เช้าวันต่อมา..
"ผมบอกแล้วไงว่าจะไปรับพี่ที่สนามบินเอง" สุขายะเห็นรถสนามบินวิ่งเข้ามาในบ้าน เขาก็รีบมาดู
"ไปรับทำไม พูดเหมือนพี่จำทางกลับบ้านตัวเองไม่ได้"
"คร้าบพ่อคนเก่ง" สุขายะบอกตัวเองว่าจะลืมเรื่องบาดหมางกับพี่ชายให้หมด ยังไงผู้หญิงคนนั้นก็จากไปไม่มีวันกลับมาแล้ว
"แล้วนี่เมียพี่รู้หรือยังล่ะ"
"นายยังไม่รู้..แล้วเธอจะรู้เหรอ" ชายหนุ่มแอบยิ้มที่มุมปาก เพราะคิดว่าจะแอบมาเซอร์ไพรส์เธอด้วย จึงไม่บอกว่าจะเดินทางช่วงไหน
"อันนี้ให้ผมเหรอครับ" สุขายะยื่นมือไปหวังจะรับช่อดอกไม้ในมือของพี่ชาย แต่หิตายะก็รีบซ่อนมันไว้ทางด้านหลัง
"จะเป็นของนายได้ยังไง"
"ผมรู้น่าแค่หยอกเล่นเฉย ๆ"
"รู้ก็ดีแล้ว..แล้วนี่เธอตื่นหรือยัง"
"ผมจะไปรู้กับเมียพี่เหรอ แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้เมียผมอยู่ไหน" ที่จริงเขากำลังตามหาพิมพ์ญาดา แต่พอเห็นรถเข้ามา สุขายะก็เลยตรงมาที่รถคันนี้ก่อน
"ผมลืมถามไปเลย ว่าพ่อกับแม่จะกลับตอนไหน"
"ต้องรอดูก่อน ไม่รู้ว่าคุณหมอจะอนุญาตให้เดินทางได้ตอนไหน คงจะอีกสักสองอาทิตย์"
"ดีใจนะที่พ่อหายดีแล้ว"
"พี่ไม่พูดกับแกแล้ว เดี๋ยวพี่เข้าบ้านก่อนนะ แกก็รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเข้าบริษัทได้แล้ว..วันนี้พี่ยังไม่เข้า"
"ผมรู้น้า..คงอยากจะ.." สุขายะเอาปลายนิ้วชี้ชนกันทั้งสองข้างซ้ายขวา ทำตัวบิดไปมา เพื่อหยอกล้อพี่ชาย
"เอ้าา..จะรีบไปไหน" แต่ไม่ทันแล้ว หิตายะลากกระเป๋าเข้าบ้านไปแล้ว
"เซอร์ไพรส์ครับ...?..."
"อุ๊ย! เซอร์ไพรส์จริงด้วย สวัสดีค่ะคุณหิตายะ ไหนบอกจะกลับตอนเย็นไงคะ"
"สวัสดีครับคุณพิมพ์ คุณมาทำอะไรแต่เช้าเลย"
"ญาดาก็มาทานข้าวเป็นเพื่อนคุณดาวแบบนี้ทุกวัน ก็คุณเป็นคนฝากเองไม่ใช่เหรอคะ"
"ขอบคุณมากเลยครับ ที่ช่วยดูแล..." สายตาชายหนุ่มมองไปที่ผู้หญิงอีกคนแทนคำพูดประโยคต่อไป
"ด้วยความเต็มใจค่ะ เอ๊ะนั่น...." พิมพ์ญาดามองไปเห็นกุหลาบช่องามในมือของหิตายะ
"ของคุณดาวครับ" เขายื่นกุหลาบช่อนั้นส่งให้กับคนที่ใจเขาโหยหาตลอดหลายวันที่ผ่านมา
ล้านคำที่เตรียมไว้เพื่ออยากจะคุยกับเขาเมื่อเจอ แต่พอเห็นหน้าเขาจริง ๆ กลับลืมไปจนหมดสิ้น เธอได้แต่มองสบตาเขา
"ผมกลับมาแล้วครับ" เมื่อเธอไม่พูด เขาก็เลยต่ออีกประโยค
หญิงสาวก็ยังไม่พูดกับเขาอีกเหมือนเดิม แต่เธอรับช่อดอกไม้นั้นจากมือเขามา
"คุณให้ฉันเหรอคะ" ดาวพระศุกร์มองดอกกุหลาบนั้นแล้วกลืนน้ำลายลงคอ
"ผมดีใจนะที่คุณชอบมัน" หิตายะพอใจมากที่เธอชอบดอกไม้ที่ให้ไป เพราะเขากลัวว่าเธอจะเหม็นมันมากกว่า
หมับ! ทันใดนั้นกุหลาบที่อยู่ในช่อก็ได้ถูกดึงออกมาแค่ดอก
"ไปหาหมอ"
"คุณคิดว่าฉันไม่ปกติใช่ไหม"
"ผมไม่รู้ แต่ผมกลัวคุณกับลูกไม่ได้รับสารอาหารเพียงพอ ไปกับผมเดี๋ยวนี้เลย"
"อะไรนะคะ" นี่เราคิดบ้าอะไร ที่จริงเขาเป็นห่วงเรากับลูกงั้นเหรอ เพราะทีแรกเธอคิดว่าเขาห่วงดอกกุหลาบแปลงนั้น จนลากเธอไปพบจิตแพทย์
"ไม่เป็นห่วงคุณกับลูกแล้วผมจะเป็นห่วงใครล่ะ..ขึ้นรถ" หิตายะเปิดประตูรถแล้วก็พยุงคนตัวเล็กขึ้นไปนั่ง พร้อมกับคาดเข็มขัดนิรภัยให้
@โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
มันคือโรงพยาบาลที่เขาพาเธอมาฝากท้อง
"อาการแพ้ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่คุณดาวพระศุกร์ก็แพ้แปลกนะครับ" พอหมอได้ยินอาการแพ้ท้องของดาวพระศุกร์แล้วก็นึกขำ
หมอไม่ห้ามที่เธอชอบกินดอกกุหลาบ เพราะมันไม่ได้เป็นอันตราย แต่หมอแนะนำให้ลองกินอีกหลายอย่างที่คล้ายกันเพราะจะได้รับสารอาหารมากกว่านี้
..เย็นวันเดียวกัน..
"กินไม่ได้เลยเหรอ" หิตายะมองแค่หน้าก็พอจะเดาออกแล้ว
ดาวพระศุกร์ตอบด้วยการส่ายหน้านิดหนึ่ง เพราะชายหนุ่มให้ป้าแม่บ้านทำอาหารที่หมอแนะนำมาให้เธอได้ลองทาน แต่ก็ยังมีกลิ่นฉุนเข้าจมูกชวนให้อาเจียนอีกอยู่ดี
เขาก็เลยทำสลัดผัก ผสมกลีบกุหลาบใส่กับผักอีกหลายอย่าง มาให้เธอลองชิม พอหิตายะราดน้ำสลัดลงเท่านั้นแหละ ดาวพระศุกร์ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอเพราะมันคล้าย.....มาก
"คุณลองทานดูนะว่าพอจะกินได้ไหม ยังไงวันนี้ผมก็ต้องหาอะไรให้คุณทานให้ได้ก่อน"
นี่เราคิดบ้าอะไรไปเนี่ย เธอจะอยากกินอะไรแบบนั้นไม่ได้นะดาวพระศุกร์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่หมั้นคู่หมาย