คุณชาย แห่ง ประตูมังกร นิยาย บท 672

ครูว์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้าช้า ๆ และพูดว่า “ครับ!”

ครูว์รู้ตัวตนของจางเจียต้งและยิ่งรู้ดีว่าเขาไม่สามารถขัดคำสั่งของจางเจียต้งได้

“นายแข็งแกร่งมาก การที่สามารถฆ่าคาร์ลได้อย่างง่ายดายขนาดนี้ มันเกินความคาดหมายของฉันไปอย่างสิ้นเชิง แต่ฉันแข็งแกร่งกว่าคาร์ล เพราะฉันมีสายเลือดของคิงคอง!”

ครูว์ยืดแขนทั้งสองข้าง กล้ามเนื้อที่ใหญ่โตอยู่แล้วของเขาปูดพองขึ้น เสียงแคว่กดังขึ้น กล้ามเนื้อที่ใหญ่ขึ้นเป็นมัดฉีกสื้อคลุมของคาร์ลออกเผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่แข็งราวกับหินทั้วทั้งร่าง

ด้วยสายเลือดของคิงคอง ทำให้พลังของครูว์สามารถเพิ่มขึ้นสามถึงห้าเท่าได้ในพริบตา และยิ่งเสริมความสามารถในการต้านทานการโจมตีของเขาขึ้นไปด้วย

ครูว์เคยบุกเข้าไปในที่พักของเจ้าพ่อใหญ่ที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนาด้วยเลือดของคิงคองมาแล้ว แม้ว่าร่างกายจะถูกยิงกว่าสิบนัดก็ยังสามารถสังหารเจ้าพ่อใหญ่รวมทั้งกลุ่มบอดี้การ์ดของเขาจนสิ้น

พลังป้องกันขั้นสุดยอดที่ไม่เกรงกลัวกระสุนนั้นทำให้ครูว์ผ่านพ้นวิกฤตมาได้หลายครั้ง ครูว์คิดว่าครั้งนี้เองก็เช่นกัน เขาจะต้องใช้พลังแห่งสายเลือดนี้สังหารหลี่โม่ให้ตายไม่มีที่ฝังได้แน่นอน

หวูผิงผิงและคนอื่น ๆ ซ่อนตัวอยู่หลังโซฟาด้วยความตื่นตระหนก การเปลี่ยนแปลงบนร่างกายของครูว์นั้นทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนกำลังดูหนังอยู่อย่างไรอย่างนั้น พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีมนุษย์ประหลาดเช่นนี้อยู่ในโลกด้วย

กู้หยุนหลานเองก็ตื่นตกใจกับการเปลี่ยนแปลงของครูว์ เธอเอ่ยกระซิบกับหลี่โม่ “คุณต้องระวังตัวด้วยนะ”

“วางใจเถอะ ก็แค่เหลืบไรตัวหนึ่งเท่านั้น”

หลี่ม่อสะบัดข้อมือ เขาชูนิ้วก้อยกระดิกเรียกไปทางครูว์แล้วพูดอย่างเฉยเมย “นายคิดว่ามีพลังของสายเลือดคิงคองแล้วจะแข็งแกร่งมากงั้นเหรอ? ช่างไร้เดียงสาจริง ๆ ผู้แข็งแกร่งนั้นไม่เคยพึ่งพาสายเลือดมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว”

“ไร้สาระ! ผู้ที่ครอบครองพลังแห่งสายเลือดต่างหากที่เป็นราชาแห่งโลกนี้!”

ครูว์ที่กำลังเกรี้ยวกราดเหวี่ยงกำปั้น หมัดนั้นแหว่งไปมาในอากาศเพื่อสร้างแรงขับอันทรงพลัง บีบอัดอากาศจนเกิดเสียงดังพึ่บพั่บ

แค่ฟังเสียงของอากาศนั้นก็สามารถเข้าใจถึงพลังหมัดของครูว์ได้แล้ว

หวูผิงผิงหน้าซีดด้วยความตกใจและพึมพำด้วยร่างสั่นเทา “เจียต้งเอาสัตว์ประหลาดอะไรกลับมากันเนี่ย ทำไมถึงได้ดูแปลกประหลาดขนาดนี้ เหมือนกับสัตว์ประหลาดในหนังไม่มีผิด”

“สนทำไมว่าเขาจะเป็นอะไร นี่มันไม่ใช่การบ่งบอกความสุดยอดของเจียต้งหรอกเหรอ เราต้องคอยประจบเอาใจเจียต้งให้ดี ๆ สิถึงจะถูก”

“ถูกต้อง พอไอ้เศษเดนนั่นถูกซ้อมจนตายแล้ว เราก็ต้องเกลี้ยกล่อมให้หยุนหลานให้ดี ๆ ให้หยุนหลานตามเจียต้งไปให้ได้”

เพื่อนร่วมรุ่นพวกนั้นของกู้หยุนหลานได้ตัดสินประหารชีวิตหลี่โม่ไปแล้ว แค่เห็นกล้ามเนื้อที่แข็งเป็นหินของครูว์นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาดูถูกหลี่โม่

มุมปากของจางเจียต้งเผยรอยยิ้ม เขาพอใจกับการโจมตีนี้ของครูว์มาก ในใจได้คำนวณความเร็วและความแรงในหมัดของครูว์อย่างเงียบ ๆ และรู้สึกว่าหมัดนี้สามารถสังหารหลี่โม่ได้ถึงสิบครั้งเลยทีเดียว

ตูม!

กำปั้นที่ใหญ่เท่าหม้อตุ๋นของครูว์เหวี่ยงมาถึงเบื้องหน้าหลี่โม่ในชั่วพริบตา หลี่โม่ยกฝ่ามือขึ้นอย่างสบาย ๆ และสกัดกำปั้นของครูว์เอาไว้

กำปั้นกับฝ่ามือปะทะกัน ทำให้เกิดเสียงดังราวกับระเบิด อีกทั้งคลื่นอากาศก็พุ่งออกมาจากกำปั้นและฝ่ามือของทั้งสองราวกับว่าเกิดระเบิดขึ้นจริง ๆ

“ไม่ได้กินข้าวมาเหรอ? แรงถึงได้น้อยขนาดนี้น่ะ”

หลี่โม่กล่าวอย่างเย้ยหยัน

เปลือกตาของจางเจียต้งกระตุก ในที่สุดสายตาที่เขามองหลี่โม่ก็เปลี่ยนไป ตอนนี้ในที่สุดจางเจียต้งก็รู้แล้วว่าหลี่โม่ไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นคนที่สามารถยืนต่อสู้ประจันหน้ากับครูว์ได้ ไม่สิ แข็งแกร่งยิ่งกว่าครูว์เสียอีก!

นี่มันเป็นไปได้อย่างไร ครูว์เป็นคนที่มีพลังสายเลือดอยู่ คนที่ไม่ได้ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรมไม่น่าจะแข็งแกร่งไปกว่าครูว์ได้นี่!

ถึงจะเป็นจางเจียต้งที่ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรมมาแล้วก็ยังรับมือครูว์ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เพราะสมรรถภาพทางกายแต่เดิมของจางเจียต้งนั้นไม่ค่อยดีนัก แม้หลังจากผ่านการดัดแปลงพันธุกรรมแล้วเขาจะแข็งแกร่งกว่าครูว์ได้ก็ต่อเมื่อเขากลายร่างด้วยความโกรธเท่านั้น

หวูผิงผิงและคนอื่น ๆ มึนงงขึ้นมาอีกครั้ง ฉากที่จินตนาการไว้แตกเป็นเสี่ยง ๆ อีกครั้ง ทัศนคติทั้งสามถูกหลี่โม่ปรับเปลี่ยนใหม่อีกครั้ง

“เจ้าหมอนี่เป็นแมลงสาบที่ฆ่าไม่ตายหรือไง? เป็นขยะที่เล่าลือกันปากต่อปากจริง ๆ งั้นเหรอ? ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกัน”

หวูผิงผิงกล่าวด้วยความตื่นตระหนก

÷÷÷ ทัศนคติทั้งสาม三观 ได้แก่ ทัศนคติต่อโลก ทัศนคติต่อชีวิต และทัศนคติต่อคุณค่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณชาย แห่ง ประตูมังกร