ตอนที่ 131 ไก่ตกน้ำ
หักแขนข้างหนึ่งของเขาอีก? แค่คิดถึงความโหดเหี้ยมยามหูเฟิงแก้แค้นเจ้าใหญ่ เวลานี้พวกนางคิดขึ้นมาแล้วก็รู้สึกขนลุก แม้ให้ความกล้ากับพวกนางอีกเป็นร้อย ก็ยังไม่กล้าแตะต้องหูจ่างหลินแม้แต่ปลายนิ้ว
หลิวซื่อยื่นคอยาวๆ มองเข้าไปข้างใน ก่อนจะหันไปกระซิบกับแม่สามี “ท่านแม่ ข้าว่าจ้าวหลานไม่อยู่ที่นี่ น่าจะอยู่ที่เรือนไม้ด้านหลังมากกว่า ไยพวกเราต้องพูดจาไร้สาระอยู่ที่นี่กับหูจ่างหลินด้วยเล่า ไปหาจ้าวหลานที่อยู่ข้างหลังเลยก็ใช้ได้แล้ว”
แม่สามีพยักหน้า แล้วกล่าวกันหูจ่างหลินอีกว่า “ในเมื่อพวกนางไม่อยู่ เช่นนั้นพวกข้ากลับก่อนล่ะ หากพวกนางกลับมาแล้ว รบกวนเจ้าบอกข้าสักหน่อย ว่าพวกข้ามีธุระอยากเจอนาง”
ครั้นกล่าวจบ นางก็ไม่รอให้หูจ่างหลินรับคำ พวกนางสองแม่สามีและลูกสะใภ้หมุนตัวจากไป ดูแล้วไปยังทิศทางกลับบ้าน หูจ่างหลินไม่คิดมาก หลับหลังกันเข้าเรือนไป
หลังจากหญิงชรากับหลิวซื่อเดินอ้อมหมู่บ้านรอบหนึ่งแล้ว ก็ถึงใช้เส้นทางเล็กๆ ไปถึงด้านนอกเรือนไม้ของจ้าวหลาน
ขณะนี้ประตูเรือนไม้เปิดอยู่ บนราวตรงประตูตากเสื้อผ้าเอาไว้ สีสันสดใสทั้งตัว เป็นเสื้อผ้าไหมแบบใหม่เอี่ยม
เสื้อผ้าเช่นนี้พบเห็นได้ไม่มากนักในหมู่บ้านหวงถัว นอกจากมารดาของอิงจื่อที่แต่งให้คนในเมืองแล้ว ก็ไม่เคยเห็นผู้ใดใส่มาก่อนจริงๆ
หลิวซื่อมองเพียงปราดเดียวก็ตาร้อนฉ่า ครั้งก่อนนางตามเจ้าใหญ่ไปตลาดในเมือง เห็นสตรีสวมเสื้อผ้าเช่นนี้อยู่ในเมืองไม่น้อย ทำให้นางรู้สึกอิจฉา คิดเพียงว่าเมื่อบุตรชายแต่งงาน นางจะได้สวมเสื้อผ้าเช่นนี้บ้าง และถือโอกาสอวดโฉมต่อหน้าคนในหมู่บ้านและครอบครัวเช่นกัน
หญิงชรามองเสื้อผ้าแล้วก็มุ่นคิ้ว “เพิ่งจะได้เงินมาไม่เท่าไร ก็ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเช่นนี้แล้ว สตรีทำไร่ทำนาคนหนึ่ง จะสวมเสื้อผ้าสวยๆ เช่นนี้ไปไย? ไม่กลัวคนหัวเราะเยาะเสียเลย”
ทั้งสองคนไม่ทักทายสักคำ เพียงเดินตรงไปในเรือนไม้ แต่ใครจะรู้ว่าครั้นทั้งคู่เพิ่งถึงประตูเรือน น้ำกะละมังหนึ่งก็สาดเข้ามาใส่หน้า ทำให้พวกนางกลายเป็นไก่ตกน้ำ
ในมือของจ้าวหลานถือกะละมังไม้ พลางมองหญิงชราและหลิวซื่อด้วยสีหน้าตกใจ “โอ้…เหตุใดพวกท่านอยู่ที่นี่ล่ะ? ขอโทษจริงๆ ข้าเพิ่งเทน้ำล้างหน้า” บนใบหน้าของนางมีรอยยิ้ม แม้ปากจะพูดว่าขอโทษ แต่ในดวงตากลับไม่มีแววขอโทษแม้สักนิด
เรือนไม้เล็กนัก กั้นเสียงได้แย่มาก เสียงพึมพำของพวกนางสองคนที่อยู่ข้างนอก นางจะไม่ได้ยินได้อย่างไร
ดังนั้นน้ำสกปรกกะละมังนี้ จึงสาดใส่หน้าของพวกนางสองคนอย่างพอดิบพอดี
หลิวซื่อเช็ดน้ำออกจากใบหน้า แล้วจ้องมองแขนของอีกฝ่ายด้วยความตะลึงลาน “มือเจ้าหายแล้วหรือ?” กะละมังไม้เมื่อครู่ไม่เบาเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าในกะละมังใส่น้ำไว้มากกว่าครึ่ง
จ้าวหลานวางกะละมังไม้ลง พลางลูบแขนป้อยๆ “ยังเจ็บอยู่นิดหน่อย แต่น่าจะไม่ใช่เรื่องใหญ่แล้ว”
หญิงชราหยิบผ้าเช็ดมือออกมาจากในอก แล้วเช็ดอย่างลวกๆ รอบหนึ่ง ความโกรธในใจเอ๋ย เมื่อคิดว่าอีกเดี๋ยวต้องพูดจากับอีกฝ่าย ก็ทำได้เพียงกลั้นไฟโทสะนี้ไว้ก่อน หากจะจัดการนาง ต้องรอนางกลับสกุลไป๋ก่อนถึงจะมีโอกาส
นางพูดกับจ้าวหลานว่า “พวกข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า”
จ้าวหลานหมุนตัวเข้าเรือน “เข้ามาพูดเถิด”
ก่อนหน้านี้พี่หูมาบอกแล้ว ก่อนจื่อเอ๋อร์จะไปได้ฝากฝังไว้เป็นพิเศษ เด็กสาวบอกว่าคนสกุลไป๋อาจจะถือโอกาสมาหาถึงบ้านตอนที่นางไม่อยู่ ไม่ว่าคนสกุลไป๋จะว่าอย่างไร ขอให้นางอย่าได้รับปาก
ทีแรกนางยังคิดว่าจื่อเอ๋อร์คิดมากไป แต่ดูจากตอนนี้แล้ว กลับเป็นนางเองที่คิดตื้นเขินจนเกินไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา
อัพเดทตอนใหม่เมื่อไรค่ะ...
คุณแอดมินผู้ใจดี ช่วยอัพเดทตอนใหม่เยอะๆเลยนะคะ ชอบมาก สนุก พลีสสสสส...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
เอาใจช่วยหูเฟิงทวงคทนอำนาจนะ...
ถ้าพ่อไม่ถูกเมียรังแกจนเกือบตายก็คงไม่ตื่นสินะ...
ดีใจกับเสี่ยวเฟิง...