คุณหมอที่รัก นิยาย บท 30

สรุปบท บทที่29 พบแม่ยายในฐานะแฟนของลูกสาว: คุณหมอที่รัก

สรุปเนื้อหา บทที่29 พบแม่ยายในฐานะแฟนของลูกสาว – คุณหมอที่รัก โดย ดาวิเด

บท บทที่29 พบแม่ยายในฐานะแฟนของลูกสาว ของ คุณหมอที่รัก ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ดาวิเด อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ช่วงสายของอีกวัน

“รดาตื่นได้แล้วครับ สายแล้วนะ” กองทัพเดินมาหย่อนสะโพกข้างขอบเตียง เสียงทุ้มนุ่มก้มลงกระซิบข้างหูคนตัวเล็กที่นอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มบนเตียง

“อือ..หนูขออีกห้านาที” เสียงครางงึมงำในลำคอ ตาสองข้างยังปิดสนิท

“หมดแรงขนาดลุกไม่ขึ้นเลยเหรอ หืม” หนวดเคราที่กำลังขึ้นเป็นตอสีดำเสียดสีกับลำคอใต้ซอกใบหูจนคนที่นอนหลับอยู่รู้สึกจักจี้จากการรบกวน

“พี่หมอ หนูขออีกห้านาทีนะคะ” เสียงหวานเอ่ยอ้อนคว้ามือหนาที่วางพาดอยู่บนตัวเข้ามากอดแนบใบหน้า จนกองทัพทำตัวไม่ถูกจำต้องจำยอมตามคำขอและทำได้เพียงนั่งนิ่งๆ รอเวลา

“หนูครับ วันนี้พี่จะพาหนูไปเยี่ยมคุณแม่ที่โรงพยาบาล ถ้าไม่ยอมตื่นคุณแม่ท่านจะรอนานเอานะครับ” สิ้นคำพูดรดาก็ดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอนทันที

“คุณจะพาหนูไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาลจริงๆ เหรอคะ” ร่างบางโผเข้ากอดชายหนุ่มอย่างลืมตัว หน้าอกคัพB ใต้เสื้อนอนตัวเล็กเสียดสีกับอกแกร่งจนกองทัพสัมผัสถึงความนุ่มเด้งได้

“ถ้ายังอยากไปเยี่ยมแม่ พี่แนะนำให้ปล่อยพี่ก่อนครับ ก่อนที่หนูจะต้องนอนหมดแรงอยู่บนเตียงจนออกไปไหนไม่ได้” เสียงกระท่อนกระแท่นเอ่ยบอกติดๆ ขัดๆ ขณะที่จิตสำนึกกำลังต่อสู้กับปฏิกิริยาของร่างกายอย่างหนัก

“ตาแก่หมกมุ่น” รดาว่าให้เมื่อคลายอ้อมกอดออกและถอยห่างจากคนตัวโตมาพอสมควร

“พี่อายุยังไม่ถึงสามสิบ และเมื่อคืนพี่ก็พิสูจน์ให้หนูเห็นแล้วว่าพี่ยังไม่แก่..ยังกินอร่อยอยู่” ใบหน้าเจ้าเล่ห์ตอบกลับเสียงใส ส่งสายตาหยาดเยิ้มหิวกระหายไล่มองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า

“หนูไม่คุยกับคุณแล้ว หนูไปอาบน้ำดีกว่า”

“หนูระวัง/โอ้ย!” เท้าเล็กกระโจนลงจากเตียงจนเกือบเสียหลักล้ม เมื่อรู้สึกเจ็บตรงส่วนนั้นและแขนขาอ่อนแรงเหมือนกับว่าเมื่อวานพึ่งผ่านการทำงานหนักมาจนปวดเมื่อยไปทั้งตัว

“ระวังหน่อยสิ ถ้าพี่จับไว้ไม่ทันจะทำไง เกิดแข้งขาหักขึ้นมา พี่ก็อดในครัวกับห้องน้ำสิ”

“อะไรคืออดในครัวกับห้องน้ำคะ” รดาเงยหน้าขึ้นถามอย่างงงๆ เพราะไม่เข้าใจสิ่งที่กองทัพพูด

“ก็ถ้าหนูขาหัก หนูก็จะยืนไม่ได้ ได้แต่ท่านอนบนเตียงกับโซฟา ส่วนห้องน้ำ ห้องครัว ระเบียงพี่ก็อดทำนะสิ” รดาคิดตามคำพูดของชายหนุ่มจนเริ่มจับใจความสำคัญได้ กำปั้นเล็กทุบเข้าที่อกแกร่งอย่างแรง

