เช้าวันต่อมา..
"คุณจะไปไหน" หิตายะเปิดประตูห้องนอนออกมา ก็เห็นเธอกำลังจะเดินลงบันได
"ไปทำงาน" ดาวพระศุกร์ไม่หันกลับมามองเลยด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนถาม แต่เธอก็รู้ว่าเป็นเสียงของเขา พอจบคำพูดหญิงสาวก็ก้าวลงมา
"แล้วจะไปยังไง" หิตายะรีบเดินตาม ที่เขาถามเพราะตอนนี้รถของเธอ ยังจอดอยู่ที่บริษัทของอานัย
"ถ้าไม่มีแท็กซี่..ก็จะเดิน"
"เก่งดีนี่" ชายหนุ่มพูดทิ้งช่วงไว้ให้เธอเถียง แต่ก็ผิดคาด เพราะเธอไม่เถียง หญิงสาวได้แต่เดินไปข้างหน้า
"รู้ไหมว่าในหมู่บ้านนี้ แท็กซี่เขาไม่วิ่งผ่านเข้ามาหรอก เดินออกไปเป็นกิโลกว่าจะถึงหน้าหมู่บ้าน"
เพราะหมู่บ้านที่เขาอยู่เป็นหมู่บ้านจัดสรร ส่วนมากมีแต่มหาเศรษฐีที่มาซื้อโครงการนี้พักอาศัย
ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกจากปากของเธอเลย
หิตายะมองตามไป พอเธอเดินออกไปถึงหน้าบ้าน เขาก็รีบวิ่งไปที่รถแล้วขับตามออกมา
"ผู้หญิงคนนั้นนี่คะป้า" พิมพ์ญาดากำลังจะออกไปทำงานเหมือนกัน เห็นแค่แว๊บเดียวก็จำได้แล้ว
"ใช่ค่ะ คุณผู้ชายให้เธอมาพักอยู่ที่ห้องรับรองแขก"
"อะไรนะคะ" พิมพ์ญาดารู้จักดาวพระศุกร์ในฐานะที่เป็นลูกสาวของคนที่ขับรถชนชมพู่ เพราะกว่าคดีความเรื่องนั้นจะจบ ก็กินเวลานานพอสมควร
"ขึ้นรถ" ชายหนุ่มขับรถตามมา แล้วลดกระจกลงนิดหนึ่ง เพื่อที่จะให้เธอได้ยินสิ่งที่เขาพูด
แต่ดาวพระศุกร์ไม่ยอมขึ้น เธอยังเดินตรงไปข้างหน้า
"ฉันเตือนเธออีกครั้งอย่ายั่วโมโหฉันเด็ดขาด"
"คุณจะบังคับอะไรฉันอีก" หญิงสาวหยุดแล้วหันกลับมามองคนตัวโตที่นั่งอยู่ในรถหรู
"ก่อนที่ฉันจะไม่อนุญาตให้เธอไปทำงานที่บริษัทนั้น..ขึ้นมา" เสียงทุ้มถูกเปล่งออกจากปากของชายหนุ่ม ฟังแล้วมันช่างน่าอบอุ่น แต่อารมณ์ของทั้งสองตอนนี้กำลังลุกโชนไปด้วยไฟแห่งการเอาชนะ
"ทำไมฉันถึงจะไปทำงานที่บริษัทของตัวเองไม่ได้"
"เธอแน่ใจแล้วเหรอ..ว่าบริษัทนั้นเป็นของเธอ" อะไรของผู้หญิงคนนี้นักหนา ต้องให้ได้ขู่ทุกวัน.. ชายหนุ่มแอบอมยิ้มเมื่อคำขู่ของเขาได้ผล เพราะตอนนี้เธอเปิดประตูขึ้นมานั่งด้านหลังรถของเขาเรียบร้อย
หิตายะไม่ได้ว่าอะไรที่เธอนั่งด้านหลัง ดีเท่าไรแล้วที่เธอยอมขึ้นรถมา แต่เขาไม่ได้ไปส่งเธอที่บริษัท..
"คุณมาที่นี่ทำไม" ดาวพระศุกร์คิดว่าจะไม่คุยกับเขาอยู่แล้วเชียว แต่พอเขามาจอดรถที่หน้าบริษัทของเขาเอง หญิงสาวก็เลยจำเป็นต้องได้พูด
"ผมขอทำงานสักสองชั่วโมง เดี๋ยวจะพาไปฝากท้อง"
"ฝากท้อง" เธอลืมไปเลย ว่ายังไม่ได้ฝากท้อง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องรีบขนาดนี้ เพราะเพิ่งจะท้องอ่อน ๆ
"เรื่องนั้นเดี๋ยวฉันจัดการเอง"
หิตายะไม่พูด แต่เขาใช้สายตาพูดแทน พอเห็นสายตาของเขาผ่านกระจกด้านหน้ารถแบบเอาเรื่อง เธอก็เลยจำเป็นต้องได้ลง
เขาพาเธอขึ้นมาที่ห้องทำงาน ที่จริงดาวพระศุกร์บอกว่าจะรออยู่ข้างล่าง แต่หิตายะไม่ยอม เขาก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าเพราะอะไร..แต่ยังไงก็ไม่ยอมปล่อยให้เธอคลาดสายตา
ลิฟต์ได้ถูกเปิดออกที่ชั้นผู้บริหาร คนที่ก้าวเดินนำหน้าไปก็คือดาวพระศุกร์ เธอเดินไปด้วยหน้าตาที่บูดบึ้ง พนักงานหลายคนต่างก็มองตาม เพราะเห็นว่าที่ท่านประธาน เดินตามผู้หญิงคนที่เคยเป็นคู่กรณีแบบเป็นห่วงเป็นใย
อึบ! หญิงสาวทิ้งก้นลงที่โซฟาอย่างแรง ด้วยความหมั่นไส้ก็เลยอยากจะทำกิริยาไม่ดีให้เขาไม่ชอบ
"ระวังโซฟาของผมจะเป็นรอยด้วย"
"ดี! ให้มันเป็นรอยไปเลย"
แทนที่หิตายะจะโกรธ แต่เขากลับแอบยิ้มออกมา
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป..
"เอกสารได้แล้วค่ะ...?..." เลขาหน้าห้องถือเอกสารที่หิตายะต้องการเข้ามาส่ง แต่สายตาของเธอมองไปที่โซฟาตัวยาว เห็นดาวพระศุกร์นอนหลับอยู่ตรงนั้นแบบสบายใจ
ที่จริงดาวพระศุกร์แค่แกล้งทำให้เขาไม่พอใจ แต่เอาไปเอามาดันหลับจริง
"ไม่ต้องให้ใครเข้ามาอีกนะ" รับเอกสารจากมือของเลขาแล้วก็สั่งให้ออกไป
สองชั่วโมงผ่านไป..
"หิวหรือยัง" เขาเห็นเธองัวเงียลุกขึ้นมาก็เลยถามดู เพราะตอนนี้ใกล้จะเที่ยงแล้ว
"อะไรกัน นี่เราหลับจริงเหรอ"
"ใช่" ถึงแม้ว่าเธอจะพูดกับตัวเอง..แต่เขาก็ตอบออกไป
"ไม่หิว"
"จะไม่หิวได้ยังไง ข้าวเช้าก็ยังไม่ทาน"
"ถ้าฉันบอกว่าหิว..จะกินตอนนี้เลยได้ไหมล่ะ!"
"กินได้สิ..แต่กินผมไปก่อนนะ"
สุขายะ..
"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ คุณรู้ไหม"
"ทำไม" สุขายะเงยหน้าขึ้นมาจากงานที่กำลังทำอยู่ เพื่อให้ความสนใจกับสิ่งที่ภรรยาพูด
"ก็คุณหิตายะ ให้ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาอยู่ในบ้าน"
"ใครบอกคุณ" เขารู้ทันทีว่าภรรยาหมายถึงใคร เพราะเธอมักจะเรียกคู่กรณีของหิตายะว่าผู้หญิงคนนั้น
"ฉันเห็นเมื่อเช้านี้ ก็เลยลองถามแม่บ้านดู"
"เรื่องของเขาสิ" สุขายะไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับหิตายะอยู่แล้ว และชายหนุ่มก็ไม่พอใจทุกครั้งที่ได้ยินภรรยาพูดถึงพี่ชาย
"คุณสุขาา..นั่นพี่ชายของคุณนะ คุณช่วยสนใจหน่อยสิ"
"คุณนั่นแหละช่วยสนใจผมหน่อย"
"คุณมีอะไรให้น่าสนใจ"
"อ้าว..พูดแบบนี้อยากเจ็บตัวอีกเหรอ" ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินตรงเข้ามาหาภรรยาคนสวย เพราะเมื่อเช้านี้เขาเพิ่งจัดเธอมาหนึ่งดอกเน้นๆ
"นี่ที่ทำงานนะคะ ปล่อยก่อน" พอเดินเข้ามาถึงตัวเธอ มือหนาก็คว้าคนตัวเล็กเข้ามาไว้ในอ้อมกอด
"ไม่ปล่อย ทีเรื่องของคนอื่นรู้ดีนัก"
"ฉันไม่พูดกับคุณแล้ว ปล่อยนะฉันจะทำงาน" หญิงสาวรีบเอียงแก้มหลบจูบของสามี
"...." คนตัวสูงหยุดเดินแล้วมองลงมาดูผู้หญิงที่อยู่ในวงแขน
"ฉันแค่ไม่อยากให้มีเรื่อง"
"เลยทำให้ผมเป็นบ้าเป็นบอแบบนี้งั้นเหรอ"
"ฉันรู้ว่าคุณเป็นห่วงลูกของคุณมาก ทีหลังฉันจะแกล้งเจ็บที่อื่นแล้วกัน" พูดโดยไม่กล้ามองหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ แต่มือยังโอบต้นคอเขาไว้แน่นเพราะกลัวตก
ไม่มีคำพูดใดๆ ออกจากปากของชายหนุ่ม ได้ยินแค่เสียงพ่นลมหายใจออกมา แต่ก็เดาไม่ถูกว่าเขาโล่งอกหรือโมโหกันแน่
เย็นวันเดียวกันที่บ้าน..
"พอจะทานได้ไหมคะ" แม่บ้านถามเมื่อเห็นเธอตักอาหารนั้นเข้าปากคำแรก
"มันคืออะไรคะ อร่อยจังเลย" จบคำพูดหญิงสาวก็ตักขึ้นมาทานแบบเอร็ดอร่อยอีกครั้ง
หิตายะเห็นแบบนั้น เขาก็เลยลองทานบ้าง
"อึบ!" จะคายก็ไม่กล้า จำเป็นต้องได้กลืนลงไปเพราะมันเปรี้ยวมาก
"ดีใจค่ะที่คุณชอบกิน" เหมือนป้าจะจัดหาอาหารได้ถูกปากเธอแล้ว ป้าแม่บ้านก็เลยเดินออกไปจากตรงนั้นทันทีที่พูดจบ แต่ก็ยังนึกขำคุณผู้ชายของตัวเอง
พอทานข้าวเสร็จทั้งสองก็เดินขึ้นมาชั้นบนพร้อมกัน
"ฉันขอคุยอะไรกับคุณหน่อย" ก่อนที่เขาจะเข้าห้อง หญิงสาวได้เรียกไว้ก่อน
"เข้ามาคุยในห้อง" ชายหนุ่มเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ก็ไม่ได้หยุด เขาเดินเข้าไปด้านใน
"ทำไมต้องคุยในห้องด้วย คุยข้างนอกก็ได้" เธอเดินตามมาหยุดอยู่ที่หน้าประตู
"แล้วแต่คุณนะ ถ้าไม่เข้ามาผมก็ไม่คุย" ตอนนี้เขากำลังวุ่นกับการถอดเสื้อผ้าเพื่อที่จะอาบน้ำ
"ฉันอยากจะคุยกับคุณเรื่องงาน จนกว่าท้องฉันจะโต ฉันขอกลับไปทำงานที่บริษัทก่อนได้ไหม"
เงียบ~
"คุณได้ยินที่ฉันพูดไหม"
เขายังเงียบ และก็ถอดเสื้อผ้าต่อไปจนเหลือแค่กางเกง
"นี่คุณ!" ดาวพระศุกร์โมโหที่เขาทำเป็นไม่ได้ยิน เธอรู้ดีว่าเขาได้ยินสิ่งที่เธอพูด หญิงสาวก็เลยเดินเข้ามาในห้อง
ปัง! ชายหนุ่มเดินมาปิดประตูห้องทันทีที่เธอก้าวเข้ามา
"คุณจะทำอะไร อื้มมม!!"
หิตายะไม่พูดพร่ำ เขาคว้าตัวเธอเข้ามาแล้วประกบปากจูบทันที
ที่จริงเขาอยากจะลงโทษเธอตั้งแต่อยู่โรงพยาบาลแล้ว
ถ้าไม่ติดว่าเป็นที่สาธารณะ เขาคงจัดการเธอตั้งแต่ตอนอุ้มอยู่โน่นแล้ว
"อืมมม" หญิงสาวยังพยายามผลักคนร่างหนาออก เคยมีอะไรกับเขาจนมีลูกด้วยกันแล้วก็จริง แต่ก็ยังไม่เคยถูกจูบแบบนี้
หิตายะไม่ได้ทำแค่จูบ เขายังพาร่างระหงที่อยู่ในวงแขนเดินมาที่เตียง..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่หมั้นคู่หมาย