คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา นิยาย บท 127

ตอนที่ 127 ปลูกอะไร?

“ข้าเป็นคนไข้ ข้ามีสิทธิ์ตัดสินใจว่าตนเองจะได้รับการรักษาอย่างไร”

ไป๋จื่อส่ายหน้า “ไม่ เจ้าไม่มีสิทธิ์เช่นนั้น ควรจะรักษาอย่างไร ล้วนต้องขึ้นอยู่กับหมอ เจ้าสามารถแสดงความไม่พอใจและแนะนำได้ แต่จะฟังหรือไม่ การตัดสินใจอยู่ที่ข้า”

หูเฟิงจ้องนาง จ้องมองดวงตาที่เมื่อครู่โค้งเหมือนพระจันทร์เสี้ยวเพราะรอยยิ้ม ทว่าตอนนี้กลับจริงจังและสงบนิ่ง แท้จริงแล้วนางเป็นเด็กสาวแบบใดกันแน่? ภายในเปลือกที่อ่อนแอนี้ มีหัวใจเช่นไรอยู่กัน?

เขาไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วสาวเท้าเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

นางกลับหลังหันช้าๆ มองเงาหลังสูงใหญ่ของเขาหายไปจากเบื้องหน้า คิ้วได้รูปสวยขมวดเล็กน้อย หูเฟิงผู้นี้ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะสูญเสียความทรงจำไปทั้งหมด ทว่าก็ยังลึกล้ำยากหยั่งคาด หากวันใดที่ความทรงจำของเขากลับมา เขาจะเป็นคนอย่างไรกัน?

หลังจากพักผ่อนช่วงกลางวันสั้นๆ แล้ว ไป๋จื่อกับจ้าวหลานก็ไปที่บ้านของท่านหัวหน้าหมู่บ้าน ก่อนจะตามอีกฝ่ายไปดูที่นาที่แบ่งให้กับพวกนางสองแม่ลูก

เพราะเป็นสตรี สองแม่ลูกได้แบ่งนาน้ำทั้งหมดเพียงหนึ่งหมู่ ตำแหน่งไม่นับว่าดี แต่ก็ไม่นับว่าแย่เช่นกัน จ้าวหลานรู้สึกพอใจมากแล้ว

ดินทรายมีอยู่ครึ่งหมู่ เป็นที่ที่รกร้างมากนานมากแล้ว หากต้องการจะปลูกอะไร ดูท่าทางต้องเสียเวลาไปไม่น้อยเลย

เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านพาพวกนางไปดูที่เสร็จ ระหว่างทางกลับมา เขาก็ชี้ที่สองหมู่ในนาน้ำอันกว้างขวางกล่าวว่า “ดูสิ ตั้งแต่วันที่มือของเจ้าได้รับบาดเจ็บ ในนาของสกุลไป๋ก็ไม่เคยมีใครมา รกร้างเช่นนี้ ไม่รู้จริงๆ ว่าในหัวของคนบ้านนั้นคิดอะไรอยู่กันแน่”

จ้าวหลานมองนาสองหมู่นั่น แล้วถอนใจเสียงหนึ่ง “หลายปีมานี้ งานในนาและที่ดินล้วนเป็นข้าที่ทำ เดิมทีพวกเขาก็เอาแต่พักผ่อนอยู่แล้ว ตอนนี้ก็เกรงว่าจะยังไม่เปลี่ยนนิสัยกระมัง”

ไป๋จื่อแค่นหัวเราะ “ไม่ต้องสนใจหรอกเจ้าค่ะ ว่าพวกเขาจะเปลี่ยนนิสัยหรือไม่ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เรื่องของพวกเขาสกุลไป๋ไม่เกี่ยวกับพวกข้าสองแม่ลูก ท่านแม่จะทำเป็นลืมเลือน และติดต่อกับพวกเขาไม่ได้อีกเป็นอันขาด”

“เด็กคนนี้ พูดเหมือนข้าอายุสามขวบอย่างไรอย่างนั้น เหตุผลข้อนี้ข้าหรือจะไม่เข้าใจ?” จ้าวหลานยิ้มกล่าว เมื่อก่อนนางอาจจะโง่เง่าเช่นนั้น นางถึงได้มีความกังวลมากมายเช่นกัน

แต่ตอนนี้ต่างออกไปแล้ว หลังจาหนางเห็นจื่อเอ๋อร์นอนไร้ลมหายใจอยู่บนเสื่อกกกับตาตนเอง นางก็เกลียดชังคนสกุลไป๋เข้าไส้ ไม่มีความคาดหวังใดหลงเหลือแม้สักนิด

หัวหน้าหมู่บ้านก็พูดว่า “ตัดขาดกับคนบ้านนั้นไปได้ก็ดีแล้ว ตอนนี้เงินที่พวกเจ้าจะสร้างบ้านก็มีแล้ว ต่อไปจะต้องมีชีวิตที่ดี ถึงจะเป็นการสั่งสอนคนสกุลไป๋ได้ดีที่สุด”

ไป๋จื่อกันไปมองนาน้ำของสกุลไป๋ที่อยู่ไกลออกไป ตำแหน่งอยู่ตรงต้นน้ำของแหล่งน้ำ ข้างที่นาไม่มีร่องส่งน้ำเหมือนนาน้ำที่อื่น หากจะบอกว่าเป็นนาน้ำ ความจริงแล้วเป็นที่ดินแห้งๆ เสียมากกว่า

หากคิดจะปลูกข้าวสาลีในที่นาเช่นนี้ ก็ต้องลงมือตักน้ำเอง นำน้ำจากในแม่น้ำที่อยู่ไกลๆ เข้ามาในที่นาถังแล้วถังเล่า แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว

นางถามหัวหน้าหมู่บ้าน “ท่านลุงหัวหน้าหมู่บ้าน ในที่นานี้ต้องปลูกข้าวสาลีอย่างเดียวหรือเจ้าคะ ข้าปลูกอย่างอื่นได้หรือไม่”

“ปลูกอย่างอื่น? ปลูกอะไร?” หัวหน้าหมู่บ้านไม่เข้าใจ เขาคิดไม่ออกว่าหากไม่ปลูกข้าวสาลีในนาน้ำ แล้วจะปลูกอะไรอย่างอื่นได้

เด็กสาวส่ายหน้า “ข้ายังคิดไม่ออก แต่หากปลูกข้าวสาลี ก็ต้องใช้น้ำปริมาณมาก แต่ท่านก็เห็นว่าที่นาแห่งนี้ไม่ได้อยู่ใกล้แหล่งน้ำ ทั้งยังไม่มีร่องส่งน้ำอยู่ด้านข้าง อยากจะปลูกข้าวสาลี ความจริงแล้วยากเกินไปนัก”

จ้าวหลานรีบกล่าว “ไม่ต้องกลัวๆ ข้าจะแบกน้ำเอง ใช้เวลาและแรงมากหน่อยก็เท่านั้น”

หัวหน้าหมู่บ้านยิ้ม “จื่อยาโถว ที่นานี้เป็นของพวกเจ้าแล้ว อยากปลูกอะไรก็ให้พวกเจ้าจัดการเองเลย”

จู่ๆ ไป๋จื่อก็นึกถึงของบางอย่างขึ้นได้ ปลูกง่าย ได้ปริมาณมาก กินแล้วดีต่อสุขภาพอีกด้วย ที่สำคัญที่สุดคือไม่ต้องใช้น้ำมาก

……….

ตอนที่ 128 เป็นลูกสาวของท่านตลอดไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา