คุณหมอของนายขุนพล นิยาย บท 18

หลังจากที่ขุนพลตอบคำถามพ่อของน้ำมนต์ ตอนนี้ห้องรับแขกของบ้านเกิดความเงียบไปชั่วขณะ ไม่รู้ว่าพ่อจะโกรธมั้ยกับคำตอบขุนพลที่บอกว่าเราสองคนอยู่ก่อนแต่งกันแล้ว ตอนนี้ฉันไม่รู้เลยว่าพ่อของตัวเองคิดอะไรอยู่ ยิ่งเงียบมากเท่าไหร่ฉันยิ่งเกร็งมากเท่านั้นจะมีก็แต่ขุนพลที่นั่งเงียบสบตากับพ่อของฉันอย่างไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้น

“ถ้าไม่ให้คบกันจะทำยังไง” คำถามของพ่อเล่นทำให้ฉันไปไม่เป็นเลย น้ำเสียงที่เปล่งออกมายิ่งทำให้ฉันเสียวสันหลังวาบ

“ผมก็จะพิสูจน์ตัวเองจนกว่าพ่อจะยอมรับให้ผมคบกับน้ำมนต์” อือ คำตอบที่ได้ทำให้ฉันแทบจะกระโดดหอมแก้มขุนพล ฟอดใหญ่ ถ้าไม่ติดว่าพ่อกับแม่อยู่นะ!! จะให้รางวัลเขาซักหน่อย

“หึ!! ดี แบบนี้แหละพ่อชอบไอ้ลูกเขย ฮ่าฮ่า” พ่อฉันเป็นไบโพลาร์รึป่าวว่ะ!! ตบเขาตัวเองเสียงดังแถมยังสถาปนาตัวเองเป็นพ่อตาของขุนพลอีก ทำให้เราสามคนทำหน้า งง กันไปหมด ว่าพ่อฉันเป็นอะไร!! ยิ่งขุนพลตอนนี้คงปรับอารมณ์ตัวเองไม่ทัน ได้แต่ทำหน้านิ่งงุนงง อยู่อย่างนั้นและหันมาสะกิดฉันว่าเกิดอะไรขึ้น (:

“ไอ้ลูกเขยมันแน่จริง ๆ ” พ่อของฉันไขความกระจ่างให้กับพวกเรา เพราะพ่อชอบคนตอบตรงไปตรงมาของขุนพล ซึ่งน้อยคนนักจะพูดแบบนี้ หลังจากนั้นพวกเราทั้งหมดก็มานั่งรับประทานอาหารฝีมือแม่ของฉันเอง

“อร่อยมั้ยลูก”

“อร่อยค่ะแม่”

“แม่ไม่ได้ถามแกน้ำมนต์ แม่ถามถามขุนพล” อ้าวแม่!!ก็หนูลูกแม่ ไอ้นั้นมันลูกเขยนะ ตอนนี้แม่ฉันหลงขุนพลมาก อะไรก็ขุนอย่างนั้นอย่างนี้ แถมยังชมว่าหล่อกว่าโอปป้าที่แม่ชอบดูอีก เอาเข้าไปแม่ไปให้สุดเลย!! ไม่ใช่แค่แม่ฉัน ขุนพลก็ไม่น้อยหน้าแม่คับอย่างโน้นอย่างนี้ ตอนนี้ฉันกลายเป็นหมาหัวเน่าเรียบร้อยแล้ว ทั้งพ่อทั้งแม่โดนขุนพลพิชิตใจเรียบร้อย

หลังจากรับกินข้าวเสร็จ ฉัน ขุนพล พ่อแม่ ก็ขับรถมาเที่ยววัดชื่อดังแถวบ้าน ที่กำลังจะจัดงานอะไรสักอย่างทำให้ผู้คนแห่กันมาที่นี่เป็นจำนวนมาก วัดที่นี่ศักดิ์สิทธิ์เป็นวัดประจำตระกลูฉันเลยก็ว่าได้ หลังจากที่ถึงวัดพ่อก็พาพวกเราไปไหว้พระอาจารย์ที่พ่อนับถือกันมาหลายสิบปี

“เจอกันแล้วสินะโยม” ตอนเช้ามากราบพระอาจารย์ท่านก็ทักเราสองคนด้วยประโยคที่ทำให้เรางุนงงกันทั้งคู่ หลังจากนั้นท่านก็ผูกวันเดือนปีเกิดของฉันกับขุนพล และดูดวงให้จะบอกว่าพ่อฉันเป็นสายนี้ก็ว่าได้ ท่านอธิบายประโยคที่ทักเราสองคนว่า เราสองคนเป็นคนรักกันมาหลายภพชาติแล้วและสัญญาว่าจะรักกันทุกชาติ ได้ยินแบบนี้แล้วขนลุกทันที (มันก็แล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคล) แต่ฉันติดประโยคเดียวที่ท่านทัก

“มีเด็กมารอเกิดนะโยม”

“แต่หนูยังไม่พร้อมค่ะ ยังต้องทำงาน”

“ยังไงก็จะมาเกิด ไม่ได้มาคนเดียวมาคู่นะ” ลมแทบจับ ตอนนี้ยอมรับว่าฉันยังไม่พร้อมที่จะเป็นแม่คนเพราะภาระงานที่หนักและฉันยังไม่พร้อมที่จะดูแลใครตอนนี้ แต่ตัดภาพมาที่ขุนพลที่ตอนนี้นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่หลังจากที่พระท่านทัก

“พ่อแม่คับ ยังไงผมจะพาพ่อแม่มาคุยเรื่องของผมกับน้ำมนต์นะคับ” หลังจากที่เดินออกมาจากวัด ก็พากันไปหาอะไรกินแถวตลาดน้ำ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณหมอของนายขุนพล