ป่วยไม่ทราบสาเหตุ – ตอนที่ต้องอ่านของ คุณหมอของนายขุนพล
ตอนนี้ของ คุณหมอของนายขุนพล โดย NaLa. ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ป่วยไม่ทราบสาเหตุ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
อ้วก !!
“ขุน เป็นอะไร” ขุนพลวิ่งไปอ้วกในห้องน้ำทันที หลังจากที่รู้สึกมวนท้องอยากจะอาเจียนขึ้นกลางดึกแรงลุกจากที่นอนทำให้น้ำมนต์รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเห็นว่าขุนพลวิ่งเข้าไปอาเจียนในห้องน้ำอยู่นานสองนาน จนทำให้เธอตัดสินใจเดินตามไปดูในห้องน้ำพบว่าสภาพขุนพลตอนนี้แทบจะกอดโถชักโครกอยู่ร่อมร่อ สีหน้าที่ซีดเผือกและสายตาที่ดูอ่อนหล้ายิ่งทำให้ขุนพล ยิ่งทำให้น้ำมนต์รีบสาวเท้าเข้าไปดูอาการของสามีตัวเองทันที
“ไปกินอะไรผิดสำแดงมารึป่าว”
“ขุนกินข้าวเย็นกับมนต์แค่นั้น”
“มีถ่ายเหลวมั้ย”
“ไม่มีคับ แค่มวนท้องอยากอ้วกแค่นั้น” ถามไถ่อาการเสร็จ น้ำมนต์รีบวิ่งออกจากห้องไปชงเกลือแร่ให้ขุนพลดื่ม เพราะกลัวว่าร่างกายของขุนพลจะเสียน้ำมากไปจนอาจทำให้เกิดอาการช็อกได้ อาหารคงเป็นพิษเพราะไปกินอะไรผิดสำแดงมากแน่ขุนพลไม่ค่อยระวังตัวกับอาหารการกินเท่าไหร่ เป็นคนกินอะไรก็ได้ถ้าอยู่คนเดียวก็มักจะมาม่าเท่านั้นหรือไม่ก็อาหารแช่แข็งแล้วนำเข้าเวฟ
“ขุนดื่มเกลือแร่ก่อน” ขุนพลเดินโซซัดโซเซออกจากห้องน้ำด้วยอาการเวียนหัวร่วมด้วย ตอนนี้สภาพของขุนพลแทบจะไม่มีแรงเดินด้วยซ้ำ แต่ต้องฝืนเดินออกมานั่งพิงที่หัวเตียง อาการแบบนี้ขุนพลไม่เคยเป็นมาก่อนเลยด้วยซ้ำเป็นอาการที่ทรมานอยากบอกไม่ถูก หลังจากดื่มเกลือแรงที่น้ำมนต์ชงให้หมดขุนพลก็ออกแรงรั้งเอวบางของน้ำมนต์เข้าหาตัวเอง ทำให้ใบหน้าอยู่ระดับเดียวกันกับหน้าท้องของน้ำมนต์ หลังจากที่ได้กินตัวของหญิงสาวทำให้อาการเวียนหัวและพะอืดพะอมดีขึ้นมากทีเดียว ยิ่งได้ดมกลิ่นกายหอมอ่อน ๆ ของน้ำมนต์ยิ่งทำให้ดีขึ้นมาก
“ขุนนอนก่อนนะ จะได้ดีขึ้นแต่ถ้าไม่ดีไปโรงพยาบาลกัน” แม้ว่าน้ำมนต์จะเป็นหมอแต่เธอก็ต้องใช้เครื่องมือในการตรวจร่างกายของชายหนุ่ม การประเมินอาการด้วยสายตาหรือคาดคะเนมักจะไม่ค่อยได้ผมต้องตรวจร่างกายให้ละเอียดเท่านั้น ยิ่งขุนพลเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายสม่ำเสมอ แค่อาหารเป็นพิษทำไมอาการรุนแรงขนาดนี้ นี่คือข้อสงสัยของหมอน้ำมนต์
อ้วก!! คืนนี้ไม่จบแค่นั้น ประมาณตีสองกว่า ๆ ขุนพลได้ลุกขึ้นมาอาเจียนจนไม่มีแรงเดินจนทำให้น้ำมนต์รีบพยุงตัวขุนพลเดินไปที่รถเพื่อพาขุนพลไปโรงพยาบาล ด้วยอาการที่ยังไม่ดีขึ้นของขุนพลทำให้น้ำมนต์เป็นห่วงและร้อนใจอย่างมาก
“ดมพิมเสมไปก่อนนะ มนต์จะขับให้ระวัง” สีหน้าอ่อนล้าและซีดของขุนพล แค่พยักหน้ารับรู้เท่านั้นไม่มีการขยับร่างกายแต่อย่างใด ร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงแทบจะหมดสติหลังจากอาเจียนรอบสุดท้ายในห้องน้ำไปจนหมด
เมื่อถึงโรงพยาบาลบุรุษพยาบาลรีบนำรถเข็นมารับตัวขุนพลทันที เนื่องจากตอนขับรถมาโรงพยาบาลน้ำมนต์ได้ติดต่อหมอประจำเวรดึกให้รอรับเรียบร้อยแล้ว
“สรุปเป็นไงบ้างค่ะ”
“ตอนนี้ร่างกายอ่อนเพลีย นอนให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาลดูอาการสักคืน” หลังจากแพทย์ประจำเวรดึกตรวจร่างกายขุนพล ก็แจ้งกับน้ำมนต์ให้ขุนพลนอนเติมน้ำเกลือที่โรงพยาบาลเนื่องจากไม่สามารถปล่อยให้ขุนพลกลับบ้านได้ เพราะกลัวอาเจียนจนช็อก ซึ่งหมอก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ว่าทำไมชายหนุ่มถึงมีอาการเช่นนี้ จะว่าอาหารเป็นพิษก็คงไม่น่าจะใช่ เพราะไม่มีอาการท้องเสียร่วมด้วย
“โอเคค่ะ”
“ผมเป็นอะไรคับหมอ” สีหน้าที่เริ่มวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัดของขุนพล ทำให้อาจารย์หมอยิ้มออกมาด้วยความแอ่นดูคงคิดว่าตัวเองเป็นโรคร้ายแรงแน่นอน ดูจากสีหน้าของขุนพลแล้วต่างจากคุณหมอน้ำมนต์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เตียงตอนนี้มีใบหน้ายิ้มออกมาดีใจอย่างเห็นได้ชัด
“คุณขุนพลเป็นโรค Couvade Syndrome”
“คือโรคหายากเหรอคับ” อาการหวั่นใจหลังจากที่หมอบอกอาการ แต่ชื่อโรคไม่คุ้นทำให้ขุนพลลืมจับมือบางมากุมไว้บนหน้าตักของตัวเอง พร้อมกับลูบหลังมือของน้ำมนต์เบา ๆ เพื่อเป็นการปลอบใจน้ำมนต์ จนลืมไปเลยว่าเขามีเมียเป็นหมอ
“โรคหายากคับหรือถ้าเรียกเป็นภาษาชาวบ้านคือโรคแพ้ท้องแทนเมีย”
หือ!! อาการหูอื้อตาลายคล้ายจะเป็นลม หลังจากนายแพทย์ให้คำตอบอย่างชัดเจนให้กับเขา ตอนนี้เหมือนขุนพลฝันไปรึป่าว? ตอนนี้แทบจะไม่เชื่อหูตัวเองด้วยซ้ำแต่ความฝันเหมือนจริงจนหัวใจที่ห่อเหี่ยวเต้นแรงอีกครั้ง
“ดีใจด้วยคับ ตอนนี้ภรรยาของคุณตั้งครรภ์ได้สี่สัปดาห์แล้ว” หลังจากประโยคที่หมอพูดจบเหมือนตอกย้ำขุนพลอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ทำให้เขาดีใจจนเป็นลมสลบไปทันที ทำให้บุคคลที่อยู่ในห้องต่างตกใจและวุ้นวายกันไปหมดหลังจากที่ขุนพลสลบไป
##สมใจอิพ่อแล้ว ดีใจจนเป็นลมกันเลยทีเดียว##
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณหมอของนายขุนพล