ซู่จ้าวตี้ไม่สนใจสายตาอาฆาตพยาบาทของเขาพร้อมกับพูดอย่างเฉยเมย
“ไม่ใช่แต่ก่อนเจ้าบอกว่าไม่มีชายใดต้องการข้าหรอกเหรอ ? ตอนนี้มีคนต้องการข้าแล้ว อีกอย่างตัวข้าเองก็เสียพรหมจรรย์ไปแล้ว”
ขณะที่ซูจ้าวตี้พูด กลับไม่มีท่าทีเขินอายของอิสตรีเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม นางกลับมีท่าทีรู้สึกภูมิใจอย่างเปี่ยมล้น
ซูต้าซานชี้นิ้วไปที่ซูจ้าวตี้อย่างสั่นเทา จ้องถลึงมองราวกับดวงตาของวัวคู่หนึ่ง เวลาผ่านไปนานกว่าเขาจะระเบิดคำพูดออกมา "อีนางไร้ยางอาย ข้าจะตีเจ้าให้ตายอีนางหน้าด้าน อีนางชั้นต่ำ" เขาด่าทอไปพร้อมยกมือพร้อมจะตบซูจ้าวตี้
ซูจ้าวตี้ก็หลบอย่างรวดเร็ว
ดวงตาของท่านเหอเต็มไปด้วยความดูถูก หญิงที่เสียพรหมจรรย์ไปแล้วย่อมไม่คุ้มค่าเงิน สินค้าชำรุดเช่นนี้ ขนาดให้เขา เขายังไม่เอาเลย คงไม่มีใครจะเอาหรอก
เขาส่งเสียงเย็นชาออกมาครั้งหนึ่งก่อนจะหันกลับและเดินจากไป
ซูต้าซานยังไม่ตายใจที่จะยอมแพ้พร้อมกับไปขวางเขาไว้จนถูกท่านลุงเหอเหวี่ยงออกไปด้วยความโกรธ เขาชี้ไปที่ซูต้าซานพร้อมกับดุด่า "ครอบครัวเจ้าช่างน่าละอายยิ่งนัก ขนาดเรื่องอับอายเช่นนี้ยังปล่อยให้เกิดขึ้นได้ ไร้ยางอายเสียจริง หลังจากนี้ลูกสาวบ้านเจ้าไม่ต้องเอามาให้ข้าเห็นอีก"
เมื่อเห็นว่าเงิน 200 เหวินที่เกือบจะถึงมืออยู่แล้วหายไปกับตา ซูต้าซานก็โกรธจนแทบบ้า
ซูจ้าวตี้ช่วยพยุงนางหวังไปยังเตียง ยังไม่ทันที่นางจะยืดตัวดี นางก็สัมผัสได้ถึงเสียงลมที่ฟาดมาจากด้านหลัง นางก็ปลีกตัวออกอย่างไม่ทันคาดคิด
เมื่อเห็นนางหวังที่กำลังหมดสติอยู่ นางก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันกลับมาและต้องการจะคว้าท่อนไม้นั้นแย่งให้หลุดจากมือออกมา แต่พละกำลังของนางน้อยเกินไป เนื่องจากแต่ละวันนางต้องทำงานเป็นเวลานานและไม่เคยได้ทานอาหารจนอิ่มท้องและยังขาดสารอาหารอีก ซูต้าซานยังคงใช้แรงอันมหาศาลโทมมาจนนางจับรั้งเอาไว้ไม่ไหว ไม่ต้องพูดถึงแขนของนางที่ถูกกระแทกจนฟกช้ำ ไม้ท่อนนั้นก็ยังลงมากระแทกที่ไหล่ของนางเช่นกัน
ซู่จ้าวตี้ขมวดคิ้วแน่นด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าของนางพริบตาก็ซีดขาวลงไปในทันที
“อีนางไร้ยางอาย ทำเรื่องน่าละอายเช่นนี้ ทำไมเจ้าถึงยังมีชีวิตอยู่อีก ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณหนูใหญ่เกิดใหม่เป็นสาวชาวนาอัปลักษณ์
ขอให้อัพเดทต้อนะคะ...