คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา นิยาย บท 153

ตอนที่ 153 ฉีกหนังสือแสดงหนี้

องครักษ์จินรีบพยักหน้า “ใช่ๆ ข้ากับคุณชายนั่งอยู่เฉยๆ ที่นี่ต้องเบื่อมากแน่ ไปกับพวกเจ้าน่าจะดีกว่า”

ไป๋จื่อกลับคิดว่าได้ พวกเขาไปด้วย อาจจะถือโอกาสให้พวกเขาช่วยทำงานได้ จึงหันหน้าไปถามหูเฟิง “เจ้าว่าอย่างไร”

หูเฟิงยักไหล่ “มีคนยอมช่วยพวกเราทำงานย่อมดีอยู่แล้วไม่ใช่หรือ” มาทำให้ผู้อื่นลำบากถึงที่บ้าน หากจะให้พักอยู่เฉยๆ คงสบายเกินไปนัก ให้พวกเขาได้ใช้แรงจ่ายค่าอาหารสักหน่อยก็ดีเหมือนกัน

เอ๋? ทำงาน? เมื่อครู่นางบอกว่าไปทำธุระไม่ใช่หรือ

ทำงานที่เขาพูดถึง ไม่ได้หมายถึงลงนาปลูกข้าวกระมัง

เมิ่งหนานก้มหน้ามองชุดคลุมของตนเอง ที่เขาสวมใส่มาในวันนี้ เป็นชุดหนึ่งในบรรดาเสื้อผ้าที่เพิ่งทำใหม่ล่าสุด และเขาโปรดปรานเป็นที่สุด วันนี้ตั้งใจใส่มาที่นี่โดยเฉพาะ แต่ไม่ใช่เพื่อลงดินทำงาน…

ตอนนี้เกิดเสียใจขึ้นมาแล้วยังทันหรือไม่

เขายังไม่ทันบอกว่าเสียใจ ไป๋จื่อกับหูเฟิงก็เดินออกจากโถงเรือน ทั้งสองต่างก็ถือข้าวของ มุ่งหน้าไปยังรถม้าที่อยู่ด้านนอกลานบ้าน

องครักษ์จินก็ตามไปด้วย เขาได้แต่อ้าปาก และสุดท้ายก็กลืนคำพูดเปลี่ยนใจกลับไป…

รถม้าทั้งสองคัน หูเฟิงบังคับคันหนึ่ง องครักษ์จินบังคับอีกคันหนึ่ง ออกจากหมู่บ้านตามๆ กันไป

หมู่บ้านนี้มีรถม้าปรากฏให้เห็นน้อยนัก วันนี้มีถึงสองคัน อีกทั้งหูเฟิงยังบังคับคันหนึ่งในนั้นด้วยตนเอง ครั้นรถม้าวิ่งขึ้นมา ลมพลันพัดผ้าม่านบนหน้าต่างรถให้กระพือขึ้นเล็กน้อย ทุกคนเห็นไป๋จื่อนั่งอยู่ข้างในรถม้า ก็เกิดความรู้สึกอิจฉาขึ้นมาในทันที

ตลอดชีวิตของหลายๆ คนไม่เคยนั่งรถม้า แม้แต่สัมผัสก็ยังไม่เคย สำหรับคนในป่าเขาอย่างพวกเขาแล้ว ม้าเป็นสิ่งมีชีวิตล้ำค่าที่มีราคาแพงอย่างยิ่ง ในหมู่บ้านหวงถัวแห่งนี้จึงไม่เคยบ้านใดเลี้ยงม้ามาก่อน

วันนี้ใต้เท้าเมิ่งมาอีกครั้ง ทั้งยังกินข้าวเช้าที่สกุลหูด้วย ขณะนี้ยังออกไปกับหูเฟิงและไป๋จื่ออีก ดูท่าทางสกุลหูคราวนี้พบโชคดีเข้าให้แล้ว

เรื่องเหล่านี้ย่อมถึงหูของคนสกุลไป๋ พวกเขายิ่งเกลียดแค้นและชิงชัง ทว่ายังไม่ทันได้ก่นด่าถึงสองคำ หมอลู่ก็มาหาถึงบ้าน

“แม่เฒ่า วันนี้เป็นวันที่ต้องคืนเงินแล้ว เตรียมเงินเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่” หมอลู่มาถึงบ้านพร้อมหน้าตาขึงขัง พลางกล่าวกับคนสกุลไป๋ที่ยืนก่นด่าผู้อยู่ในอยู่ลานบ้าน

หญิงชราขมวดคิ้ว พูดด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์ “เช้าตรู่เช่นนี้พูดเรื่องคืนเงินอะไรกัน เจ้าไม่มีมารยาทเลยหรือไร พวกข้าสกุลไป๋ไปติดเงินเจ้าเมื่อไร เจ้าปรักปรำข้าให้น้อยๆ หน่อย”

เหอะ…เขารู้อยู่แล้วเชียว ว่าคนสกุลไป๋ไม่เคยคิดจะคืนเงิน

หมอลู่เองก็มีแผนการเช่นกัน เขาหยิบหนังสือแสดงหนี้ที่เตรียมไว้แล้วออกมาจากอก แล้วนำมันโบกสะบัดต่อหน้าหญิงชรา “รู้จักสิ่งนี้หรือไม่ นี่เป็นหนังสือยืมเงินที่เจ้าเขียนด้วยตนเอง บนนั้นมีตราประทับลายนิ้วมือของเจ้าด้วย เจ้าคิดจะบิดพลิ้วหรือ ต้องถามหนังสือนี้ดูแล้วล่ะว่าได้หรือไม่!”

หญิงชรากลอกตา ก่อนจะยิ้มเย็น “อย่ามาขู่ข้าหน่อยเลย หนังสือแสดงหนี้นี้ข้าไม่ได้เป็นคนเขียน ข้าทั้งไม่รู้จักหนังสือ และเขียนหนังสือไม่เป็น จะทำหนังสือแสดงหนี้ให้เจ้าได้อย่างไร”

“ข้าเป็นคนเขียนเอง แต่ตราประทับลายนิ้วมือนี้เจ้าเป็นคนประทับต่อหน้าคนทั้งหมู่บ้านมากมายขนาดนั้น เจ้าจำไม่ได้จริงหรือ ตอนนี้ข้าจะนำมันไปที่ศาลาว่าการ ให้ใต้เท้าผู้ซื่อสัตย์ตัดสินคดีติดเงินไม่คืนสักครั้ง”

ในใจหญิงชรามีแผนการอยู่นานแล้ว จึงยื่นมือให้หมอลู่ “เอามาให้ข้าดูหน่อย ข้าจำไม่ได้ว่าตัวเองประทับรอยนิ้วมือลงบนหนังสือแสดงหนี้อะไรนี่ด้วย จึงข้าอยากลองเทียบดูสักครั้ง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา