อะไรกัน
แคทเธอรีนเสียใจเป็นอย่างมาก “ทำไมถึงไม่ถามว่ารีเบคก้าทำอะไรกับหนูบ้าง? เธอ –”
“พี่สาวของแกใจดี ไม่เหมือนแก สิ่งที่แกทำคือ ทะเลาะกับเจเน็ต ตระกูลแคมป์เบลเป็นหนึ่งในตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด พี่สาวของแกตั้งใจสร้างความสนิทสนมกับเจเน็ตเพื่อให้มั่นใจว่าตระกูลโจนส์และตระกูลแคมป์เบล จะเป็นมิตรที่ดีต่อกัน”
“แล้วแกล่ะ? แกทำเรื่องเลวร้ายมากมายและทำร้ายแม้กระทั่งพี่สาวของแกเอง ฉันเลี้ยงลูกสาวที่อกกตัญญูอย่างแกมาได้อย่างไร?”
“หนูจะไม่กลับไป” แคทเธอรีนกัดฟัน
แซลลี่ขู่ “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องกลับมาอีกเลย ฉันจะทำเหมือนแกไม่ได้เป็นลูกของฉันอีกต่อไป!”
แคทเธอรีนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ “แม่เคยเป็นห่วงหนูบ้างไหมคะ? ก่อนที่เธอจะกลับมา แม่คิดเสมอว่าหนูไม่เก่งเหมือนคนอื่น ไม่ว่าหนูจะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม แม่จะไม่คุยกับหนูดี ๆ นอกจากดุด่าหนู หนูเป็นลูกสาวของแม่จริง ๆ หรือเปล่าคะ?”
หลังจากนั้นเธอก็คร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด น้ำตาของเธอพรั่งพรูออกมา
อันที่จริงแล้วเธอรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก เธอไม่รู้สึกอยากกลับไปที่บ้านหลังนั้นอีกต่อไปแล้ว
จากนั้นเธอก็สงบสติอารมณ์ของเธอลง และมุ่งหน้าไปยังร้านขายอาหารสัตว์เพื่อถามเกี่ยวกับการดูแลท้องของแมว
นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าของร้านอาหารสัตว์ได้ยินเรื่องการดูแลท้องของแมว สุดท้ายเขาจึงแนะนำหนังสือที่มีชื่อว่า ‘สูตรอาหารสำหรับแมวที่ตั้งท้อง’
“ยิ่งไปกว่านั้น สูตรอาหารในหนังสือเล่มนี้ยังได้รวมสารอาหารทั้งหมดที่แมวกำลังตั้งท้องต้องการ มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไรถ้าคุณทำอาหารให้แมวของคุณตามหนังสือเล่มนี้”
หลังจากที่ไตร่ตรองดูแล้ว แคทเธอรีนจึงซื้อหนังสือเล่มนั้นและไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อวัตถุดิบ
...
เป็นเวลา 16:00 น. แล้วที่เธอกลับมายัง เจไดต์ เบย์
เมื่อฟัดจ์เห็นว่าเธอกลับมาแล้ว เธอจึงร้องเมี๊ยวทักอย่างแผ่วเบาและซุกอยู่ในมุมของเธอโดยไม่เคลื่อนไหว
ด้วยสายตานั้นทำให้แคทเธอรีนรู้สึกสงสารมากขึ้นไปอีก ด้วยเหตุนี้ เธอจึงตัดสินใจจะทุ่มเทดูแลฟัดจ์
เมื่อพิจารณาดูแล้วว่าแมวจำเป็นต้องกินอาหารที่ปรุงไม่มาก เธอจึงเตรียมลูกชิ้นปลาแซลมอนสองสามชิ้นรวมไปถึงแครอทและผักนึ่งเอาไว้
นอกจากนี้ เธอยังทำพุดดิ้งสองสามชิ้นไว้สำหรับเป็นขนม
ฌอนเลิกงานและกลับบ้านในตอนเย็น
เมื่อมองผ่านประตูกระจกเข้าไปในห้องครัว เขาเห็นแคทเธอรีนกำลังยุ่งอยู่กับการนึ่งผัก เดี๋ยวเธอก็หั่นผักและนาทีต่อมาเธอก็ทำการปรุงมัน
กลิ่นหอมน่ารับประทานของผักลอยผ่านรอยแยกของประตูกระจกออกมาและทำให้ท้องของเขาร้อง เขารู้สึกหิวขึ้นมาในทันที
ขณะที่ฌอนเหลือบมองไปที่ด้านข้างของโต๊ะ เขาสังเกตเห็นพุดดิ้งที่ทำเป็นรูปทรงฮัลโหลคิตตี้อยู่บนจานกระเบื้องสีขาว ด้วยสีสันที่น่ารักสดใสนั้นทำให้พุดดิ้งดูน่ารับประทานขึ้นไปอีก
ด้วยความไม่ตั้งใจ เขาหยิบช้อนเพื่อลองชิมพุดดิ้ง รสชาติไม่เหมือนที่เขาเคยกินในร้านอาหารตะวันตกในตอนนั้น
รสชาติมันแปลก ๆ เขาพบว่าพุดดิ้งมีส่วนผสมของไก่และเครื่องปรุงบางอย่าง ทว่ามันไม่เลี่ยนจนเกินไป มันคงไม่เป็นไรถ้าจะชิมพุดดิ้งอีกสักสองสามคำ
เขารู้มาตั้งนานแล้วว่าแคทเธอรีนทำอาหารเช้าเก่ง อย่างไรก็ตาม เขาไม่รู้เลยว่าเธอสามารถทำขนมที่สร้างสรรค์แบบนี้ได้
“คุณกลับมาแล้วเหรอคะฌอนนี่”
เมื่อแคทเธอรีนเลื่อนประตูเปิดเพื่อออกมาจากห้องครัวพร้อมกับจานที่เต็มไปด้วยอาหารที่ปรุงใหม่ ๆ เธอรู้สึกตกใจเมื่อเห็นฌอนที่กินพุดดิ้งในจานที่เขาถืออยู่จนหมดแล้ว
เวรกรรม นั่นมันอาหารแมว!
การจ้องมองของเธอ ทำให้ฌอนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เขาคิดว่าเธอคงจะรู้สึกดีใจที่เห็นเขากินขนมที่เธอทำ
เมื่อคิดเช่นนั้น เขาจึงกระแอมในลำคอเบา ๆ “ขนมที่คุณทำ... รสชาติดี”
“...”
แคทเธอรีนตัวสั่น สงสัยจริง ๆ ว่าเขาอยากจะฆ่าตัวตายหรือเปล่าหลังจากที่เธอบอกกับเขาว่าขนมนี้ทำเอาไว้สำหรับแมว
หลังจากลังเลเลือกระหว่างความรู้สึกผิดชอบชั่วดีกับชีวิตของเธอไปสักครู่หนึ่ง สุดท้ายแล้วเธอจึงฝืนยิ้มออกมา “ฉันตั้งใจทำให้คุณเลยนะคะ ดีใจที่คุณชอบค่ะ”
ฌอนชำเลืองมองไปที่เธอด้วยความเหย่อหยิ่ง “คุณใส่ใจแค่ฟัดจ์ก็พอ”
“รับทราบค่ะ รับทราบ” แคทเธอรีนพยักหน้าด้วยท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู “แต่มันห้ามไม่ได้นี่คะ”
ฌอนยังคงจ้องมองเธอด้วยความเย็นชา
แคทเธอรีนพยายามอย่างมากที่จะแสดงความรักออกไป เขาไม่รู้สึกเลยหรืออย่างไร? เขายังเป็นผู้ชายอยู่หรือเปล่า?
โชคดีที่ฌอนอุ้มเจ้าฟัดจ์ขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนของเขาก่อนที่จะเปลี่ยนเรื่อง
“คืนนี้เธอกินอะไร?”
“ลูกชิ้นปลาแซลม่อนค่ะ เธอไม่ค่อยชอบผัก ฉันเลยใส่แครอทลงไปในลูกชิ้นปลาแซลมอนเล็กน้อย เธอกินไปได้ถึงหกชิ้นเลยนะคะ”
ทันทีที่แคทเธอรีนพูดจบประโยค เธอเริ่มรู้สึกสงสัยในเรื่องความอยากอาหารของเจ้าฟัดจ์ เธอรู้ว่าแมวกินอาหารน้อยมาก แต่ฟัดจ์กลับมีความอยากอาหารมาก
“ดีแล้ว”
“ฉันทำอาหารเย็นไว้เรียบร้อยแล้ว คุณทานได้เลยนะคะ”
แคทเธอรีนวางช้อนส้อมลงบนโต๊ะ เธอเตรียมซีซาร์สลัดกับไข่ต้ม ผัดกาดแก้วและขนมปังกรอบเอาไว้สำหรับมื้อเย็น
เมื่อมองไปที่สลัด ฌอนรู้สึกว่าคุณภาพของอาหารนั้นสามารถเทียบกับอาหารที่เสิร์ฟในร้านอาหารได้เลย
“หลีกเลี่ยงพวกเนื้อสัตว์จะดีกว่านะคะ สำหรับมื้อเย็นทานอาหารที่ไม่หนักมากจะดีกว่า” แคทเธอรีนอธิบาย
ฌอนรู้สึกแปลกใจ “อายุแค่นี้คุณก็ใส่ใจเรื่องของสุขภาพแล้วเหรอ”
“คุณพ่อของฉันระบบการย่อยอาหารไม่ค่อยดีค่ะ เพราะท่านดื่มเยอะ ฉันเลยพอจะมีความรู้เกี่ยวกับการดูแลพวกระบบย่อยอาหารบ้างนิดหน่อยค่ะ”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ แคทเธอรีนก็เริ่มรู้สึกอารมณ์หงุดหงิด น่าเสียดายที่เจฟฟี่ไม่เคยมองเธอในแง่ดี
ฌอนที่ไม่ได้สนใจปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ในตระกูลโจนส์ เขาก้มหน้าลงและเริ่มรับประทานอาหาร
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแคทเธอรีนทำอาหารได้อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ อาหารที่เธอทำอาจจะดูธรรมดา ทว่ารสชาติดีกว่าอาหารที่เสิร์ฟในร้านข้างนอกมาก
แม้แต่ไข่ต้มธรรมดา ๆ ยังรสชาติดี ขณะที่ผัดกาดแก้วและขนมปังกรอบก็กรุบกรอบ รวม ๆ แล้วเป็นสลัดที่น่ารับประทานมาก
ฌอนรับประทานหมดไปหลายจานเพราะความหิว
หลังจากที่เขาทานอาหารเสร็จแล้ว เขาจึงเอ่ยชมเธอ “ทำอาหารได้ยอดเยี่ยมมาก”
“ขอบคุณนะคะ”
แคทเธอรีนรู้สึกเขินอายและปลาบปลื้มใจอยู่ครู่หนึ่ง
“ตั้งแต่ยังเด็ก ฉันตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะเป็นภรรยาที่สามารถดูแลสามีในอนาคตได้ สิ่งที่ฉันหวังคือทำอาหารอร่อย ๆ ให้กับเขาทุกวันหลังจากที่เขาเลิกงาน”
เธอจ้องมองไปยังฝั่งตรงข้ามทันทีที่เธอพูดจบ
ผู้ชายคนนั้นหลบสายตาพลางลูบแมวบนตักของเขาเบา ๆ ขนตาดกหนาของเขาราวกับขนของอีกาที่บดบังความรู้สึกภายในดวงตาของเขาเอาไว้
ทันใดนั้นเอง แคทเธอรีนก็รู้สึกประหม่าขึ้นมา หลังจากนั้นผู้ชายคนนั้นก็เงยหน้าขึ้นพลางลืมตาขึ้นอย่างเกียจคร้าน “คุณมัวทำอะไรอยู่? ไปล้างจานสิ”
“...”
แท้ที่จริงแล้วผู้ชายที่ปากแข็งคนนี้มาจากไหนกัน? เขาคือคนที่ทำให้หมดสนุกแท้ ๆ
หลังจากนำจานเข้ามาในครัว แคทเธอรีนก็ก่นด่าเขาพลางกัดฟัน ในขณะนั้นเองเธอเริ่มสงสัยในความสวยของเธอ
เมื่อฌอนยืนขึ้นและเตรียมตัวไปยังห้องทำงาน ในตอนนั้นเองที่เขาเห็นหนังสือที่มีชื่อว่า ‘สูตรอาหารสำหรับแมวที่ตั้งท้อง’ วางอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น
เขาขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อสงสัยว่าแคทเธอรีนรู้หรือยังว่าเจ้าฟัดจ์ท้อง
ด้วยความบังเอิญ แคทเธอรีนออกมาจากห้องครัวหลังจากที่ล้างจานเสร็จแล้ว เมื่อเธอเห็นว่าเขากำลังถือหนังสืออยู่ เธอจึงอธิบายขึ้น “วันนี้ฉันไปที่ร้านขายอาหารสัตว์มาค่ะ เจ้าของร้านบอกฉันว่าสูตรอาหารสำหรับการดูแลท้องของแมวนั้น จริง ๆ แล้วคล้ายกับสูตรอาหารสำหรับแมวที่ตั้งท้องค่ะ ฉันเลยซื้อหนังสือเล่มนี้มา”
แววตาของฌอนคลายความกังวลลง ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่รู้
ขณะที่เขาเปิดหนังสือดูด้วยความตั้งใจ เขาก็สังเกตเห็นสูตรอาหารที่คุ้นตาขึ้นมาทันที ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขานิ่งไป
หลังจากนั้นไม่นาน ฌอนก็ยกหนังสือขึ้นพลางแสดงภาพในหนังสือให้แคทเธอรีนดู “นี่คือพุดดิ้งที่คุณตั้งใจทำให้ผมใช่ไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณชายฮิลล์ ปล่อยฉันนะ!