"กลับกับผมได้หรือยัง" ชายหนุ่มรวบมือของหญิงสาวเข้าหากัน
"ฉันไม่ไป คุณผิดสัญญา"
"ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ได้สัญญาอะไรไว้กับคุณ"
"ถ้าคุณไม่ยอมสัญญามา..ว่าจะไม่แตะเนื้อต้องตัวฉัน ฉันก็จะไม่กลับไป"
"ได้..ขึ้นรถได้หรือยัง เห็นไหมว่ารถติดยาวขนาดไหนแล้ว"
ดาวพระศุกร์มองกลับไปดูด้านหลังเป็นอย่างที่เขาพูด ตอนนี้รถกำลังแย่งกันออกจากเลนที่รถของเขาขวางอยู่
ที่รถทุกคันไม่บีบแตรไล่ ก็เพราะคิดว่าเกิดอุบัติเหตุ
@บ้านหิตายะ
พอชายหนุ่มรับปากหญิงสาวก็เลยยอมกลับมาที่บ้านพร้อมเขา
และในขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งทานข้าวอยู่นั้นก็ได้มีสายเข้า
{"แม่ได้ยินตายะบอกว่ายาจะมาแทนน้องเหรอลูก"} พิมพ์ประไพโทรทางไกลมาหาลูกชายเพราะความสงสัย ทีแรกคิดว่าลูกชายคนเล็กจะอำ
{"ครับแม่"}
ดาวพระศุกร์แอบฟังอยู่ว่าเขาคุยโทรศัพท์กับใคร แต่พอได้ยินคำที่เขาเรียกคนในสายว่าแม่ เธอยิ่งให้ความสนใจมากขึ้น
"ทำไมวันนี้คุณทานน้อยจังคะ" ป้าแม่บ้านถามเมื่อเห็นเธอวางช้อน
{"ป้าพูดกับใครเหรอลูก"}
{"แค่นี้ก่อนนะครับแม่ เดี๋ยวผมโทรกลับไปใหม่"}
"คุณผู้หญิงจะกลับมาเมื่อไหร่คะ" แม่บ้านหันไปคุยกับหิตายะบ้าง เมื่อเห็นเขาวางสายแล้ว
"คุณพ่อต้องได้ผ่าตัดอีกครั้ง ครั้งนี้ผมคงต้องได้ไปเอง" แทนที่เขาจะพูดกับคู่สนทนา แต่สายตาของชายหนุ่มกลับมองมาที่ผู้หญิงอีกคน
"ถ้าไปคราวนี้คงจะนานเลยนะคะ" แม่บ้านยังชวนคุยต่อ
พวกเขาคุยอะไรกัน..ที่จริงเธอน่าจะดีใจมากกว่าเมื่อได้ยินว่าเขาจะไปหลายวัน แต่ทำไมหัวใจของเธอห่อเหี่ยวแบบนี้ แต่ก็ไม่มีคำถามใดหลุดออกมาจากปากของหญิงสาว
"คุณจะขึ้นไปนอนแล้วเหรอคะ" แม่บ้านถามเมื่อเห็นเธอลุกขึ้น
"ค่ะ" ดาวพระศุกร์พูดแค่นั้นแล้วก็เดินขึ้นไปที่ชั้นสอง โดยมีสายตาของหิตายะมองตามไป
02 : 00 น.
"ใคร?!" หญิงสาวตื่นขึ้นมาเพราะปวดปัสสาวะ
"ฉันถามว่าใคร" ดาวพระศุกร์ยื่นมือไปที่หัวเตียงเพื่อที่จะเปิดไฟดูว่าใครที่กอดเธออยู่
"เสียงดังทำไม ง่วงจะตายอยู่แล้ว" เขาพูดโดยที่ไม่ลืมตาขึ้นมาเพราะกว่าจะข่มตาให้หลับได้ก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน
"คุณเข้ามานอนในห้องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!!"
แต่เขาก็ไม่ตอบ..ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาแบบสม่ำเสมอเหมือนหลับต่อ
"ไหนคุณสัญญาแล้วไงว่าจะไม่ทำอะไรแบบนี้"
"ถ้าคุณไม่หยุดพูด ผมจะไม่ทนแล้วนะ" ดวงตาคมลืมขึ้นมาสบเข้ากับดวงตาของหญิงสาว ถึงแม้ว่าในห้องนี้จะมืด แต่ก็พอมีแสงสว่างจากหลอดนีออนที่อยู่ด้านนอก
ดาวพระศุกร์รีบหลับตาลง จนลืมไปเลยว่ากำลังปวดเบาอยู่
แต่หลับได้เพียงไม่นานเธอก็ดิ้น เพราะกลั้นไว้จนเริ่มจะเจ็บท้อง
ดาวพระศุกร์ค่อย ๆ จับมือหนาของชายหนุ่มที่พาดทับตัวเธออยู่ออกแบบเบาที่สุด
"กรี๊ด!! ขะ..คุณยังไม่หลับเหรอ" หญิงสาวตกใจเพราะคิดว่าเขาหลับไปแล้ว แต่อยู่ดี ๆ เขาก็กระโดดขึ้นคร่อมตัวเธอไว้
"ผมเตือนแล้วนะ"
"ฉะ..ฉัน..อื้มมม!!" เธอกำลังจะบอกเขาว่าที่ดิ้นเพราะปวดปัสสาวะ แต่ก็ถูกบดขยี้ริมฝีปากด้วยจูบของเขาก่อน
หญิงสาวตัวสั่นระทวยในอ้อมกอดของคนร่างหนา ยิ่งเธอพยายามห้ามใจตัวเองมันก็ยิ่งคิด เพราะสิ่งที่เขากำลังทำอยู่มันคืออะไรกันแน่ มือเรียวผลักคนร่างหนาออก
"คุณลืมไปแล้วเหรอว่าเราไม่ใช่สามีภรรยากัน คุณแค่ต้องการบางสิ่งบางอย่างในตัวฉัน และตอนนี้ก็แค่รอเวลา คุณอย่าทำแบบนี้อีกเลยนะ"
หิตายะปล่อยคนตัวเล็กออกจากอ้อมกอด เขายันกายลุกขึ้นยืน..จริงด้วยเรากำลังทำอะไรอยู่ ทำไมเราถึงลืมเรื่องนั้นไปได้..ชายหนุ่มเดินออกจากห้องนั้นไปทันที ด้วยหัวใจที่โหยหาในร่างกายของเธอ แต่ก็พยายามข่มอารมณ์ตัวเองไว้
หญิงสาวได้แต่มองตามไป มันควรเป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอดาวพระศุกร์ ถ้าเธอคลอดลูกของเขาออกมาแล้ว เธอก็เหมือนคนแปลกหน้าสำหรับเขา
..หลายวันต่อมา..
วันนี้เป็นวันที่แจกจ่ายโบนัสให้กับพนักงาน พนักงานทุกคนต่างก็ใจจดใจจ่อคิดว่าจะได้จริงหรือไม่ พอถึงวัน..เห็นยอดเงินในบัญชีแล้วต่างก็ดีใจ และคิดว่าจะทุ่มเทกำลังกายกำลังใจให้กับบริษัทนี้ต่อไป
และบริษัทก็หยุดปีใหม่ตามวันที่กฎหมายกำหนด
"พรุ่งนี้ผมจะต้องได้เดินทางแล้ว..ผมฝากป้าดูแลเธอด้วยนะ" ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ทั้งสองก็ไม่ค่อยคุยกัน แม้เวลาทานข้าว ยังไม่ค่อยทานพร้อมกันเลย เพราะเหมือนมีอะไรขวางกั้นระหว่างพวกเขาทั้งสองอยู่
"ได้ค่ะ" ป้าแม่บ้านมีความสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้มากมายที่อยากจะถาม แต่ถ้าเจ้านายไม่อยากจะเล่าอะไรให้ฟัง ป้าก็ได้แค่รับคำสั่งไปวัน ๆ
"นั่นคุณจะไปไหนคะ" พิมพ์ญาดาเห็นสามีเดินออกจากบ้านมาก็เลยเดินตาม
"จะไปบ้านหลังนั้นหน่อย"
"คะ?"
"ผมมีธุระจะคุยกับพี่ชาย เรื่องการผ่าตัดของคุณพ่อ"
"ฉันไปด้วยค่ะ" ที่จริงพิมพ์ญาดาก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมหิตายะถึงยอมปล่อยบริษัทให้สุขายะเป็นคนดูแลเอง
"วันนี้คุณดาวให้เอา อาหารขึ้นไปส่งบนห้องค่ะ" แม่บ้านเห็นเจ้านายพยายามมองไปที่บันไดหลายต่อหลายครั้ง ก็เลยรายงานก่อนที่คอจะเคล็ด
"ถ้างั้นก็ตักข้าวเถอะครับป้า" ระหว่างที่กำลังทานข้าวอยู่นั้น สายตาของเขาก็มองเก้าอี้ตัวที่เธอนั่งเป็นประจำ..นี่เราเป็นอะไรไป หิตายะได้แต่ถามตัวเอง เพราะเขาไม่เคยเป็นแบบนี้กับชมพู่มาก่อน เขารู้ดีว่ารักชมพู่มาก แต่ทำไมความรู้สึกถึงแตกต่างกัน เขาไม่เคยโหยหาในตัวชมพู่มากขนาดนี้
"อิ่มแล้วเหรอคะ" แม่บ้านเห็นนายผู้ชายกินเข้าไปแค่ไม่กี่คำก็ลุกขึ้น
"ครับ"
"คุณยาจะเดินทางตอนไหนคะ"
"เช้ามืดครับ"
"ฝากความคิดถึงไปถึงท่านทั้งสองด้วยนะคะ"
"ขอบคุณครับป้า" จบคำพูดชายหนุ่มก็ขึ้นไปด้านบน สายตาเขายังแอบมองไปที่ประตูห้องของเธอ แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าคนในห้องนั้นจะเปิดประตูออกมา..
ใครเขาจะมาสนใจแกหิตายะ แกทำไม่ดีกับเขาตั้งมากมาย ทั้งๆ ที่ เธอไม่ได้ข้องเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นเลย ชายหนุ่มได้แต่พูดกับตัวเอง เพราะเหตุการณ์ในครั้งนั้นคนที่ชนก็คือพ่อของเธอ ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับพ่อของเขา เขาก็จะช่วยพ่อให้ถึงที่สุดเหมือนกัน มันไม่ใช่ความผิดอะไรของเธอเลย
เช้าวันต่อมา..
"อ้วกกกก" หญิงสาวคลื่นไส้อาเจียนแบบนี้มานับชั่วโมงแล้ว วันนี้อาการของเธอหนักมาก
"หนูเป็นอะไรลูก ทำไมเล่นงานแม่หนักจังเลย" ครั้งแรกที่เธอพูดกับก้อนเลือดที่อยู่ในท้องนั่น
พออาการดีขึ้นเธอก็ลงมาข้างล่าง
หญิงสาวมองหาเขาจนทั่วบ้าน พอไม่เจออยู่ด้านใน เธอก็ออกมาดูที่สวนหน้าบ้าน
"เขายังไม่ลงมาอีกเหรอ"
"คุณผู้ชายไปต่างประเทศแล้วค่ะ" ที่จริงดาวพระศุกร์พูดกับตัวเอง แต่แม่บ้านยืนอยู่ด้านหลังได้ยินก็เลยตอบ
"ไปต่างประเทศเหรอคะ" ดาวพระศุกร์พูดแค่นั้นแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ ถึงแม้ว่าอยากจะถามอะไรอีกมากมายแต่ก็ไม่กล้าพูดออกมา
สามชั่วโมงผ่านไป..
"เปิดเสียงขึ้นอีกหน่อย" สุขายะกำลังนอนดูทีวีกับภรรยารักอยู่ที่ห้องดูทีวี พอมีข่าวด่วนเข้ามา ชายหนุ่มถึงกับลุกนั่งแล้วจ้องตาเขม็ง
"คงไม่ใช่สายการบินเดียวกันใช่ไหมคะ" พิมพ์ญาดาก็ตกใจไม่แพ้กัน กับข่าวที่เพิ่งถ่ายทอดสดไป
"ผมไปบ้านหลังนั้นแป๊บหนึ่งนะ" สุขายะรีบวิ่งออกมาจากบ้านแบบไม่คิดชีวิต เขาต้องไปเช็คก่อนว่าพี่ชายนั่งสายการบินไหนไป
"ป้าผมขอดูเอกสารการเดินทางของพี่ผมหน่อย"
"ป้าไม่แน่ใจนะคะว่าคุณยาจะเก็บไว้ไหม มีอะไรคะ"
"เมื่อกี้มีข่าวด่วนออกมา บอกว่าเครื่องบินที่กำลังจะไป..... เกิดอุบัติเหตุ"
"อะไรนะคะ" คนที่ตกใจมากกว่าก็คือดาวพระศุกร์ เธอเดินมาได้ยินจังหวะที่สุขายะพูดพอดี หญิงสาวเข่าทรุดกับที่ แต่ก่อนที่เธอจะล้มลงแม่บ้านกับพิมพ์ญาดาได้รีบเข้าไปรับไว้ได้ทัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่หมั้นคู่หมาย