อ่านสรุป หน้าแตก จาก คุณหมอของนายขุนพล โดย NaLa.
บทที่ หน้าแตก คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ คุณหมอของนายขุนพล ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย NaLa. อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
“มนต์ทำอะไรวะ”
“ขุน”
ขุนพลวิ่งหน้าตาตื่นเข้าไปห้องตรวจที่น้ำมนต์อยู่ข้างในโดยไม่ทันได้มองป้ายห้องตรวจทำให้รีบเปิดประตูเข้าไปในห้องตรวจอย่างรวดเร็ว ทำให้บุคคลทั้งสามในห้องตรวจต่างตกใจและทำสีหน้างุนงงกับการกระทำของขุนพลที่ดูรีบร้อนเกินเหตุ แถมยังตั้งคำถามกับน้ำมนต์ด้วยเสียงที่ดุดัน เจ้าหน้าที่พยาบาลที่อยู่หน้าห้องตรวจต่างรู้จักขุนพลดีเพราะเขามีดีกรีเป็นถึงลูกเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้และด้วยสีหน้าดุดันและเร่งรีบของขุนพลยิ่งไม่มีพยาบาลคนไหนกล้าห้ามเขาสักคน
“ทำไมท้องแล้วไม่ยอมบอกว่ะ มนต์ก็รู้ว่าขุนรอมานานแล้ว มนต์ไม่อยากมีลูกกับขุนถึงขนาดนี้เลยเหรอ” น้ำเสียงตัดพ้อของขุนพลและสีหน้าผิดหวัง ทำให้น้ำมนต์ทำหน้างุนงงเข้าไปใหญ่ว่าบัดนี้ชายหนุ่มพูดเรื่องอะไร ใครท้อง?
“เดี๋ยวขุน ใครท้อง”
“ก็มนต์ไง แอบมาตรวจครรภ์ไม่ใช่เหรอ” คำตอบที่ได้ของขุนพลทำให้น้ำมนต์เข้าใจถึงเหตุผลที่ขุนพลเร่งรีบและพูดตัดพ้อขนาดนี้ จริง ๆ น้ำมนต์แค่พาเพลงเพื่อนรักของเธอมาตรวจภายในและปรึกษาหมอแค่นั้น น้ำมนต์ไม่ได้มาตรวจครรภ์แต่อย่างใด
“ใครบอก มนต์พาเพลงมาตรวจภายใน ทำไมไม่ดูป้ายก่อนเข้ามา” คำตอบของน้ำมนต์เล่นทำเอาขุนพลแทบไปไม่เป็น เหมือนโดนลากไปตบกะโหลกที่กลางสี่แยกยังไงอย่างงั้น ด้วยความดีใจก่อนหน้านี้มลายหายไปในพริบตา คิดว่าตัวเองจะได้เป็นพ่อคนแล้วแต่ที่ไหนได้ต้องมานั่งเก็บเศษหน้าของตัวเอง ยังไม่พอยังมีสีหน้าล้อเลียนจากน้ำมนต์จนเขาแทบจะเอาปี๊บคลุมหัวแล้วรีบเดินออกจากห้องตรวจหรือหายตัวออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด
“อะ เอ่อ ขุนไปรอหน้าห้องนะ”
“ไอ้สัสเป้” หลังจากที่เขาบอกกับน้ำมนต์ว่าจะนั่งรอที่หน้าห้องตรวจขุนพลก็รีบออกมาทันทีโดยไม่รอคำตอบจากน้ำมนต์เลยด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นจังหวะเหมาะพอดีเดินออกมาเจอหมอเป้ที่เดินมาทางขุนพลพอดีและด้วยสาเหตุที่ทำให้เขาต้องรีบร้อนจากบ้านมาโรงพยาบาลก็เนื่องจากหมอเป้เพื่อนของขุนพลนี่แหละที่แจ้งข่าวให้ทราบ
“อ้าว!! ว่าไงคุณพ่อป้ายแดง”
“ป้ายแดงพ้องสัส เมียกูพาเพื่อนมาหาหมอ”
ฮ่าฮ่า เสียงหัวเราะของหมอเป้ที่ดังจนคนแถวนั้นหันมามองเป็นตาเดียว ยิ่งทำให้ขุนพลหัวเสียเข้าไปใหญ่ยิ่งโดนเพื่อนล้อว่าไม่มีปัญญาทำลูกแล้วยิ่งเสียเชิงชายที่สุดจนตอนนี้จิตใจของขุนพลบางจนท้อ สีหน้าอาฆาตของขุนพลส่งผมให้หมอเป้เงียบลงทันที ตอนนี้ก็อยากขำแต่ก็สงสารขุนพลในเวลาเดียวกัน เพราะหมอเป้รู้ว่าขุนพลอยากมีลูกมากจนงดเหล้าและเบาเรื่องบุหรี่ลงแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าลูกจะมาสักที
“ดูสามีแก จะอยากมีลูกมากนะน้ำมนต์” หลังจากที่ขุนพลเดินออกจากห้องไป เพลงก็หันมาคุยกับน้ำมนต์ทันทีใจเธอก็ขำขุนพลเช่นกัน แต่งงานกันได้แค่สามเดือนจะรีบให้เบบี๋มาตั้งแต่เดือนแรกเลย ปั๊มลูกจนตอนนี้น้ำมนต์เริ่มบ่นว่าเวลานอนแทบจะไม่มี เพราะขุนพลสะกิดทุกคนเพื่อยิงลูกแฝด
“ก็ใช่ แต่ก็ต้องใช้เวลามั้ย” ด้วยที่น้ำมนต์เป็นหมอเธอจึงรู้ว่าต้องรอและไม่ทำให้เครียดเกินไป ปล่อยวาง ถึงเวลาจะมาก็มาเอง แต่กับขุนพลทุกเช้าทุกเย็นมักจะมานั่งคุยกับหน้าท้องน้ำมนต์เสมอว่าเมื่อไหร่จะมา!! นั่นแหละคือประโยคที่ได้ยินทุกวัน
//// เขินจัง!!คำตอบของขุนพลทำเอาน้ำมนต์แทบไปไม่เป็นเหมือนกัน นี่ขุนพลจริงจังกับเธอตั้งนานแล้วเหรอ!! ทำไมผู้ชายคนนี้แสนดีขนาดนี้ถึงภายนอกจะดูแบดบอยก็เหอะ ขอบคุณสวรรค์ที่ส่งผู้ชายดี ๆ แบบนี้มาให้ลูกนะคะ สัญญาว่าจะทำหน้าที่เมียอย่างดีแต่ถ้าจะให้ดีช่วยส่งเบบี๋มาให้ครอบครัวเราได้สมบูรณ์มากขึ้นที เพี้ยง!!
“มนต์อยากให้ขุนปล่อยวาง ถ้าเบบี๋จะมาเดี๋ยวเขาก็มาเอง”
“คับ อยู่กันสองคนไปก่อนเนอะ” น้ำมนต์ลูบท่อนแขนแกร่งเบา ๆ ให้ขุนพลรู้สึกดีได้บ้าง การกระทำของน้ำมนต์ทำให้ขุนพลหันมาให้คำตอบกับน้ำมนต์และยิ้มออกได้ หลังจากที่คิดได้ตัวเองต้องปล่อยวางบ้าง คิดได้ดังนั้นเขาจึงรีบ ขับรถพาน้ำมนต์ออกไปกินข้าวที่ร้านโปรดของเธอเพื่อเอาใจเมีย หลังจากที่ทำให้เมียคิดมากเรื่องเบบี๋ตอนนี้คงต้องพักไว้ก่อนแล้ว
“อะไรอร่อยบ้าง”
“มนต์ไง”
“หือ นั้นนะของโปรดขุนเลยนะนั้น” ถึงร้านอาหารกลิ่นอาหารก็ลอยตามสายลมชวนให้น้ำลายสอ น้ำมนต์คิดว่าสาเหตุที่กินเยอะและบ่อย ๆ เนื่องจากฮอร์โมนคงกำลังปรับตัวหลังจากที่เธอหยุดกินยาคุมแน่นอน กินอะไรก็อร่อยกินได้เยอะ หิวบ่อย แถมตอนนี้น้ำหนักตัวก็เหมือนจะเพิ่มขึ้นด้วย หลังจากที่ทำใจเหตุการณ์ที่โรงพยาบาลขุนพลกับน้ำมนต์ก็หยอกล้อกันเหมือนทุกวันไม่เคยเบื่อ
## กลับมาแล้วหลังจากหายไปหลายวัน ขอกำลังใจจากคนอ่านหน่อยเนื่องจากหมดกำลังใจในการแต่งอยู่หลายวัน ตอนนี้กลับมาแล้วค่ะ##
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณหมอของนายขุนพล