"ถ้าหนูไม่กล้าอยู่ที่บ้านคนเดียว ก็เข้ามาในบ้านใหญ่ก่อน" พิมพ์ประไพคว้ามือลูกสะใภ้คนโตให้เดินตามเข้ามาในบ้าน สุขายะก็เดินตามมาแบบไม่ห่าง
"หนูง่วงไหม ถ้าง่วงเดี๋ยวแม่จะจัดห้องรับแขกให้สักห้อง เพราะคืนนี้ตายากับพ่อคงจะกลับดึกแน่เลย"
"ไม่ง่วงเท่าไรค่ะ" จบคำพูดชมพู่แอบทำท่าทางเหมือนง่วงหงาวหาวนอน ที่เธอทำ..แค่เรียกร้องความสนใจจากสุขายะให้เขาเป็นห่วง
ถึงแม้ว่าสุขายะจะเป็นห่วงชมพู่อยู่มาก แต่เขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมาให้ผู้เป็นแม่ได้เห็น เพราะเขารู้ดีว่าแม่ของเขากลุ้มใจกับเรื่องนี้มากแค่ไหน
"ถ้าง่วงก็ไม่ต้องฝืน" คนที่พูดขึ้นก็คือพิมพ์ประไพ และมันก็ทำให้ชมพู่แอบน้อยใจอยู่นิดเพราะคนที่พูดไม่ใช่สุขายะ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
แล้วพิมพ์ประไพก็เรียกแม่บ้านให้ไปจัดเตรียมห้องให้ชมพู่ที่ชั้นบน ตรงข้ามกับห้องของสุขายะ
ส่วนสุขายะน่ะเหรอ..ตอนนี้เขาอยู่ไหน..ก็อยู่แถวนั้นแหละ สายตาของชายหนุ่มยังแอบชำเลืองมองผู้หญิงที่เคยรัก..ไม่สิ..ตอนนี้ก็อาจจะยังรักอยู่ก็ได้
พอจัดเตรียมทุกอย่างเสร็จ ทุกคนก็ขึ้นมาที่ชั้นบน
"หนูญาดานอนแล้วเหรอลูก" พิมพ์ประไพกำลังจะส่งลูกสะใภ้คนโตเข้าห้องนอน นางก็ได้หันไปถามลูกชายที่ยืนพิงประตูอีกห้องอยู่
"ผมจะไปรู้เหรอครับ" เขาคุยกับแม่แต่สายตาของเขาไม่วายที่จะมองผู้หญิงอีกคน
และสายตาของชมพู่ก็ไม่ใช่ย่อย ทั้งสองแอบสบตากันเป็นระยะ
"แม่ว่าลูกเข้าไปหาน้องดีกว่า"
สุขายะกลับเข้าห้องตัวเองทันทีที่แม่บอก ชายหนุ่มมองไปที่เตียง ก็เจอหญิงสาวนอนห่มผ้าคลุมตัวจนมิด แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ
ชายหนุ่มเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ แล้วคิดอะไรอยู่คนเดียว แต่ในห้วงความคิดของเขานั้น ไม่มีผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงของเขาเลยแม้แต่น้อย
..หนึ่งชั่วโมงผ่านไป..
ตอนนี้สุขยะยังนั่งอยู่ที่เดิม แต่เขาได้หลับไปแล้วบนเก้าอี้นั้น
"โอ้ยยย" และเพียงไม่นานก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องโอดโอยเล็ดรอดเข้ามา
พิมพ์ญาดารีบลุกขึ้น ไม่ใช่ว่าเธอตื่นเพราะเสียงนั้น แต่ที่จริงเธอยังนอนไม่หลับเลยด้วยซ้ำ หญิงสาวมองไปดูผู้ชายที่ยอมนั่งหลับอยู่บนเก้าอี้ เพราะไม่อยากมานอนร่วมเตียงกับเธอ เขาถึงขนาดยอมนอนอยู่ในท่านั้น..แต่ใครจะไปสนล่ะ ดีซะอีกนอนแบบนั้นทุกคืนให้ได้นะ
แกร่ก~
"ชมเจ็บท้องค่ะยะ" ชมพู่ไม่ลืมหูลืมตาว่าใครเป็นคนเปิดประตูห้องนั้นเข้ามา เธอแกล้งทำเป็นกุมท้องตัวเอง
"เจ็บมากมั๊ย..คะ"
พอได้ยินว่าเป็นเสียงผู้หญิง ชมพู่รีบหันมาที่ประตู
"เธอเข้ามาทำไม"
"ก็ฉันนึกว่า ใครมาเชือดวัวแถวนี้" พิมพ์ญาดารู้ว่านั่นมันแค่มารยาหญิงที่จะเรียกร้องผู้ชายโง่ ๆ ให้สนใจ
"เธอพูดหมายความว่ายังไง" ชมพู่รีบลุกขึ้นประจันหน้ากับพิมพ์ญาดา
"หายเจ็บแล้วเหรอคะ"
"นี่เธอ!!" ชมพู่เพิ่งนึกขึ้นได้ รีบเอามือกลับมากุมท้องตัวเองไว้
"หึ! ไม่ทันแล้วล่ะค่ะ"
"ฉันจะทำให้เธอกระเด็นออกจากบ้านหลังนี้ให้เร็วที่สุด เธอคงรู้นะว่าระหว่างฉันกับเธอ..เขาจะเลือกใคร" มันคือคำที่ชมพู่พูดออกมา ด้วยแววตาที่คับแค้นใจ ที่แค้นใจเพราะมีคนที่รู้ทันตัวเองก็เลยรับไม่ได้
ที่จริงชมพู่ไม่ได้รักพี่ชายของสุขายะเลย คนที่ชมพู่รักก็คือสุขายะ แต่ที่เลือกพี่ชายนั้นก็เพราะว่า คนที่จะได้รับตำแหน่งประธานบริษัทคนต่อไปก็คือผู้เป็นพี่ชาย
"ทำไมเหรอคะ คุณจะเอาทั้งพี่และน้องเลยเหรอ"
"กรี๊ดดด!! แก!!" ชมพู่กรีดร้องขึ้นมาเพราะโมโหคำที่พิมพ์ญาดาพูด..จนเสียงนั้นได้ทำให้ใครบางคนตื่น
"และอีกอย่างนะคะ คุณคิดว่าคุณจะสู้ฉันได้เหรอ" พิมพ์ญาดาแค่อยากจะให้เรื่องทุกอย่างมันจบเร็วที่สุด ถ้าเธอแสดงตัวเป็นเมียของเขา ผู้หญิงคนนี้คงจะยอมเปลี่ยนความคิด
"ที่เธอพูดหมายความว่ายังไง ฉันจะไปสู้เธอทำไม" ตอนนี้น้ำเสียงและท่าทางของชมพู่เปลี่ยนไป กลับมาเป็นชมพู่ผู้น่ารักและอ่อนต่อโลก
"ก็อย่างที่คุณเห็น คนในบ้านนี้ชอบฉันแค่ไหน"
"ถึงคุณพ่อคุณแม่จะชอบเธอ แต่คุณยะ.." ชมพู่พูดเสียงเบาลงด้วยท่าทางที่เกรงใจคู่สนทนา และนั่นมันก็คือการแสดงอีกนั่นแหละ
พิมพ์ญาดาก็แอบสงสัยว่าทำไม ท่าทางของชมพู่ถึงเปลี่ยนไปจากก่อนหน้าที่จะร้องกรี๊ดออกมา
"คุณยะน่ะเหรอคะ..คุณอย่าลืมนะว่านั่นคือสามีของฉัน คนที่นอนคุยกันบนเตียง กับคนที่ยืนคุยกันอยู่แบบนี้คุณคิดว่าเขาจะเชื่อฟังใครล่ะคะ"
"ทำไมเธอกล้าพูดแบบนี้ไม่อายปากเลยหรือไง ฉันทนฟังไม่ได้หรอกเรื่องพวกนี้" ชมพู่พยายามจะทำให้ พิมพ์ญาดาพูดออกมาให้เยอะที่สุด เพื่อที่จะให้ใครบางคนได้ยินสิ่งที่พิมพ์ญาดากำลังพูด
"ผู้ชายก็เหมือนกันทั้งโลกนั่นแหละค่ะ เจอมารยาของเมียเขาไป..โงหัวไม่ขึ้นทุกราย"
"อุ้ย..คุณยะ..คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ" ชมพู่แกล้งพูดให้พิมพ์ญาดารู้สึกตัว เพราะสิ่งที่ชมพู่ต้องการอยากจะให้สุขายะได้ยิน เขาก็ได้ยินทุกอย่างแล้ว
พิมพ์ญาดาค่อย ๆ หันมาที่ประตู ตอนนี้หน้าเธอซีดเผือด เมื่อรู้ตัวว่าหลงกลชมพู่เข้าให้แล้ว
สายตาของหญิงสาวสบเข้ากับสายตา คนที่เธอไม่อยากให้อยู่ตรงนี้ในเวลานี้เลย
หญิงสาวรีบหันกลับมา..
"ฉันคงประเมินเธอผิดไปชมพู่" เอาวะยังไงก็พลาดไปแล้ว เอาให้มันสุด ๆ ไปเลยแล้วกัน
"เธอหมายความว่ายังไง ฉันไปทำอะไรให้เธอนักหนา แค่ฉันบอกว่าฉันเจ็บท้อง เธอก็หาว่าฉันเรียกร้องความสนใจจากสามีของเธอ"
"แต่เธอก็ไม่ได้เจ็บจริงไม่ใช่เหรอ....?"
"เธอจะรู้ได้ยังไง นี่ท้องฉันไม่ใช่ท้องเธอ" ชมพู่พูดด้วยท่าทางที่เจ็บปวดทรมาน
"ถึงว่า ทำไมผู้ชายพวกนี้.." พิมพ์ญาดารู้แล้วว่าทำไม ทั้งพี่และน้อง ต้องหลงกลผู้หญิงคนนี้ด้วย เพราะมารยาของเธอ ขนาดผู้หญิงด้วยกันยังเกือบดูไม่ออกเลย
"สามีฉันเป็นอะไร เขาก็สุขภาพแข็งแรงนี่" พิมพ์ประไพแทบเข่าทรุด เมื่อได้ยินหมอขอพบญาติ มันต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่
พิมพ์ญาดากำลังจะเข้าไปประคอง แต่ถูกชมพู่เบียดออกไป เพื่อที่จะแย่งเข้าไปประคองเอง จนพิมพ์ญาดากระเด็น แต่โชคดีที่พี่ชายของสุขายะรับเธอไว้ได้ทัน
"เป็นอะไรไหมครับ"
"ขอบคุณค่ะ"
สายตาของชมพู่ตวัดมองกลับมาเหมือนจะต่อว่าสามี เขาก็เลยต้องได้รีบปล่อยพิมพ์ญาดาออกจากวงแขน
เหตุการณ์นั้นไม่ได้มองแค่ชมพู่ แต่สุขายะก็มองด้วย
เช้าวันต่อมา..ทุกคนอยู่ที่โรงพยาบาลนั้นจนเช้า
ตอนนี้พ่อของเขาก็ได้สติแล้ว และถูกนำตัวไปไว้ในห้องพักฟื้นแบบ vip พอทุกคนรู้อาการที่ท่านเป็นอยู่ต่างก็ไม่สบายใจ
"มันเป็นหนทางเดียวที่ผมแนะนำ เพราะว่าถ้าเราเดินทางไปรักษาที่โน่นจะปลอดภัยเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะอาจารย์หมอท่านเชี่ยวชาญทางด้านนี้โดยเฉพาะ" ที่จริงทุกคนได้ปรึกษากันในห้องของหมอแล้ว แต่ต้องคุยกับคนป่วยอีกทีว่าท่านจะยอมไปรักษาตัวไหม เพราะเรื่องนี้ปิดบังท่านก็ไม่ได้
"คุณไปเถอะนะคะ อย่าดื้อเลย ฉันจะไปเป็นเพื่อน" สามีปฏิเสธมาหลายครั้งแล้ว เพราะเป็นห่วงบริษัทไม่อยากจะทิ้งไป
"พ่อไปเถอะนะครับ ทางนี้ผมดูแลเอง"
"ลูกจะดูแลคนเดียวได้ยังไง ถ้าพ่อไปลูกต้องมีคนช่วยสิ"
"ถ้าคุณห่วงเรื่องนั้นให้ตายะไง ดูแลบริษัทช่วยพี่" พิมพ์ประไพมองไปดูลูกชายคนเล็ก ที่ได้แต่ฟังอยู่แบบเงียบ ๆ มานานแล้ว
"พ่อไม่ไป พ่อจะนอน..ออกไปได้แล้ว" สุริยานอนหันหลังให้ลูกกับเมียทันที
"ทำไมคุณทำแบบนี้ โรคที่คุณเป็นอยู่มันรักษาหายได้ แต่ถ้าเรารักษาที่ประเทศไทย มันอันตราย" เพราะสามีของนางเป็นเนื้องอกในสมอง ส่วนที่อันตรายที่สุด แต่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งรักษาได้
แต่ต้องเดินทางไปรักษาที่ต่างประเทศ เป็นเวลาหลายเดือน กว่าจะทำลายเนื้องอกนั้นได้ เพราะจุดนั้นมันผ่าตัดยากมาก
"ผมไปก็ได้ แต่ต้องจัดงานแต่ง ให้กับสุขายะก่อน แล้วแกก็ต้องรับปากกับพ่อว่าจะเข้าไปทำงานในบริษัท" สุริยาหันกลับมาพูดกับลูกชายอีกครั้ง
"เกี่ยวอะไรกับการไปรักษาตัวของพ่อด้วย ถ้าพ่ออยากให้ผมไปทำงาน..ผมไปทำก็ได้ แต่อีกเรื่อง..ผมไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวกันตรงไหน" สุขายะมองไปดูผู้หญิงที่นั่งอยู่มุมหนึ่งของห้องนั้น
ระหว่างแต่งงานกับเรา เพื่อแลกกับชีวิตพ่อของเขา เขาถึงกับลำบากใจเลยเหรอ..พิมพ์ญาดาได้แต่คิดในใจ ตอนนี้ถ้าพื้นที่เหยียบอยู่เป็นดิน เธอคงจะมุดหนีไปแล้ว..เพราะอายเหลือเกิน
"ทำไมจะไม่เกี่ยวล่ะ ลูกไม่ได้ยินที่หมอพูดเหรอ พ่อต้องได้ไปรักษาตัวที่นั่นครึ่งปีไม่รู้ว่าจะหายหรือเปล่า แล้วลูกจะให้พ่อไปแบบมีห่วงหรือไง"
"ทำไมต้องแต่งงานด้วยล่ะครับพ่อ ยังไงเธอก็ขนข้าวของมาอยู่บ้านของเราแล้ว ก็เท่ากับ.." จากที่มองหน้าพิมพ์ญาดาอยู่ดี ๆ สายตาของเขาก็แว๊บไปที่ผู้หญิงอีกคนเหมือนกับแคร์ผู้หญิงคนนั้นมาก จนพิมพ์ญาดาต้องได้มองตามสายตาเขาไป
"ถ้าแกไม่รับปากพ่อ พ่อก็ไม่ไป"
"เรื่องแค่นี้ทำไมลูกถึงทำเพื่อพ่อกับแม่ไม่ได้" พิมพ์ประไพถึงกับขึ้นเสียงใส่ลูกชาย เพราะนางเป็นห่วงสามีมาก จนลืมนึกถึงจิตใจผู้หญิงอีกคนที่นั่งอยู่ในนั้น และเธอก็เป็นคนที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันอยู่ในตอนนี้
จะกลืนก็ไม่ได้..จะคายก็ไม่ออก..ต้องได้อดทนรับสภาพที่เป็นอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่หมั้นคู่หมาย