"คุณจะไปไหนนะ?" หญิงสาวถามซ้ำเพราะเธอคิดว่าตัวเองฟังผิด
"กลับไปหาคุณพ่อ" จบคำพูดชายหนุ่มก็รีบเดินออกจากห้องมา
"หยุดนะ!!" พิมพ์ญาดารีบเดินตามหลังมา โชคดีที่เสื้อผ้าของเธอยังอยู่ นอกจากกางเกงชั้นในที่ถูกเขาถอดออกไปแล้วเขาก็ยังไม่ถอดชิ้นอื่นอีก
มุมปากสุขายะกระตุกยิ้มขึ้นมาแบบพอใจ แต่ก็ไม่ได้หยุด เขายังเดินลงบันไดมา
"คุณยะ..หยุดเดี๋ยวนี้นะ" หญิงสาวเดินตามหลังมา..ถึงแม้ว่าสุขายะจะเดินไม่เร็วแต่ขาของเขายาวกว่า เธอก็เลยเดินตามไม่ทัน
"ยะคะ" ชมพู่แอบเห็นสุขายะนั่งแท็กซี่เข้ามาตั้งแต่แรกแล้ว พอเขาลงรถได้ก็รีบเข้าบ้านไป เธอก็เลยไม่มีโอกาสเข้ามาทักทาย แต่ชมพู่ก็ยังเฝ้าอยู่แถวหน้าบ้านจนได้จังหวะ
"ชม?"
ตอนที่สุขายะเผลอ ชมพู่รีบวิ่งเข้ามาสวมกอดเขาไว้แน่น ชายหนุ่มตกใจรีบมองหันกลับไปด้านหลังดูว่าภรรยาตามมาถึงไหนแล้ว
"ชมเองค่ะ ที่รัก" ชมพู่ยิ้มหวาน พร้อมกับแนบใบหน้าลงที่อกของชายหนุ่ม
"ชมปล่อยผม" สุขายะพยายามเอามือของชมพู่ออกจากเอว แต่ยิ่งงัดออกชมพู่ยิ่งกอดรัดแน่นขึ้น
"ขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณจะออกมาหากัน ถ้าไม่งั้นฉันคงไม่ตามมาแบบนี้"
"พิมพ์! ไม่ใช่นะพิมพ์" สุขายะรีบสะบัดตัวของชมพู่แต่ก็ไม่เป็นผล
"ชมยังรักคุณนะยะ"
พิมพ์ญาดาได้แต่ยืนมองทั้งสอง เธออยากจะเก็บภาพนี้ให้มันตราตรึงเข้าไปในส่วนลึกของหัวใจ จะได้ลืมเขาได้ง่ายและจะได้ไม่คิดถึงเขาเหมือนที่ผ่านมา แต่มันคงทำได้ยากเพราะนี่มันคือครั้งแรกที่เธอได้มอบหัวใจให้คนอื่นไป
"พิมพ์คุณฟังผมก่อนนะมันไม่ได้เป็นแบบที่คุณเห็นเลย" ชายหนุ่มสะบัดอีกครั้งจนชมพู่กระเด็นออก
แทนที่พิมพ์ญาดาจะวิ่งเข้าไปในบ้าน แต่เธอกลับวิ่งออกมาด้านนอก ยังไงก็ขอให้ได้ไปจากบ้านหลังนี้ก่อน..จะไปไหนก็ยังไม่รู้
สุขายะรีบวิ่งตามหลังออกมา โดยมีชมพู่วิ่งตามมาอีกที
"ยะคะ คุณอย่าตามมันไปได้ไหม ฉันจะหย่ากับคุณยามาแต่งงานกับคุณ" ตั้งแต่เขามอบหัวใจให้พิมพ์ญาดาไป ชมพู่ก็รู้แล้วว่าเธอขาดเขาไม่ได้ ไม่สามารถที่จะมองดูเขารักผู้หญิงคนอื่นได้อีกต่อไป ชมพู่ก็เลยตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะเลิกกับหิตายะแล้วกลับมาหาสุขายะ
"คุณกล้าพูดออกมาได้ไม่อายผีสางเทวดาเลยนะชมพู่"
"ชมไม่อายใครแล้ว ชมลืมคุณไม่ได้จริง ๆ ยะ คุณกลับมาหาชมเถอะนะ จะให้ชมทำอะไรก็ได้ ชมผิดไปแล้ว" ชมพู่รีบวิ่งมาขวางหน้าสุขายะไว้ ไม่ให้ตามพิมพ์ญาดาไป แต่เขาก็พยายามเลี่ยง
"ผมเตือนคุณอีกครั้งให้คุณถอยไป"
"ชมไม่ถอย ชมรักคุณ ชมตัดสินใจแล้วว่าจะเลิกกับเขา แล้วมาอยู่กับคุณ คุณอย่าทำแบบนี้เลยนะยะ"
"หลบไปชมพู่ ผมจะตามเมียผมไป" สายตาเขาไม่ได้มองชมพู่เลย สุขายะมองตามคนตัวเล็กที่เดินมุ่งไปทางถนนใหญ่
"ชมไม่ยอมปล่อยคุณไปหรอก ถ้าคุณไป..ชมจะตายให้ดู!!"
สุขายะไม่ได้สนใจคำที่ชมพู่ขู่เลยด้วยซ้ำ ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้อยู่ในสายตาเขาอีกแล้ว ตั้งแต่เขารู้ใจตัวเองว่ารักพิมพ์ญาดาจนขาดเธอไม่ได้ ชายหนุ่มก็ลืมผู้หญิงทุกคนบนโลกนี้ไปสิ้น
สุขายะรีบวิ่งไปเพื่อที่จะคว้าพิมพ์ญาดาไว้ เพราะแถวนี้ถนนใหญ่รถวิ่งเร็วมาก แต่พอเขาคว้าพิมพ์ญาดาได้เท่านั้นแหละ
เอี๊ยดดดดดด~~~ โค้มม!!
"กรี๊ดดดด!" พิมพ์ญาดารีบหันกลับมากอดสุขายะไว้ เพราะเธอตกใจเสียงรถชนเมื่อกี้
"ชม!!!"
"คุณชมพู่!" พอทั้งสองตั้งสติได้ก็มองไปตรงที่เกิดอุบัติเหตุ ร่างของชมพู่นอนจมกองเลือดอยู่
"กรี๊ดดดดด!!" พิมพ์ญาดากรี๊ดอีกครั้งแล้วก็หมดสติไปในอ้อมกอดของสุขายะ
สามชั่วโมงผ่านไป 03 : 00 น.
"ทำใจดี ๆ ไว้นะคะคุณยา" คนที่ปลอบใจหิตายะก็คือพิมพ์ญาดา
ส่วนสุขายะนั่งมองผู้เป็นพี่ชายอยู่ไม่ห่าง แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ
"ออกไป๊!!" สิ้นคำพูดนางก็วูบลงตรงนั้นโชคดีที่หิตายะรับไว้ได้ทัน
หลายชั่วโมงผ่านไป...
ทุกคนเลือกที่จะยังไม่แจ้งข้าวไปที่ต่างประเทศเพราะไม่อยากจะให้พวกท่านไม่สบายใจไปด้วย ก็เลยปิดข่าวไว้ โชคดีที่แม่ของเขาไม่ชอบตามข่าวทางโซเชียล ก็เลยไม่รู้เรื่องนี้ แต่ที่ประเทศไทยข่าวนี้เป็นที่สนใจของประชาชนและนักธุรกิจรวมทั้งสื่อมวลชนมากมาย
งานศพของชมพู่ได้ถูกจัดขึ้นที่วัดใกล้บ้าน
"เสียใจด้วยนะครับคุณหิตายะ คุณต้องทำใจบ้าง" ผู้ร่วมหุ้นและนักธุรกิจที่สนิทสนมกับครอบครัวของเขาต่างก็มาแสดงความเสียใจ
ชายหนุ่มได้แต่นั่งเฝ้าหน้าศพของภรรยา คนที่โศกเศร้าเสียใจมากที่สุดก็คือเขา ลูกที่ยังไม่ลืมตาดูโลก แต่ต้องได้จากไปโดยที่เขาไม่รู้เลยว่า เขากำลังมีลูกกับเธอ และเธอก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองท้อง มันทำให้ชายหนุ่มไม่อยากจะมีชีวิตต่อไป แต่เขาต้องอยู่ต่อ เพราะภาระของเขามากมายเหลือเกิน
"เชิญด้านในค่ะ" คนที่รับแขกหน้างานก็คือพิมพ์ญาดาและสุขายะ
"คุณพักผ่อนดีกว่าพิมพ์ ผมจะดูแลทางนี้เอง" สุขายะเป็นห่วงภรรยามาก
"ไม่ค่ะฉันจะทำ" พิมพ์ญาดาคิดว่ามันเป็นความผิดของเธอ ถ้าไม่วิ่งออกมานอกบ้าน..ถ้าเธอเลือกที่จะวิ่งกลับเข้าไปในบ้านเหตุการณ์นี้คงไม่เกิดขึ้น หญิงสาวเฝ้าแต่โทษตัวเอง
สุขายะไม่รู้จะปลอบภรรยายังไง เขารู้ดีว่าเธอคิดอะไรอยู่ในใจ ความผิดนี้เขาก็มีไม่ต่างจากเธอ
วันเผา..
คดีความเรื่องเกิดอุบัติเหตุตอนนี้ได้คลี่คลายลงไปแล้ว ถึงแม้หิตายะอยากจะเอาเรื่องคนที่ชนภรรยาตัวเอง แต่ก็เอาเรื่องไม่ได้ เพราะภาพวงจรปิดเห็นได้ชัดว่าชมพู่วิ่งออกไปตัดหน้ารถของเขา
แต่ถ้าคนขับเลือกที่จะเบรกและหักหลบ เหตุการณ์นี้คงไม่เกิดขึ้น เพราะหิตายะดูจากกล้องวงจรปิดแล้ว เหมือนเธอไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าตัวตายแต่เธอกำลังจะหันกลับ ถ้ารถคันนั้นหักหลบแค่นิดเดียว เรื่องเศร้าคงไม่เกิดขึ้น
หิตายะได้คุยกับทนายเรื่องนี้ จะเอาผิดให้ถึงที่สุด แต่ความเห็นของทนายถึงสู้ไปก็ไม่ชนะเพราะภาพหลักฐานทุกอย่างมันบ่งชี้มาว่าชมพู่ต้องการอยากจะฆ่าตัวตาย
"ยังไงกูก็ไม่ปล่อยมึงไป" หิตายะมองดูควันที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
เขาได้แยกลูกน้อยที่ยังไม่ลืมตาดูโลกออกจากท้องของแม่ แต่ก็เผาพร้อมกันทั้งแม่และลูก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่หมั้นคู่หมาย