“หนูไม่ใช่ของหวานนะที่คุณจะต้องจ้องจะกินหนูตลอดเวลา”

“ใครบอกหนูเป็นของหวาน หนูคืออาหารจานหลัก คือแหล่งรวมโปรตีนต่างหาก กินหนูครั้งเดียวได้ครบสารอาหารทุกอย่าง ได้กรดอะมิโนสมบูรณ์ ไขมันต่ำ มีไฟเบอร์สูง ร่างกายชะลอวัย ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ ช่วยลดน้ำหนักและรักษาโรคอ้วน” คนตัวเล็กหน้าขึงตาขึงใส่ก่อนจะสาวเท้า ฉับ ฉับ ฉับ เดินเข้าห้องไป

บนโต๊ะอาหาร

“ทำไมมีแต่เมนูไข่ล่ะคะ” ไข่ตุ๋น ไข่เจียวมะเขือเทศ ไข่เจียวปู เมนูไข่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะ

“ไข่มีโปรตีนสูง แถมยังช่วยซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอ ทานไข่แรงดีหนูไม่เคยได้ยินเหรอ” กองทัพตอบกลับสีหน้าเริงร่าต่างจากอีกคนที่นั่งบอกบุญไม่รับอยู่ข้างๆ

“ค่ะ คุณหมอ” ใบหน้าบึ้งตึงตอบกลับน้ำเสียงประชด ยื่นช้อนในมือไปตักไข่ตุ๋นนุ่มๆ เข้าปากเคี้ยวสามสี่ทีก่อนกลืนลงคอ ตามด้วยเมนูไข่ต่างๆ ที่ชายหนุ่มตรงหน้ารังสรรค์ขึ้นมา จนเวลาล่วงเลยมาเกือบยี่สิบนาทีก็วางช้อนในมือลง หยิบแก้วนมอุ่นที่วางอยู่ด้านข้างคู่กับแก้วน้ำขึ้นดื่ม

“ทานยาด้วย เมื่อคืนพี่ปล่อยใน” ยาเม็ดเล็กสีขาวในแก้วยาใบเล็กถูกส่งไปให้เด็กสาว รดาหยิบไปทานโดยไม่ได้บ่นอะไร

“คราวหน้าพี่จะป้องกันนะครับ หนูจะได้ไม่ต้องทานยาพวกนี้อีก” สายตาคมเข้มแสดงความอ่อนโยนมองสบตาขณะที่ฝ่ามือหนายื่นไปกุมมือเล็กอย่างรักใคร่

รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวออกจากคอนโดใจกลางเมืองในช่วงสายของวัน ถนนเต็มไปด้วยรถรากำลังสัญจรอย่างคับคั่ง เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ผู้คนต่างออกมาทำธุระหรือเดินเที่ยวหลังจากที่นอนตื่นในช่วงสาย

“ทำไมมาทางนี้ล่ะคะ แม่หนูอยู่โรงพยาบาลย่านฝั่งธนนะคะ” รดาเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นเส้นทางที่รถกำลังมุ่งหน้าไปนั้นคือทางไปโรงพยาบาลที่ชายหนุ่มเป็นเจ้าของ

“พี่ย้ายคุณแม่หนูมาที่โรงพยาบาลเราแล้ว วันนี้จะทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกทีก่อนเข้ารับการผ่าตัด”

“คุณย้ายแม่มาที่นี่แล้วเหรอคะ ทำไมไวขนาดนี้ล่ะคะ”

“พี่ประสานไปทางโรงพยาบาลต้นสังกัดตั้งแต่อาทิตย์ก่อนที่หนูจะมาบอกพี่แล้ว ทุกอย่างเรียบร้อยก็ย้ายมาทันที” กองทัพตอบกลับอย่างลืมตัว เพราะมัวแต่ใช้สมาธิในการขับรถจึงขาดการกลั่นกรองคำพูดก่อนพูดออกมา

“นี่คุณวางแผนไว้ก่อนอีกแล้วเหรอคะ” รดาถามกลับเสียงแข็งจ้องหน้าชายหนุ่มเขม็ง

“ปะ..เปล่า พี่แค่อยากรักษาแม่หนูให้หาย ท่านจะได้กลับมาแข็งแรงและอยู่เลี้ยงหลานไปนานๆ” กองทัพรีบแก้ตัวอย่างลนลาน

“คุณนี่มันเจ้าเล่ห์ที่สุด หึย” ใบหน้าเรียวเล็กสะบัดมองไปทางอื่น ทำปากจู๋ แก้มป่อง บ่งบอกว่ากำลังงอนอยู่

“หนูอย่าลืมสิที่พี่เรียนหมอด้านหัวใจก็เพื่อที่จะกลับมารักษาแม่ของหนูนะ อย่างอนพี่เลยนะคนดี” มือด้านซ้ายที่ยังว่างอยู่ยื่นไปจับมือเล็กออกแรงเขย่าเบาๆ เพื่อเรียกคะแนนสงสาร

“สวัสดีค่ะคุณหมอ ฉันต้องขอบคุณคุณหมอมากนะคะที่เมตตาช่วยรักษาป้า ค่าใช้จ่ายที่นี่คงแพงมากสินะคะเห็นรดาบอกว่าเจ้านายออกให้ก่อนแล้วให้ผ่อนคืนให้ทีหลัง”

“ค่าใช้จ่ายทั้งหมดผมจะรับผิดชอบเองครับ ที่บอกออกไปแบบนั้นเพราะกลัวว่ารดาจะไม่ยอมพาคุณป้ามารักษา เพราะมัวแต่เกรงใจน่ะครับ” ความจริงข้อที่สองถูกเปิดเผยออกมา รดาหันมองหน้าชายหนุ่มอย่างคาดโทษ ถึงจะพอรู้เหตุผลอยู่ก่อนแล้วก็ตาม

“แต่มันเยอะมากเลยนะครับ พวกเราเกรงใจที่ต้องรบกวนคุณหมอมากมายขนาดนั้น” ความเกรงใจที่อยู่ในสายเลือดถูกแสดงออกมาให้เห็นโดยธนาที่เป็นพี่ชาย พี่น้องบ้านนี้นิสัยเหมือนกันจริงๆ

“ผมเป็นเจ้าของโรงพยาบาล เป็นเจ้านายของรดา และเป็นแฟนรดาครับ วันนี้นอกจากมาแนะนำในฐานะหมอที่ดูเคสคุณป้าแล้วผมยังมาแนะนำตัวในฐานะแฟนของลูกสาวคุณป้าด้วยนะครับ”

“เพราะฉะนั้นทุกคนไม่ต้องเกรงใจเพราะต่อไปในอนาคตเราก็จะเป็นครอบครัวเดียวกัน ที่ผมพูดแบบนี้เพราะผมอยากให้คุณป้าสบายใจไม่ต้องกังวลอะไร ทำใจให้สบายเตรียมร่างกายให้พร้อมเพื่อเข้ารับการผ่าตัดนะครับ” ญาดามองหน้าคุณหมอหนุ่มตรงหน้าอย่างชื่นชมในความเป็นผู้ใหญ่ถึงแม้ดูจากหน้าตาแล้วยังเป็นวัยรุ่นอยู่ก็ตาม

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“ขออนุญาตค่ะศาสตราจารย์ ขอพาคนไข้ไปทำCT SCANค่ะ” เจ้าหน้าที่เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับรถเข็นหนึ่งคัน

“เชิญครับ เสร็จแล้วช่วยส่งผลให้ผมโดยด่วนเลยนะครับ”

“ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ หนูอยู่คุยกับพี่ชายกับแม่ที่นี่ก็ได้พี่ขอไปเคลียร์งานที่ห้องก่อนเดี๋ยวพี่ให้แม่บ้านยกของว่างมาให้ที่นี่” ประโยคแรกหันไปพูดกับเจ้าหน้าที่ ประโยคสองหันไปพูดกับญาดาและประโยคหลังหันไปบอกกับคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆ พร้อมกับยกมือขึ้นลูบหัวอย่างรักใคร่

“ค่ะ” รดายิ้มเขินทำตัวไม่ถูกที่คุณหมอหนุ่มแสดงความรักต่อหน้าคนอื่นแบบนี้

“คนไข้พร้อมไหมคะ” พยาบาลสาวเอ่ยถามขึ้นเมื่อศาสตราจารย์หนุ่มเดินพ้นขอบประตูออกไป

“พร้อมค่ะ” ญาดาตอบกลับและกำลังก้าวลงจากเตียงโดยมีธนาประคองอยู่ข้างๆ

“ญาติรอที่ห้องก็ได้นะคะ ขอพาคุณแม่ไปCT SCAN แค่แป๊บเดียวค่ะ” เมื่อเจ้าหน้าที่เข็นรถเข็นออกไปและประตูห้องปิดลงสนิทธนาหันมามองหน้าน้องสาว

“พี่ธนามีอะไรจะถามรดาหรือเปล่าคะ”

“แล้วเราล่ะ มีอะไรจะเล่าให้พี่ฟังไหม ความสัมพันธ์ไปถึงไหนแล้วกับศาสตราจารย์คนนั้น” ธนาย้อนถามกลับสีหน้าจริงจังด้วยความเป็นห่วง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณหมอที่รัก