ด้วยเหตุนี้ อีธานจึงอุ้มรีเบคก้าขึ้นมาในอ้อมแขนของเขาและเดินตรงไปยังรถ Lamborghini
เมื่อรถของเขาแล่นห่างออกไป ทิ้งเธอเอาไว้เบื้องหลังเป็นครั้งที่สอง แคทเธอรีนหมดหวังในตัวผู้ชายคนนี้อย่างแท้จริง
นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป ความรักที่เธอเคยมีให้กับเขาก่อนหน้านี้จะถูกแทนที่ด้วยความเกลียดชังและดูถูกเหยียดหยาม
“โอ้ คนขี้แพ้” เจมส์เดินเข้ามาหาเธอขณะที่ถือร่มเอาไว้ เขายิ้มออกมาพลางหรี่ดวงตาลง “คุณหนูของตระกูลโจนส์ที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่เหนือใคร ๆ ได้สูญเสียความสามารถทั้งหมดของเธอไปแล้ว”
เธอเหนื่อยเกินกว่าที่จะใส่ใจจัดการกับผู้ชายคนนั้น เธอจึงเดินไปที่รถของเธอเงียบ ๆ
เสียงของเขาดังขึ้นจากด้านหลังของเธอ “คุณลุงเจฟฟี่และคุณป้าแซลลี่จะต้องรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้อย่างแน่นอน เห็นได้ชัดว่าพวกเขารักรีเบคก้ามากกว่าเธอ อย่าฝันที่จะกลับไปหาตระกูลโจนส์อีกต่อไป เพราะไม่มีใครต้อนรับการกลับไปของเธอ”
ปัง! เธอปิดประตูและขับออกไป
คำพูดของเขาไม่มีอะไรใหม่สำหรับเธอ ทว่าก็ไม่สำคัญ ชีวิตของเธอน่าสมเพชเวทนามามากพอแล้ว ไม่มีใครรักหรือห่วงใยเธอจริง ๆ
...
18:00 น.
ฌอนกลับมาที่บ้านหลังจากเลิกงาน
ที่ผ่านมา แม้ว่าแคทเธอรีนจะยุ่งอยู่ ทว่าภายในบ้านก็ยังสว่างสไวอยู่ตลอดและเต็มไปด้วยกลิ่นหอมน่ารับประทานของอาหาร เขาสามารถมองเห็นร่างของเธอได้ตลอดเวลาขณะที่เธอเดินไปเดินมาอยู่ในห้องครัวอย่างขะมักเขม้นเพื่อเตรียมอาหารค่ำ
ทว่าวันนี้มีเพียงความอึมครึม
เขาเปิดไฟให้สว่างแล้วก็ต้องพบกับแคทเธอรีนที่ขดตัวอยู่บนโซฟา ผมของเธอยุ่งเหยิงและดวงตาของเธอดูโศกเศร้า เธอวางคางของเธอเอาไว้เหนือศีรษะของเจ้าฟัดจ์ ขณะที่เธออุ้มแมวไว้ในอ้อมแขนของเธอ เธอดูไม่มีชีวิตชีวาและดูพ่ายแพ้
เธอดูร่าเริงและสดใสเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาเสมอ รู้สึกแปลกเหมือนกันเมื่อเห็นด้านที่ไม่เคยเห็นมาก่อนของเธอ
“การประมูลไม่เป็นไปด้วยดีเหรอ?”
เขาถอดเสื้อคลุมออกและโยนมันลงบนโซฟาด้วยท่าทางสบาย ๆ “การล้มเหลวในครั้งแรกไม่ใช่เรื่องใหญ่ คุณยังเด็ก –”
“ฉันเลยต้องยอมถูกหลอกเหมือนคนโง่เพราะว่าฉันยังเด็กอย่างนั้นหรือคะ?” เธอถามเขาตรง ๆ ด้วยความโกรธ “คนแบบคุณที่อยู่จุดสูงสุดของสังคมไม่สนใจแม้กระทั่งความรู้สึกของคนอื่นใช่ไหมคะ?”
ความรำคาญที่ซ่อนอยู่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขาคิดว่าผู้หญิงคนนี้กำลังอารมณ์เสียแล้วมาระบายความโกรธของเธอลงที่เขา “ท่าทางแบบนี้ คุณทำไม่สำเร็จก็สมควรแล้ว”
“ก็ใช่น่ะสิ ฉันทำไม่สำเร็จ ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันคือ การเชื่อใจคุณ”
แคทเธอรีนกำมือแน่น แม้ว่าจะรู้ว่าเขาไม่ได้รักเธอ ทว่าอย่างน้อยเธอก็ยังเป็นภรรยาของเขาตามกฎหมาย ถึงอย่างนั้นเขากลับหลอกเธอเหมือนเป็นคนโง่
“คุณอย่ามาเลี้ยงไม่เชื่อง” ฌอนรู้สึกโกรธกับคำพูดของเธอ “คุณคงไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมการประมูลถ้าผมไม่ช่วยเหลือคุณ ถ้าผมรู้ว่าคุณจะทำตัวแบบนี้ผมคงจะไม่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนคุณอย่างแน่นอน”
“ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงเลยนะคะที่ช่วยเหลือ แต่คราวหน้าคุณไม่ต้องมายุ่งกับเรื่องของฉันอีก”
เธอเยาะหยันขณะที่ลุกขึ้นยืน เจ้าฟัดจ์กระโจนออกจากอ้อมแขนของเธอ แมวรู้สึกได้ถึงสถานการณ์ที่ตึงเครียดระหว่างเจ้าของของเธอทั้งสองคน และข่วนเสื้อของเธอจนเป็นรอยอย่างไม่ได้ตั้งใจ
เขาไม่ได้โกรธแค่กิริยาท่าทางของเธอเท่านั้น ทว่าเขายังรู้สึกผิดหวังจริง ๆ
ในตอนแรกหลังจากที่เขาได้เห็นการออกแบบของเธอแล้ว เขาคิดว่าเธอช่างมีพรสวรรค์จริง ๆ อย่างไรก็ตาม ผู้คนมากมายบนโลกใบนี้เกิดขึ้นมาพร้อมพรสวรรค์ ด้วยเหตุนี้ต้องมีคนที่เก่งกว่าและแข็งแกร่งกว่าเสมอ การล้มเหลวเพียงครั้งเดียวเพียงพอแล้วสำหรับเขาที่จะได้เห็นธาตุแท้ของเธอ
ตามความสัตย์จริง เขารังเกียจคนประเภทนี้
“จำสิ่งที่คุณพูดเอาไว้ให้ดี เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นอกจากดูแลเจ้าฟัดจ์แล้ว ผมไม่ต้องการให้คุณทำอะไรอีก คุณไม่ต้องทำอาหารให้ผมด้วยเหมือนกัน มันมีแต่จะทำให้ผมป่วย”
จากนั้นเขาก็อุ้มแมวขึ้นมาด้วยมือข้างเดียวพลางคว้าเสื้อคลุมด้วยอีกมือหนึ่งที่ว่างอยู่ของเขาและออกจากบ้าน
ความเงียบจนน่าขนลุกปกคลุมไปทั้งห้อง เธอมีเจ้าแมวที่อบอุ่นคอยปลอบประโลมหัวใจที่หนาวเหน็บของเธอก่อนหน้านี้ ทว่าตอนนี้มันก็หายไปแล้วเหมือนกัน
หัวใจของแคทเธอรีนว่างเปล่า พระอาทิตย์ค่อย ๆ จางหายไปในความมืดที่เข้ามาแทนที่
เธอออกจากบ้านและมุ่งหน้าไปที่บาร์
พนักงานเสิร์ฟนำเบียร์หลายขวดมาเสิร์ฟให้กับเธอ เธอเปิดฝาขวดออกและกระดกเบียร์เข้าไปอึกใหญ่
เธอไม่เคยดื่มอย่างนี้มาก่อน เวลานี้เองที่เธอพบประโยชน์ของดื่มเพื่อดับทุกข์จนตาย
เธอชำเลืองมองไปยังคนหนุ่มสาวที่เต้นอยู่บนเวทีที่อยู่ใกล้กับโต๊ะที่เธอดื่มอยู่
ที่ผ่านมาชีวิตของเธอง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ
ชีวิตที่ไร้กังวลที่มีทุกคนอยู่เคียงข้างเธอ
การมองเห็นของเธอเริ่มเบลอขึ้นเรื่อย ๆ
เธอไม่ทันได้สังเกตเห็นคนที่แอบมองเธออยู่จากมุมหนึ่ง สักครู่ต่อมา คน ๆ นั้นก็โทรศัพท์ “เจเน็ต ทายซิว่าฉันเจอใคร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณชายฮิลล์ ปล่อยฉันนะ!