“หาววว” กี่โมงแล้วเนี้ย เมื่อคืนยอมรับว่าหลังจากเถียง “ไม่ใช่สิ” ต้องบอกว่าฉันบ่นอยู่คนเดียวก็คงจะใช่ เพราะนายขุนพลเล่นไม่ตอบโต้อะไร ไม่เถียงแถมยังตีหน้ามึนให้ฉันบ่นอยู่คนเดียวมันคนบ้า ยอมรับว่าเมื่อคืนใช้พลังงานเยอะไปจริง ๆ ทุกคนอย่างคิดไปไกลนะ แค่ใช้พลังปอด ตื่นนอนขึ้นมาสิ่งที่ฉันโฟกัสเห็นอย่างแรกคือใบหน้าอันหล่อเหลาของนายขุนพล ที่ห่างจากใบหน้าฉันแค่หนึ่งเซน ยอมรับเลยว่านายคนนี้ต้องเป็นลูกรักพระเจ้าแน่นอน ก็เพราะใบหน้าที่ลงตัว ผิวเนียนระเอียด คิ้วเข้า จมูกโด่งเป็นสัน ปากกระจับสีชมพูแถมยังมีตาที่เฉียวอีกต่างหาก แต่อย่างเดียวคือไม่ค่อยพูดไม่ค่อยยิ้มไม่รู้ว่าชาตินี้ฉันจะได้เห็นรอยยิ้มของเขารึป่าว
“มองอะไร” ห๊า !! นี่เขาตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ ใบหน้าของเราสองคนที่ห่างกันแค่หนึ่งเซนสายตาที่มองมาทางฉันและยังเลิกคิ้วถามเป็นเชิงกวนตีนว่าฉันไปมองหน้าเขาทำไม และไม่พูดเปล่าเขายื่นหน้ามาจุ๊บที่ปากฉันเบา ๆ หนึ่งที
ตึกตัก ตึกตัก เสียงหัวใจของฉันที่เต้นแทบจะหลุดออกมา ทำให้ร่างกายสูบฉีดเลือดขึ้นมาทำงานที่ใบหน้า รับรู้ได้จากหน้าและหูของฉันที่ร้อนผ่าว ทำให้ฉันต้องรีบจับข้อมือของตัวเองเพื่อวัดชีพจรของตัวเองเพราะกลัวหัวใจทำงานหนักจนล้มเหลว
หึ!! เสียงนุ่มทุ่มของผู้ชายตรงหน้าที่พึ่งตื่นนอนพร้อมฉันหัวเราะในลำคอ ยิ่งทำให้หัวใจฉันทำงานหนักเหมือนไปวิ่งรอบสนามมาใหม่ ๆ แบบนี้ฉันต้องหนีไปตั้งหลักก่อนแล้ว หลังจากคิดได้ดังนั้นก็รีบดีดตัวออกจากเตียงนอนแล้ววิ่งไปคว้าผ้าเช็คตัววิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที
ปัง!!
น้ำมนต์วิ่งเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับปิดประตูเสียงดังลั่นซึ่งเธอไม่ได้หันมามองปฏิกิริยาของคนที่นอนอยู่บนเตียงที่นอนยิ้มมองการกระทำของเธออยู่ การกระทำที่คนมองว่ามันน่ารักในสายตาของเขาเสมอ ขุนพลไม่ได้ยิ้มแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้ ซึ่งเขาก็จำไม่ได้เหมือนกัน เพราะโตขึ้นมาก็เข้าสังคมเพื่อนฝูงที่มีแต่เรื่องชกต่อยและยิ่งเริ่มเปิดสนามแข่งรถก็ยิ่งเริ่มมีศัตรูในที่มืดมากขึ้น แถมยังมีกิจการของครอบครัวและของตัวเองที่ต้องรับผิดชอบอีกเพราะว่าเขาเป็นลูกชายคนเดียว
“ผ้าเช็คตัวอยู่ไหน” หลังจากที่น้ำมนต์อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ คนที่นอนรอบนเตียงก็เอ่ยถามขึ้นเนื่องจากเขาต้องการอาบน้ำเป็นอย่างมาก และตั้งแต่เมื่อคืนเขาให้ลูกน้องนำเสื้อผ้ามาแขวนไว้ที่หน้าประตูคอนโดของน้ำมนต์ตั้งแต่เมื่อคืนโดยที่หญิงสาวไม่รู้เรื่องอะไรเลย
“แล้วทำไมไม่กลับไปคอนโดตัวเองเนี้ย” เสียงบ่นของน้ำมนต์ดังขึ้นเป็นระยะ แต่การกระทำของเธอมักสวนทางกับคำพูดเพราะตอนนี้เธอกำลังหาผ้าเช็คตัวผืนใหม่ในตู้เสื้อผ้าให้เขาอยู่ ซึ่งมีสายตาคู่นึ่งมองการกระทำของเธออยู่ตลอดเวลา เหมือนเมียที่กำลังบ่นผัวที่หาของไม่เจอ
หลังจากที่หาผ้าเช็คตัวให้ขุนพลเรียบร้อย ก็เดินออกมาจากห้องเพื่อทำอาหารรับประทาน เนื่องจากวันนี้เธอต้องเข้าเวรตอนเย็นที่โรงพยาบาล เลยทำให้ชิวได้เพราะตอนนี้บ่ายกว่า ๆ อยู่เลย ก็เลยเปิดตู้เย็นมองหาอาหารสดที่เหลือมาทำอาหารกินด้วยตัวเอง เห็นเธอเป็นคนไม่มีเวลาแต่เธอทำอาหารเป็นและอร่อยมากด้วย ตั้งแต่เล็กจนโตคนยายมักจะชอบสอนเสมอว่าเป็นผู้หญิงเรื่องงานบ้านงานเรือนต้องทำเป็นจะได้ไม่อายสามีในอนาคต
“ทำไมนายยังไม่กลับสักที”
“หิว” สรุปตอนนี้คอนโดของฉันกลายเป็นโรงแรมห้าดาวไปแล้วใช่มั้ย นอนไม่พอยังต้องทำอาหารให้กินอีก เหมือนตอนนี้เขาสถาปนาเป็นผัวฉันแล้วนะ
“ก็ออกไปหาอะไรกินเซ่”
“งกหรอ” เอ่องก แถมยังรกหูรกตาด้วย เห็นการณ์เมื่อเช้ามันเสี่ยงต่อหัวใจฉันมาก ก็เลยไม่อยากอยู่ใกล้เขาเท่าไหร่และไม่อยากเถียงต่อแล้วด้วยเหนื่อย เลยหันไปทำอาหารต่อจนเสร็จเรียบร้อยและยกไปวางบนโต๊ะหน้าทีวีโดยมีคนหน้ามึนนั่งอยู่บนโซฟารออยู่ก่อนแล้ว นายคนนี้มันคือเจ้ากรรมนายเวรที่แท้ทรูจริง ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณหมอของนายขุนพล