ตอนที่ 171 คุณหนูใหญ่เป็นคนใจแคบ
นางกินข้าวเช้าก่อน ถึงไปทอดจีตั้นปิ่งที่เมิ่งหนานชอบกินอยู่ในครัว ก่อนจะใส่ไส้เส้นมันฝรั่งที่เพิ่งผัดเสร็จดี แล้วม้วนขึ้นมาจนเป็นชิ้น
ครั้นจะออกจากบ้าน หูเฟิงเห็นนางนำข้าวของไปด้วย “นี่คืออะไร”
“อ๋อ จีตั้นปิ่งสองสามชิ้น ไปมือเปล่าคงจะไม่ดี พวกเขาชอบกิน ทั้งยังทำง่ายมาก เลยทำขึ้นมาสักหน่อย” ไป๋จื่อตอบง่ายๆ
หูเฟิงกวาดสายตามองห่อกระดาษในมือของนางอย่างเย็นชา ไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงแค่หมุนกายไปจูงม้า
รถม้าเคลื่อนอยู่บนถนนในหมู่บ้านอย่างช้าๆ เพราะเวลานี้มีคนเดินอยู่ไม่น้อย จึงไม่กล้าบังคับม้าให้วิ่งเร็วเกินไป จะได้ไม่ไปชนคนอื่นเข้า
ตอนที่รถม้ากำลังจะออกจากหมู่บ้าน ก็มีคนกลุ่มหนึ่งขวางทางไปของพวกเขา
หูเฟิงกล่าวเสียงทุ้ม “ถอยหน่อย!”
เมื่อได้ยินดังนั้น คนเหล่านั้นก็กลับหลังหันมา มองหูเฟิงที่บังคับรถม้าให้เดินไปข้างหน้า พวกเขารีบหลบไปยังข้างทางอย่างรวดเร็ว รถม้าผ่านข้างกายของพวกเขาไป ลมฤดูร้อนพัดม่านรถอย่างนุ่มนวล ทำให้พวกเขามองเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยหาใดเปรียบ ดวงตางดงามสดใสคู่นั้นกำลังมองพวกเขาคล้ายยิ้ม คล้ายไม่ยิ้ม
หลิวซื่อมองตามรถม้าที่ห้อตะบึงไป พลางถ่มน้ำลาย “ถุย…วางมาดอะไรนัก ก็แค่รถม้าคันหนึ่งเท่านั้น ถึงกับต้องใช้โดยสารไปมาในหมู่บ้านทั้งวันเชียวหรือ”
ไป๋เสี่ยวเฟิงกลับมองรถม้าคันนั้นด้วยความอิจฉา “หากสกุลเรามีรถม้าเช่นนั้นสักคันเหมือนกันก็คงดี” เพื่อนร่วมชั้นเรียนของเขา แปดในสิบคนล้วนนั่งรถม้าไปเรียน มีเพียงเขาและเด็กหนุ่มสกุลลู่เท่านั้นที่เดินไป และมักจะถูกคนหัวเราะเยาะว่ายากจนอยู่บ่อยๆ
หญิงชรามองรถม้าเตะฝุ่นจากไป ในใจต่อว่าด้วยความหยาบคายยกหนึ่ง ความรู้สึกซับซ้อนเป็นอย่างยิ่ง ทั้งเกลียดชัง ทั้งโกรธเคือง ทั้งยังเจือความอิจฉาอย่างเข้มข้น
“นางเด็กนั่นช่างอกตัญญูอย่างยิ่ง พวกเราสกุลไป๋เลี้ยงนางมาตั้งสิบสองปี นางเสียอีก ตอนนี้มีชีวิตที่ดี กลับเตะพวกเราสกุลไป๋ออกจากชีวิต หรือว่านางจะลืมไปเสียแล้ว ว่าแซ่ที่นางใช้อยู่เป็นสกุลไป๋ที่มอบให้” หลิวซื่อกล่าว
เจ้าใหญ่กล่าวอย่างดุดัน “ทุกอย่างของนางล้วนเป็นของพวกเราสกุลไป๋ รวมถึงรถม้าคันเมื่อครู่นี้ สิ่งของเหล่านี้ ไม่ช้าก็เร็วต้องกลับคืนมาที่พวกเราทั้งหมด”
จางซื่อไม่คิดจะดับฝันของพวกเขา นางไม่มีทางปลุกคนที่กำลังฝันหวาน ไม่ใช่สิ เป็นคนที่กำลังหลับฝันหวานกลุ่มหนึ่งต่างหาก
หากจัดการไป๋จื่อได้ง่ายเช่นนั้น พวกเขาสกุลไป๋จะตกที่นั่งลำบากอยู่ในจุดนี้หรือ ก่อนหน้านี้ไป๋จื่อยังไม่สนิทสนมกับพวกใต้เท้าเมิ่ง พวกเขาก็สู้นางไม่ได้แล้ว วันนี้นางมีใต้เท้าเมิ่งเป็นที่พึ่งพิง พวกเขายังคิดจะลงมือกับนางอีกหรือ นี่ไม่ใช่คนโง่เอาแต่ฝันหรืออย่างไร
แน่นอน จะเป็นคนทั้งที มีความฝันใช่ว่าจะไม่ใช่เรื่องดี พวกเขาชอบฝัน เช่นนั้นก็ให้พวกเขาฝันไปเถอะ!
หลังจากรถม้าเข้าเมืองไป จนกระทั่งถึงด้านนอกที่ว่าการ เจ้าพนักงานที่อยู่ด้านนอกเป็นชายหนุ่มที่ครั้งก่อนนำนางไปหาใต้เท้าเมิ่งพอดี เขาจำไป๋จื่อได้ในทันที จึงยิ้มแป้นกล่าวว่า “นี่แม่นางไป๋ไม่ใช่หรือ ครั้งก่อนตอนที่เห็นหน้าเจ้า บนใบหน้าของเจ้ายังมีรอยฟกช้ำ ดูไม่ออกว่าแท้จริงแล้วหน้าตาเป็นอย่างไร คราวนี้รอยฟกช้ำหายไปแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าแท้จริงแล้วแม่นางจะงดงาม งดงามเสียยิ่งกว่าคุณหนูใหญ่ของพวกข้าอีก”
ไป๋จื่อหัวเราะ “ท่านอย่าพูดมั่วสิเจ้าคะ หากคุณหนูใหญ่ของท่านได้ยินเข้า ท่านคงต้องตกที่นั่งลำบากแน่”
ชายหนุ่มผู้นั้นก็หัวเราะเช่นกัน “ก็จริงของเจ้า คุณหนูใหญ่ของข้าเป็นคนใจแคบจริงๆ หากนางได้ยินคำพูดนี้เข้า ข้าคงไม่มีจุดจบที่ดีแน่นอน”
จากนั้นเขาก็กล่าวอีก “แม่นางไป๋มาหาใต้เท้าเมิ่งสินะ” แม่นางไป๋ผู้นี้ไม่เพียงช่วยชีวิตของคุณชายน้อย ยังรักษาใบหน้าของใต้เท้าเมิ่งจนหายดีแล้ว วิชาแพทย์ของนางยอดเยี่ยมยิ่ง เรื่องนี้ทุกคนในที่ว่าการอำเภอล้วนรู้ดี
……….
ตอนที่ 172 เอ็นข้อมือของเมิ่งหนานขาดแล้ว
ทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างออกรส ไป๋จื่อยิ่งยิ้มแป้นแล้น หูเฟิงเห็นแล้วไม่สบอารมณ์ จึงทำหน้าง้ำ ขมวดคิ้วกล่าวว่า “คุยเสร็จแล้วหรือยัง ไม่มีธุระต้องทำหรืออย่างไร
ไป๋จื่อหัวเราะแห้งๆ ให้เจ้าพนักงาน “รบกวนท่านนำทางข้าไปสักหน่อยแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา
อัพเดทตอนใหม่เมื่อไรค่ะ...
คุณแอดมินผู้ใจดี ช่วยอัพเดทตอนใหม่เยอะๆเลยนะคะ ชอบมาก สนุก พลีสสสสส...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
เอาใจช่วยหูเฟิงทวงคทนอำนาจนะ...
ถ้าพ่อไม่ถูกเมียรังแกจนเกือบตายก็คงไม่ตื่นสินะ...
ดีใจกับเสี่ยวเฟิง...