คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา นิยาย บท 117

ตอนที่ 117 อยากร่ำรวยต้องเสี่ยงอันตราย

เมิ่งหนานถาม “เจ้าว่าพวกหมอไม่กล้าสั่งยาเต็มที่ หรือหากสั่งยาถอนพิษนี้เต็มที่แล้วจะมีปัญหา”

“หากปริมาณพอเหมาะ ย่อมไม่มีปัญหาอะไร แต่ปัญหาอยู่ที่จะควบคุมปริมาณนี้ได้อย่างไร ดังนั้นก่อนหน้านี้ข้าถึงบอกว่าพวกเขาเป็นหมอกำมะลอ พวกเขาไม่อาจควบคุมปริมาณนี้ได้อย่างชัดเจน ทำได้เพียงใช้ทีละน้อย เมื่อเกินกว่าจำนวนนี้ ยาถอนพิษจะกลายเป็นยาพิษเสียเอง” ไป๋จื่อกล่าว

ฝ่ายเมิ่งหนานเลิกคิ้ว สายตาจับจ้องไปที่ไป๋จื่อ บนใบหน้ารูปไข่เล็กจ้อยมีรอยฟกช้ำที่ยังไม่หาย ทว่าดวงตาเปล่งประกาย นางเหมือนกับมีความมั่นใจอย่างยิ่ง ความมั่นใจนั้นจึงสาดประกายจากทั่วใบหน้าของนางด้วย

องครักษ์จินที่เพิ่งจะคลายปมคิ้ว บัดนี้กลับขมวดขึ้นมาอีกครั้ง “เจ้าพูดอะไรกัน หากปริมาณไม่ถูกต้อง ยาถอนพิษจะกลายเป็นยาพิษอย่างนั้นหรือ เช่นนั้นไม่ใช่ว่าอันตรายยิ่งนักรึ”

จู่ๆ ไป๋จื่อก็ยิ้มขึ้น เผยฟันขาวเรียงตัวเป็นมิวแถว ลักยิ้มเล็กๆ ตรงข้างแก้มปรากฏให้เห็นเลือนราง

“ใช่เจ้าค่ะ อยากร่ำรวยต้องเสี่ยงอันตราย หากถอนพิษของใต้เท้าได้โดยง่าย แล้วเหตุใดถึงตอนนี้ยังไม่หายเล่าเจ้าคะ ไม่เสี่ยงอันตราย แล้วจะได้รับผลลัพธ์ที่ได้กำไรได้ง่ายๆ อย่างไรกัน”

องครักษ์จินอยากจะพูดอีก ทว่าเมิ่งหนานกลับขยิบตาให้บอก เป็นสัญญาณให้เขาเงียบก่อน

เมิ่งหนานกล่าว “เอาล่ะ ข้าเชื่อเจ้า เชื่อว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง”

ไป๋จื่อยกยิ้ม ไม่พูดมากอีก สำหรับหมอคนหนึ่งแล้ว ความเชื่อใจของคนไข้สำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด

นางกันไปมองทางห้องนอนของหูเฟิง ประตูห้องยังคงปิดสนิท ดูท่าทางเขาไม่คิดจะเป็นลูกมือให้นาง

เที่ยงวันของวันมีคนมากินข้าวเพิ่มขึ้นสองคน หากไม่มีคนเป็นลูกมือให้นาง เช่นนั้นอาหารมือนี้ก็ไม่รู้จะทำเสร็จเมื่อใด

จ้าวหลานและหูจ่างหลินกำลังช่วยกันเก็บกวาดลานบ้านที่คนสกุลไป๋ทำยุ่งไว้คนละไม้คนละมือ หวังให้พวกเขาช่วยคงไม่ได้

ดังนั้นสายตาของไป๋จื่อจึงตกลงที่ตัวขององครักษ์จิน “องครักษ์จิน ช่วยข้าสักหน่อยได้หรือไม่เจ้าคะ”

เมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของนาง องครักษ์จินก็ส่ายหน้าตามสัญชาตญาณ “ข้า…”

ทว่ายังไม่ทันได้พูดคำปฏิเสธนั้นออกมา เมิ่งหนานกลับตัดบทของเขา พยักหน้ากล่าวว่า “ตอนนี้เขาไม่มีอะไรทำเหมือนกัน มีเรื่องอะไรก็สั่งเขาได้ตามใจ”

องครักษ์จินจะพูดอะไรได้อีก ใครใช้ให้อีกฝ่ายเอ่ยปาก และใครใช้ให้อีกฝ่ายเป็นเจ้านายของเขากัน

ไป๋จื่อหัวเราะแหะๆ “เช่นนั้นก็ลำบากองครักษ์จินแล้วเจ้าค่ะ”

ในห้องครัว ไป๋จื่อกำลังล้างและหั่นผัก เดิมทีผักที่ซื้อมาเมื่อวานกินได้สองมื้อ ตอนนี้ดูท่าทางจะกินได้แค่มื้อเดียวแล้ว

องครักษ์จินจุดไฟไปพร้อมกับเหงื่อแตกเต็มหน้าผาก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเข้าครัว เป็นครั้งแรกที่เขานั่งจุดไฟหน้าเตา และเป็นครั้งแรกที่เขาถูกแม่นางน้อยคนหนึ่งใช้งานจนหัวหมุน…

เวลานี้ใกล้เที่ยงวันแล้ว ห่อเกี๊ยวคงไม่ทัน นางจึงใช้แป้งหมี่มาทำให้ข้น จากนั้นใส่ไข่ไก่ลงไปสองฟอง แล้วจึงนำต้มหอมซอยลงไปคลุกเคล้า ทอดเป็นจีตั้นปิ่ง[1]สักสองสามแผ่น เมื่อวานยังเหลือน้ำแกงซี่โครงหมูตุ๋นข้าวโพดอยู่ครึ่งหม้อ นางจึงยกหม้อขึ้นตั้งบนเตาไฟเล็ก ไม่นานมันก็ส่งกลิ่นหอมของซี่โครงหมูและข้าวโพดออกมาตลบอบอวล

องครักษ์จินสูดกลิ่นอย่างแรง ก่อนจะรีบถาม “นี่คือกลิ่นอะไรหรือ”

ไป๋จื่อกำลังนำปลาที่หมักเกลือไว้แล้วลงหม้อตั้งน้ำมัน นางชี้ไปที่เตาดินด้านนอก “ที่อุ่นอยู่บนเตาคือน้ำแกงซี่โครงหมูตุ๋นกับข้าวโพด หากท่านหิว จะกินก่อนสักถ้วยก็ได้เจ้าค่ะ”

เขาหิวตั้งนานแล้ว ท้องร้องไม่รู้กี่รอบแล้วเช่นกัน ตอนนี้ได้กลิ่นหอมน่าดึงดูดเช่นนี้ ยิ่งทำให้เขาน้ำลายสอ

“เช่นนั้นข้าไม่เกรงใจแล้ว” เขาใส่ฟืนเข้าไปในใต้เตาอีกท่อนหนึ่ง ก่อนจะรีบลุกขึ้นหยิบถ้วยและกระบวนจากแท่นไม้บนเหนือเตา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา