คุณหมอที่รัก นิยาย บท 2

“คนไข้เป็นอะไรมาคะ” เสียงเจ้าหน้าที่แผนกฉุกเฉินถามขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังนำหญิงสาวที่นอนตะแคงอยู่บนเตียงบนรถฉุกเฉินที่นำคนเจ็บมาส่งที่โรงพยาบาล

“อุบัติเหตุรถชนกัน คนไข้ศีรษะกระแทกพื้นและมีแผลถลอกตามร่างกายครับ” เจ้าหน้าที่กู้ภัยรายงานข้อมูลคนไข้เบื้องต้นให้เจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์ฉุกเฉินฟัง รดาที่นอนเจ็บอยู่บนเตียงถูกเข็นเข้าไปด้านในโรงพยาบาลทันที

ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้ขนลุกซู่ กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเข้าปะทะจมูกชวนให้ปวดหัวเพราะเป็นกลิ่นที่รดาไม่ชอบเอาซะเลย ห้องสีขาวแสงไฟสว่างจ้าส่องจากเพดานดวงตากลมโตถึงกับต้องหลับตาลงเพราะสู้ความสว่างไม่ไหว เตียงถูกเข็นมาหยุดอยู่ด้านในซึ่งเจ้าหน้าที่ต่างวิ่งวุ่นกันใหญ่เหมือนกับว่าด้านในห้องฉุกเฉินตอนนี้นั้นกำลังวุ่นวายเพราะมีคนไข้จากอุบัติเหตุครั้งใหญ่ถูกส่งตัวมารักษาที่นี่

“ช่วยตามหมอแผนกอายุรกรรมมาช่วยหน่อย คนไข้ฉุกเฉินเยอะมากหมอเวรไม่พอ” เสียงเจ้าหน้าที่หญิงรายหนึ่งพูดขึ้นอย่างร้อนรน

“คนไข้เกิดอุบัติเหตุรถชนมา ศีรษะกระแทกพื้นและมีบาดแผลด้านนอกนิดหน่อย”

“ห้องฉุกเฉินคุณหมอไม่พอ ติดเคสอุบัติเหตุหลายราย” เสียงเจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์ฉุกเฉินกำลังวิ่งวุ่น เพราะวันนี้มีเคสอุบัติเหตุใหญ่มีคนไข้อาการหนักหลายรายจึงทำให้หมอเวรห้องฉุกเฉินไม่พอ

ตึก ตึก ตึก เสียงรองเท้าหนังกระทบพื้นทางเดิน ขณะที่ไรเดอร์สาวนอนตะแคงอยู่บนเตียงคนไข้ เนื้อตัวเปรอะเปื้อนฝุ่นและมีเลือดสีแดงไหลซึมออกมาบริเวณแผลที่ล้มครูดไปกับพื้นซีเมนต์

“พาคนไข้เข้าห้องฉุกเฉินเลยครับ เคสนี้ผมดูเอง” กองทัพ ศาสตราจารย์นายแพทย์เธียรวิชญ์ เศรษฐบุตรกุญชร นายแพทย์หนุ่มเจ้าของโรงพยาบาลเดินลงมาเจอขณะที่กำลังจะเดินทางกลับบ้าน สายตาเหลือบไปเห็นเด็กสาวคุ้นหน้านอนอยู่บนเตียงหน้าห้องฉุกเฉินโดยมีผ้าพันแผลพันรอบศีรษะ แขนที่โผล่พ้นเสื้อเต็มไปด้วยรอยแผลถลอก

“ค่ะ ศาสตราจารย์” รดาถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉินโดยเร็ว ม่านสีฟ้าถูกเลื่อนปิดกั้นเป็นห้อง มีเพียงเสียงเครื่องวัดความดันและเครื่องวัดชีพจรดังอยู่หัวเตียง

“คนไข้เกิดอุบัติเหตุรถชน ศีรษะกระแทกพื้นค่ะ มีบาดแผลถลอกตามตัว กระดูกไม่หักยังขยับแขนขาได้ตามปกติ ปฏิกิริยารับรู้คนไข้ปกติค่ะ” เสียงพยาบาลรายงานเมื่อคุณหมอหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าสวมทับด้วยเสื้อกาวน์สีขาวตัวยาวเปิดม่านเดินเข้ามา

“ขอหมอดูแผลหน่อยนะครับ”

“เจ็บตรงไหนบ้างครับ ตรงนี้เจ็บไหม แล้วตอนล้มได้ใส่หมวกกันน็อกหรือเปล่า” เสียงทุ้มอ่อนโยนเอ่ยถาม จากตอนแรกที่เหนื่อยอ่อนกำลังจะเคลิ้มหลับ พอได้ยินเสียงทุ้มอ่อนโยนของหมอหนุ่มอะดรีนาลีนในร่างกายสูบฉีดขึ้นทันที

“ใส่ค่ะ แต่ด้านหน้าไม่มีกระจกเลยกระเด็นแล้วหัวไปโขลกกับฟุตบาท” รดาไม่เคยหละหลวมเรื่องเซฟตี้เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่วันนี้เธอก็ยังเจ็บตัวอยู่ดี ถ้าวันนี้เธอไม่ได้สวมหมวกกันน็อกป่านนี้เธอคงนอนหมดสติอยู่บนเตียง คงไม่มานอนบอกอาการคุณหมอได้อยู่แบบนี้

“หมอขออนุญาตดูแผลตรงจุดอื่นหน่อยนะครับ คุณพยาบาลครับช่วยถอดเสื้อแขนยาวคนไข้ออกทีครับ” ประโยคแรกบอกกับรดาประโยคหลังหันไปบอกกับเจ้าหน้าที่พยาบาล รดาเอาแต่มองหน้าหมอหนุ่มไม่ละสายตา

[เสียงคุ้นจัง เหมือนเคยได้ยินเสียงนี้ที่ไหน] รดาได้แต่คิดในใจจนแจ็กเกตสีเขียวของแอปสั่งอาหารแอปหนึ่งถูกถอดออก

“ขยับแขนให้หมอดูหน่อยครับ ว่าเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”

“ทั้งสองข้างเลยครับ มีขัดๆ เสียดๆ ไหมเวลายกขึ้น” รดาทำตามอย่างว่าง่าย

“กำมือหมอหน่อยครับ กำแรงๆ ไม่ต้องกลัวหมอเจ็บ” ฝ่ามือหนาที่สวมถุงมือแพทย์สีฟ้าทั้งสองข้างยื่นมาตรงหน้าเด็กสาว มือเรียวเล็กที่มีรอยเลือดสีแดงสดไหลซึมออกมาเล็กน้อยยื่นมากุมมือชายหนุ่มและออกแรงบีบจนสุดกำลัง

“โอเคครับ ตรงแขนมีแค่แผลถลอกนิดหน่อย”

“ยกขาขึ้นด้านบนให้หมอดูหน่อยครับ” มือหนายื่นไปถอดรองเท้าผ้าใบออกทั้งสองข้าง พยาบาลทำหน้าตกใจที่เห็นคุณหมอถอดรองเท้าให้คนไข้เอง รดาเองก็ตกใจไม่คิดว่าหมอหนุ่มจะกล้าทำแบบนั้น

“ขยับซ้าย-ขวาครับ..โอเคอีกข้างครับ” มือข้างหนึ่งยกขึ้นไปดันเท้าเล็กไว้ขณะกำลังออกแรงขยับ

“โอเคครับ ขาทั้งสองข้างก็ปกติ เดี๋ยวหมอจะส่งไป CT SCAN ดูว่าศีรษะได้รับความกระทบกระเทือนมากหรือไม่ แต่เท่าที่ดูจากแผลก็ไม่มีอะไรน่ากังวลครับ” กองทัพเขียนอะไรสักอย่างลงชาร์จคนไข้ก่อนจะส่งให้เจ้าหน้าที่พยาบาล รอสักพักก็มีเจ้าหน้าที่เข้ามาเข็นเธอออกจากห้องม่านกั้น ไปยังห้องห้องหนึ่งซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นห้องเอกซเรย์ทางคอมพิวเตอร์

“คนไข้ศาสตราจารย์เธียรวิชญ์” เจ้าหน้าที่ที่เข็นเธอเข้ามาบอกกับเจ้าหน้าที่ห้องเอกซเรย์ ภายในห้องมีเพียงรดาและเจ้าหน้าที่ผู้ชายอีกสองคน

รดาถูกเข็นเข้าไปในอุโมงค์สีขาวหลังจากที่เจ้าหน้าที่นำอะไรบางอย่างมาปิดตาเธอไว้ทั้งสองข้าง ความกลัวเข้าปกคลุม แขนสองข้างวางแนบข้างลำตัวมือกำเข้าหากันแน่นนอนตัวเกร็งอยู่บนเตียง เพราะภายในห้องอากาศเย็นและเงียบมากจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัว

แอ๊ด..เสียงเปิดประตูมีบุคคลใหม่เข้ามาจากด้านนอก

“ศาสตราจารย์ สวัสดีครับ” เสียงเจ้าหน้าที่ประจำห้องเอกซเรย์เอ่ยทักทายชายหนุ่ม แสดงว่าบุคคลที่พึ่งเข้ามาในห้องนี้นั้นเป็นคุณหมอคนนั้นสินะ รดาจึงคลายอาการรู้สึกกลัวลงมาก มือที่กำแน่นจนเล็บแทบจิกเข้าเนื้อค่อยๆ คลายออกเมื่อรู้ว่าคนที่เข้ามาใหม่นั้นเป็นใคร เธอรู้สึกปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก

“ผมขอดูผลเอกซเรย์ตอนนี้เลยนะครับ” ไฟอุโมงค์ถูกเปิดขึ้นสว่างจ้าทั้งที่มีอะไรบางอย่างปิดตาทั้งสองข้างอยู่แต่ก็ยังมีแสงลอดผ่านเข้ามาให้ได้เห็น

“คนไข้หลับตานะครับ”

พรึบ! สิ้นเสียงเจ้าหน้าที่อุโมงค์ใหญ่ก็ถูกสั่งให้ทำงานทันที ไม่ถึง5นาทีรดาก็ถูกเข็นออกมา

“พาคนไข้ขึ้นไปห้องพัก 201 และเตรียมอุปกรณ์ทำแผลด้วย” เสียงทุ้มนุ่มพูดขึ้นเมื่อดูผลเอกซเรย์ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์สักพัก

“ห้อง 201 เหรอครับศาสตราจารย์” เจ้าหน้าที่ถามย้ำอีกครั้งเพราะห้องที่ศาสตราจารย์หนุ่มบอกเมื่อสักครู่นั้นเป็นห้องพักสำหรับครอบครัวหรือญาติเจ้าของโรงพยาบาลเท่านั้น

“ครับห้อง 201 ผมพูดไม่เคลียร์ตรงไหน” เสียงทุ้มต่ำถามกลับเมื่อยังเห็นว่าทุกคนในห้องยังยืนนิ่งราวกับไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด

“เคลียร์ครับ ห้อง 201” รดาถูกพาขึ้นมายังชั้นบนสุดของโรงพยาบาล ทั้งชั้นมีห้องพักเพียงสองห้อง และอีกฝั่งของชั้นนี้นั้นเป็นห้องทำงานของผู้อำนวยการโรงพยาบาล

“พี่คะ หนูต้องนอนโรงพยาบาลเหรอคะ”

“น่าจะเป็นอย่างนั้นนะครับ เพราะศาสตราจารย์บอกให้พาคนไข้ขึ้นมาพักที่ห้องนี้”

“แต่หนูไม่ได้เป็นอะไรมากนี่คะ ไม่นอนโรงพยาบาลได้ไหมคะ”

“ผมตอบไม่ได้จริงๆ ครับคนไข้ลองถามคุณหมอดูเองแล้วกันนะครับ”

“แต่โรงพยาบาลหรูขนาดนี้ หนูไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลหรอกนะคะ”

“เรื่องค่าใช้จ่าย คู่กรณีเขาติดต่อมาว่าจะรับผิดชอบเองทั้งหมด ลุกขึ้นไปนั่งบนเตียงครับ หมอจะทำแผลให้” กองทัพเปิดประตูเข้ามาได้ยินเข้าพอดีจึงโกหกรดาออกไป ถ้าไม่งั้นหญิงสาวคงต้องรบเร้ากลับบ้านแน่ๆ คืนนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณหมอที่รัก