ในตอนนั้นเองโทรศัพท์ของเจเน็ตก็ดังขึ้น มีคนโทรมาหาเธอและรายงาน “คุณแคมป์เบล เซนถูกตำรวจจับแล้ว”
“หาวิธีประกันตัวเขาออกมา”
“เอ่อ... เกรงว่าจะเป็นไปไม่ได้ คุณชายแฮริสันติดต่อโดยตรงและขอให้ขังเซนต่อไป เราไม่สามารถท้าทายตระกูลแฮริสันได้”
หัวใจของเจเน็ตห่อเหี่ยว “พยายามทำให้เซนปิดปากของเขาเพื่อเห็นแก่ตระกูลของเขาด้วย”
“ได้ครับ”
...
ณ โรงพยาบาล
แคทเธอรีนฟื้นขึ้นมาเพราะความเจ็บปวดบนใบหน้าของเธอ
เธอลืมตาขึ้นแล้วก็พบว่าตัวเองอยู่ในโรงพยาบาล เธอสงสัยว่าใครเป็นคนพาเธอมาที่นี่
ขณะที่เธองุนงงอยู่นั่นเอง ใบหน้าที่หล่อเหลาของฌอนก็ปรากฏชัดขึ้นในความทรงจำของเธอ
“คุณฟื้นแล้ว” ผู้ชายที่อยู่ข้าง ๆ เธอพูดขึ้น
เมื่อเห็นหันหน้าไป เธอก็เห็นฌอนลุกขึ้นยืนจากโซฟาพร้อมกับเอ่ยขึ้นเพื่อต่อว่าเธอ “ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วอย่างคุณควรจะไปที่ผับเพื่อดื่มตามลำพังจริง ๆ เหรอ แคทเธอรีน คุณมันไม่มีสมอง”
ในตอนแรกเธอสัมผัสได้ถึงความเหยียดหยัน ก่อนที่เธอจะทันได้พูดออกไป มันรู้สึกว่าความหมดกำลังใจหลั่งไหลเข้าใส่เธอ เธอรู้สึกละอายใจยิ่งขึ้นไปอีก
“ถูกของคุณค่ะ ฉันเกือบจะลืมไปแล้วว่าฉันแต่งงานแล้ว”
ดวงตาของฌอนฉายแววความโกรธออกมา ย้อนกลับไปในตอนนั้น เธอเป็นคนที่ยอมรับข้อตกลงและตามตื้อเขา ทว่าในตอนนี้เธอกลับลืมไปแล้วว่าเคยแต่งงาน เพียงเพราะเธอพยายามปฏิเสธทุกสิ่งทุกอย่าง
“คุณยังไม่สำนึกในความผิดของคุณอีกเหรอ ถ้าผมไปช่วยคุณไม่ทันเวลา คุณคงจะถูกปู้ยี่ปู้ยำไปแล้ว ผมมีศักดิ์ศรีของผมเหมือนกันถึงคุณจะไม่สนใจก็ตาม”
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ ไม่มีใครรู้ว่าฉันแต่งงานกับคุณ”
แคทเธอรีนรู้สึกผิดหวังอย่างสาหัส เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นในวินาทีสุดท้าย เธอเห็นแสงแห่งความหวังปรากฏขึ้น เธอคิดว่าเขายังคงเป็นห่วงเธอ แต่ในความจริงแล้วเขาเพียงสนใจแค่ศักดิ์ศรีของเขาเท่านั้น
ฌอนรู้สึกโกรธกับสิ่งที่เธอทำ “อืม ดูเหมือนว่าผมจะแสดงออกมาเกินไป ผมไม่ควรไปช่วยคุณใช่ไหม?”
แคทเธอรีนรู้สึกเหนื่อยล้าเกินกว่าจะมีแรงโต้เถียงกับเขาต่อไป
เธอหลับตาลงเงียบ ๆ พลางดึงผ้าห่มขึ้น และซุกร่างเข้าไปในผ้าห่มราวกับนกน้อยที่หลงทางและหนาวเหน็บ
เมื่อมองไปที่ใบหน้าอันบวมเป่งของเธอ ฌอนกลับรู้สึกไม่สบายใจ
เขาไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา ก่อนหน้านี้เมื่อแคทเธอรีนหมดสติไป เขารู้สึกอยากจะฆ่าเซนให้ตายให้ได้ ทว่าตอนนี้เธอฟื้นขึ้นมาแล้ว เขาอดที่จะผิดหวังที่เธอไม่ดูแลตัวเองไม่ได้
เมื่อเห็นว่าเธอไม่พูดอะไรออกมาเลยยิ่งทำให้ฌอนรู้สึกหงุดหงิด
ห้องพักคนไข้ยังคงเงียบอยู่พักใหญ่ก่อนที่เชสจะหุนหันเข้ามา “เซนสารภาพทุกสิ่งทุกอย่างออกมาแล้ว... อ้าว เกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้กัน”
คนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟาเงียบ ๆ ขณะที่อีกคนกำลังซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม บรรยากาศที่เกิดขึ้นอยู่ดูผิดปกติ
“มันสารภาพว่าอย่างไร?” ฌอนถามอย่างเย็นชา
“มันอ้างว่ามันเป็นเพื่อนที่โรงเรียนของพี่สะใภ้ มันตกหลุมรักพี่สะใภ้ตั้งแต่ตอนนั้น แต่เธอไม่สนใจมันเพราะมันไม่หล่อและฐานะไม่ดี เช่นนั้นมันจึงแค้นเธอ จากนั้นมันก็บังเอิญไปเจอพี่สะใภ้นั่งดื่มอยู่คนเดียวในผับ มันยังรู้มาอีกว่าเธอถูกไล่ออกจากคฤหาสน์ตระกูลโจนส์และไม่มีใครให้พึ่งพา ดังนั้นมันจึงทำให้เธอหมดสติเพื่อที่จะแก้แค้นเธอ”
ฌอนขมวดคิ้ว จากนั้นเขาก็หันไปมองแคทเธอรีน “เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”
แคทเธอรีนพยักหน้ารับด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด “เขามีชื่อเสียงไม่ดีตั้งแต่สมัยเรียนแล้วค่ะ เพราะเขามักจะลวนลามเพื่อนผู้หญิงในห้องเรียนของเรา และมักจะแอบดูผู้หญิงในห้องน้ำหญิงอยู่บ่อย ๆ ฉันรังเกียจคนแบบนี้ มันไม่เกี่ยวกับแค่หน้าตาหรือเงินของเขา ฉันไม่รู้ว่าเรื่องนั้นจะทำให้เขาเกิดความแค้นขึ้นในใจ”
เชสถอนหายใจออกมา “สิ่งนี้มักจะเกิดขึ้นกับคนที่โชคร้าย คุณจะเจอคนบ้า ๆ ได้ง่าย ไม่ต้องห่วงนะครับ เขาจะต้องติดคุกไปอีกนาน”
แคทเธอรีนขยับริมฝีปากที่แห้งผากทว่าก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
ฌอนชำเลืองมองไปที่เธอและพูดขึ้น “ระหว่างวีดิโอถ่ายทอดสด มีคนเยอะพอสมควรดูมันอยู่ มันเห็นหน้าเธอชัดหรือเปล่า?”
เชสพยักหน้า “อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ควรลบออกจากวีดิโอจะถูกลบออก วีดิโอจะไม่ถูกเผยแพร่ทางออนไลน์ แต่... คนจำนวนหนึ่งในวงการบันเทิงของเมลเบิร์นได้ดูอยู่ในตอนนั้น หลายคนคงรู้เรื่องแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณชายฮิลล์ ปล่อยฉันนะ!