แคทเธอรีนนั่งแท็กซี่ไปที่บ้านตระกูลโจนส์ทันที ในตอนนั้นคุณโจนส์ไปทำงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เธอรีบวิ่งขึ้นไปข้างบนเพื่อเอาสูติบัตรของเธอ ขณะเดียวกันที่เธอกำลังเดินไปยังห้องนั่งเล่น เธอเห็นรีเบคก้าออกมาจากห้องทำงานพร้อมกับเอกสารกองใหญ่
รีเบคก้าดูดีด้วยผมบ๊อบสีดำสนิทและใบหน้าที่สวยเป็นธรรมชาติ
“ในที่สุดเธอก็กลับมาแล้วเหรอน้องสาว ฉันยังกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานอยู่เลย” ใบหน้าของรีเบคก้าแฝงไปด้วยความรู้สึกผิด “เพียงแต่ว่าอีธานไม่ได้รักเธอ เธอไม่สามารถบังคับใครให้มารักเธอได้”
แคทเธอรีนจ้องมองไปที่เธอด้วยสายตาที่เย็นชา “พอได้แล้ว เธอไม่ต้องเล่นละครหรอก ไม่มีใครอยู่ที่นี่ ก่อนหน้านี้ฉันประเมินเธอต่ำเกินไป”
“อย่ามาทำกับฉันแบบนี้” รีเบคก้ากัดริมฝีปากของเธอ น้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม “ฉันจะยอมทำตามที่เธอต้องการในอนาคตตกลงไหม? ฉันจะไม่เข้าไปยุ่งกับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ฉันจะส่งเอกสารเหล่านี้ให้กับเธอ”
ขณะที่เธอกำลังพูดอยู่ เธอก็ยัดเอกสารเหล่านั้นใส่ในมือของแคทเธอรีน
แคทเธอรีนรู้สึกว่ามันแปลกและรับเอกสารพวกนั้นเอาไว้โดยไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้เอกสารทั้งหมดร่วงลงบนพื้น
“พวกเธอกำลังทำอะไรกันอยู่?”
ทันใดนั้นเอง แซลลี่ เลนนอน ก็เดินลงมาจากบันไดและเห็นน้ำตาบนใบหน้าของรีเบคก้ารวมถึงเอกสารที่กระจัดกระจาย
“เอาสารเหล่านี้เป็นเอกสารของบริษัทที่พ่อของลูกขอให้ตรวจดูไม่ใช่หรือ?”
“คุณแม่อย่าโกรธน้องนะคะ เป็นความผิดของหนูเอง” รีเบคก้ารีบอธิบายด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด “เคธี่ขอให้หนูเลิกยุ่งกับเรื่องของบริษัทและส่งเอกสารเหล่านี้ให้กับเธอค่ะ หนูคิดจะมอบเอกสารพวกนี้ให้กับเธอ แต่เธอไม่พอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับอีธาน ดังนั้น –”
“เธอมันตอแหล --”
“หุบปากนะ!” แซลลี่จ้องไปที่แคทเธอรีน “ใครอนุญาตให้แกเข้ามามีส่วนร่วมในบริษัท? เป็นพ่อของแกและฉันที่ขอให้รีเบคก้าตรวจดูเอกสารพวกนี้ รีเบคก้าจะเข้ามาเป็นผู้จัดการของบริษัทอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า แกควรทำตัวดี ๆ”
แคทเธอรีนตกตะลึง “เมื่อพูดถึงเรื่องการศึกษาและประสบการณ์ หนูมีคุณสมบัติที่เหมาะสมมากกว่าเธอ แม้จะเข้ามาร่วมทำงานในบริษัทเร็วกว่าเธอหนึ่งปี หนูก็ยังไม่ได้เป็นผู้จัดการเลยด้วยซ้ำ อะไรทำให้เธอมีสิทธิ์ก้าวข้ามไปยังตำแหน่งผู้จัดการแบบนั้นได้?”
“คุณแม่คะ หนูไม่เป็นผู้จัดการคงจะดีกว่า หนูไม่อยากทำลายความสัมพันธ์ของหนูกับเคธี่” รีเบคก้ารีบพูดขึ้นในทันทีในขณะที่สะอึกสะอื้น
หัวใจของแซลลี่ปวดร้าวอย่างที่สุด “ดูเอาเถอะ รีเบคก้าใส่ใจในความเป็นพี่น้องของแกมากแค่ไหน แล้วแกล่ะ? แกมันใจแคบและเห็นแก่ตัว แกไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นแม้แต่ผู้จัดการ ไม่แปลกใจเลยที่อีธานจะเลือกรีเบคก้าแทน”
คำพูดที่โหดร้ายจากแม่ของเธอ ทำให้เธอรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังถูกฟาดด้วยไม้เรียว
ทั้งรีเบคก้าและแคทเธอรีนต่างก็เป็นลูกสาวของเธอ อย่างไรก็ตาม แซลลี่กลับความลำเอียงไปทางรีเบคก้ามากจนเธอเชื่อทุกอย่างที่รีเบคก้าพูด
แคทเธอรีนอยู่กับแม่มาตั้งแต่เธอยังเด็ก ทำไมแซลลี่ถึงไม่รู้จักนิสัยของเธอ?
ไม่มีใครปลอบแคทเธอรีนตั้งแต่เมื่อวาน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นถูกทำให้เป็นเหมือนเรื่องปกติธรรมดา
เธอก็เป็นเพียงแค่มนุษย์ธรรมดาเท่านั้น
เมื่อความโกรธวิ่งผ่านทั่วร่างของเธอในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แคทเธอรีนจึงถอยหลังไปสองก้าว “ไม่เป็นไร เพราะว่าฉันไม่ดี ฉันจะไปเอง ดีไหมล่ะ?”
เธอไปที่ห้องของเธอทันทีหลังจากที่พูดจบ เธอหยิบกระเป๋าเดินทางแล้วเธอก็ยัดเสื้อผ้าของเธอใส่ลงไป
เสียงของรีเบคก้าดังมาจากประตู “คุณแม่คะ เคธี่บ้าไปแล้ว เราควรจะห้ามไม่ให้เธอไป”
“ไม่ต้องไปยุ่งกับเธอหรอก นั่นเป็นนิสัยของเธอ เธอถูกตามใจมากเกินไป อีกสองวันเธอก็จะกลับมา ไปซื้อเสื้อผ้าของลูกกันเถอะเพราะว่าลูกกำลังจะหมั้นเร็ว ๆนี้”
“...”
ในไม่ช้า เสียงก็เริ่มห่างออกไป
น้ำตาหยดลงบนหลังมือของเธอ แคทเธอรีนถือกระเป๋าเดินทางของเธอลงบันไดมา หลังจากนั้นเธอก็ขับรถของเธอออกมา
ในตอนนั้นเอง มันตอกย้ำเธอว่าเธอได้สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้ว
ทำไมทุกคนถึงทำกับเธอแบบนี้ ในเมื่อเธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณชายฮิลล์ ปล่อยฉันนะ!
อ่านถึงบท 295 แล้วจ้า หงุดหงิดกับพระนางแล้วคือำนพระเอกเหมือนจะเก่ง ฉลาดนะ แต่ก็แอบผิดหวังอะ อคติเกิน...
โบะบะมากแม่ 5555...
นัดจริงหรือนัดปลอมละทีนี้ 555555555...