ตอนที่ 147 ตั้นละหนึ่งตำลึงเงิน
บัดนี้หูเฟิงยกจานเกี๊ยวขนาดใหญ่ออกมา ก่อนจะวางไว้บนโต๊ะโดยตรง แล้วหันหน้าไปกวาดสายตามองหญิงชราและหลิวซื่อครั้งหนึ่ง สายตาเย็นชาจนถึงขีดสุด “พวกเจ้ายังไม่ไปอีก คิดจะรอให้ข้าไปส่งหรืออย่างไร”
ทั้งสองคนตัวสั่นพร้อมกัน ขาก็สั่นพั่บๆ ตามไปด้วย ดูท่าทางการขอข้าวและแป้งในวันนี้คงจะเป็นไปไม่ได้แล้ว พวกนางจะแย่งก็แย่งไปไม่ได้ จะขอยืมก็ยืมไม่ได้อีก จึงต้องกลับไปมือเปล่าเช่นนี้ด้วยความไม่พอใจ
หญิงชรากล่าวอีกว่า “เอาอย่างนี้แล้วกัน ข้าจะไม่มาขอยืมจากเจ้าอีก แต่ขายให้ข้าน่าจะได้กระมัง”
ขาย?
ไป๋จื่อพยักหน้า “ถ้าเจ้าจะซื้อก็ย่อมได้ ตั้นละหนึ่งตำลึงเงิน โต่วละหนึ่งเฉียน”
หญิงชราหน้าเปลี่ยนสีใจทันที “เจ้าปล้นข้ากระมัง ข้าวหนึ่งตั้นราคาถึงหนึ่งตำลึงเงินเชียวหรือ เจ้าลดราคาหน่อยสิ”
“เช่นนั้นพรุ่งนี้เจ้าไปซื้อในเมืองเอาแล้วกัน ดูสิว่าจะซื้อได้ถูกกว่านี้หรือไม่” ไป๋จื่อยักไหล่
หลิวซื่อดึงแขนเสื้อแม่สามี พลางขยิบตาให้นางครั้งหนึ่ง ฝ่ายหญิงชรารู้กัน หัวเราะแห้งๆ กล่าวว่า “ดูเหมือนจะขึ้นราคาเป็นสองเท่าแล้ว ข้าได้ยินมาเหมือนกัน หากเจ้าคิดตั้นละหนึ่งตำลึงเงิน เช่นนั้นก็ตามนั้นเถิด เจ้านำข้าวให้ข้าหนึ่งตั้น ครั้งหน้าข้าจะนำเงินมาให้” เมื่อข้าวเข้าไปอยู่ในสกุลไป๋ของนางแล้ว นั่นนับว่าเป็นเงินของนางสกุลไป๋ ต้องการเงินหรือ ชาติหน้าแล้วกัน
ไป๋จื่อไม่ติดกับ นางสั่นศีรษะ “เงินมา ของไป ไม่อาจติดค้างบัญชีไว้ได้”
เมื่อหญิงชราได้ยินคำพูดนี้ นางก็มีน้ำโหขึ้นมาในทันที พลันกระทืบเท้าต่อว่า “นางเด็กเจ้าเล่ห์ เจ้าคิดจะใช้อุบายกับข้าชัดๆ คอยดูเถอะว่าวันนี้ข้าจะสั่งสอนเจ้าอย่างไร”
เด็กสาวยังคงกอดอกยืนตัวตรงดังเดิม พลางมองหญิงชรากระทืบเท้าอยู่อย่างนั้น แล้วกล่าวคล้ายกับขบขันว่า “สั่งสอนข้า? เจ้าคิดว่าเจ้ายังมีสิทธินั้นอยู่หรือ ข้าว่าเจ้าอย่าได้ลงมือจะดีที่สุด ไม่เช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้าเสียใจภายหลังอย่างแน่นอน”
เมื่อคิดถึงความดุดันยามที่ไป๋จื่อตีคน ผนวกกับสกุลหูแห่งนี้ยังมีหูเฟิงอยู่ด้วย นางก็ไม่กล้ามือจริงๆ ทำได้เพียงกัดฟันกล่าววาจาไม่น่าฟังออกไป “เจ้ามันเนรคุณ เจ้าจำไว้เลยนะ พวกเราไป”
หลิวซื่อไม่อยากอยู่ที่นี่ลำพัง จึงตามแม่สามีไปเช่นกัน ทว่าก็ทิ้งคำพูดไม่รื่นหูไว้ด้วย “ข้าจะคอยดู ว่าพวกเจ้าสองแม่ลูกจะมีชีวิตดีๆ ในหมู่บ้านหวงถัวแห่งนี้ได้กี่วัน ระวังจะถูกคนหลอกเอาเงินจนหมดตัว สุดท้ายแล้วเป็นได้แค่ยาจก ถูกคนไล่ตะเพิดออกมาอย่างกับขอทาน ถึงตอนนั้นแล้วข้าจะหัวเราะให้ฟันร่วงทีเดียว”
ไป๋จื่อสวนนาง “เจ้าวางใจเถอะ ถึงแม้จะมีวันนั้นจริงๆ พวกข้าก็จะไม่ไปขอข้าวกินจากสกุลไป๋ เช่นเดียวกัน ถึงแม้พวกเจ้าสกุลไป๋จะต้องหิวตาย ก็รบกวนพวกเจ้าอย่ามาหาพวกข้าอีก เพราะพวกข้าไม่ได้ติดค้างอะไรพวกเจ้าทั้งนั้น”
สองแม่สามีและลูกสะใภ้ตามกันออกจากลานบ้านไป เดินไปพลาง ก่นด่าไปพลาง คำหยาบอะไรล้วนพ่นโพล่งออกมาทั้งหมด ขาดก็เพียงขุดหลุมบรรพบุรุษของบ้านจ้าวหลานและหูจ่างหลินแล้ว
หูจ่างหลินเดินเข้ามาจากในลานบ้าน
จ้าวหลานรีบกล่าว “พี่หู ลำบากไปท่านไปด้วย ข้าขอโทษจริงๆ เจ้าค่ะ”
เจ้าบ้านโบกมือ “เจ้าพูดอะไรกัน ก็แค่ให้นางต่อว่าสักสองสามคำเท่านั้น ไม่ได้เสียเนื้อไปสักหน่อย พวกเจ้าต่างหาก อย่าได้เก็บไปใส่ใจจนเกินไปล่ะ โมโหคนพรรค์นี้ไปก็ไม่คุ้มค่าหรอก”
ในใจจ้าวหลานรู้สึกดีขึ้นมาแล้ว จึงยิ้มพลางพยักหน้า “ข้าเข้าใจ”
ทั้งสี่คนนั่งล้อมโต๊ะตัวหนึ่ง ก่อนจะกินเกี๊ยวอย่างเบิกบานใจ หูเฟิงแทบจะเป็นราชันแห่งเกี๊ยว เขาคนเดียวกินไปถึงสองในสาม โชคดีที่วันนี้ห่อเกี๊ยวไว้มากพอ ไม่เช่นนั้นไม่พอให้เขากินคนเดียวแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา
อัพเดทตอนใหม่เมื่อไรค่ะ...
คุณแอดมินผู้ใจดี ช่วยอัพเดทตอนใหม่เยอะๆเลยนะคะ ชอบมาก สนุก พลีสสสสส...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
เอาใจช่วยหูเฟิงทวงคทนอำนาจนะ...
ถ้าพ่อไม่ถูกเมียรังแกจนเกือบตายก็คงไม่ตื่นสินะ...
ดีใจกับเสี่ยวเฟิง...