! ที่แท้ก็มีทั้งเงินทั้งอำนาจ”
“ไม่สนแล้ว ต่อไปนี้ฉันจะติดตามประธานจ้าว”
ทุกคนต่างรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากและดวงตาของพวกเขาก็มีไฟร้อนแรง
จ้าวไห่ยิ้มเล็กน้อยและโบกมือของเขา “ไม่เอาน่า นี่มันแค่ไวน์ไม่กี่ขวด อย่างที่พวกนายรู้ พวกเราเริ่มต้นเปิดบริษัทโดยการติดต่อกับลูกค้า และมีการวิจัยมากมายเกี่ยวกับไวน์ ไวน์แดงมูตอง กาเดต์ของโรงบ่มไวน์เหล่ยฮว้านี่ถือว่าไม่แพงสำหรับราคาหนึ่งแสน "
เมื่อซูหย่าได้ยินประโยคนี้ ดวงตาของเธอก็ลุกวาว เริ่มแรกจ้าวไห่ก็เคยจีบตัวเองมาก่อน
ตอนนั้นตัวเธอยังเด็กและมองผู้ชายไม่ออกจึงไม่ได้ตอบตกลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณชาย แห่ง ประตูมังกร
ไอ้หลี่โม่โดนตบทุกตอน แม่งโคตรซาดิสต์เลย...
ติดตามความปัญญาอ่อนของคนแต่ง อิเมียมันเกลียดผัวมันทุกตอน แล้วมันอยู่กันได้ไงสี่ปี...
เมียโกรธผัวทุกตอน แล้วมันรักของมันได้ไง อิหยังว่ะ...
มีแต่ตบตีทั้งเรื่อง อ่านไปก็เซ็งพระเอกโดนตบทุกตอน อิหยังว่ะ...