ตอนที่ 265 งานเลี้ยงอำลา
นางมองเหล่าพ่อครัวที่อยู่เบื้องหน้า พลางคิดถึงกลุ่มทำอาหารที่นางเจียดเวลาเรียนมหาวิทยาลัยไปเข้าร่วมขณะที่อยู่ในยุคปัจจุบัน คนที่เข้าร่วมกลุ่มไม่ได้มาเพื่อหาแฟนหนุ่ม แต่มาเพื่อเรียนวิธีการเป็นแม่บ้าน หรือไม่ก็คิดว่าจะเปิดร้านอาหารหลังจากเรียนจบแล้ว นอกจากนางแล้ว แทบจะไม่มีใครมาเรียนเพราะชอบทำอาหาร หรือชอบของอร่อยเลยสักคน สิ่งที่พวกเขาคิดอยู่ในใจมีมากมาย กระนั้นไม่มีความคิดใส่ใจการทำอาหารและทักษะการทำอาหารมากถึงขนาดนั้น
จนกระทั่งท้ายที่สุดแล้ว คนที่เข้าเรียนเพียงเทอมเดียวอย่างนนาง กลับได้ความรู้มากมาย และเรียนรู้ได้ดีกว่าคนที่เรียนถึงสี่ห้าเทอมเหล่านั้นเสียอีก
นางรู้สึกได้ถึงความตั้งใจและความกระตือรือร้นในการทำอาหารของพ่อครัวตรงหน้า ดังนั้นพวกเขาถึงได้เข้าใจแก่นสารและเคล็ดลับในคำพูดเพียงสองสามคำของนางได้มากกว่า
“ได้ช่วยพวกท่าน ข้าก็ดีใจมากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแตงดินหรือผักชนิดอื่น ต่างก็ไม่ได้มีวิธีการทำจำกัดอยู่แค่หนึ่งหรือสองประเภท คนที่เชี่ยวชาญในการทำอาหารจริงๆ จะสามารถใช้วัตถุดิบชนิดเดียวกันทำอาหารเลิศรสออกมาได้เต็มโต๊ะ ประเด็นสำคัญอยู่ที่การใช้ใจเรียนรู้ และทดลองอย่างกล้าหาญ ความสำเร็จทั้งหมดล้วนมาจากความผิดพลาดจำนวนนับไม่ถ้วนนั่นแหละเจ้าค่ะ”
“ดี พูดได้ดี!” เถ้าแก่เฉินเดินปรบมือเข้ามาในห้องครัว พลางมองไป๋จื่อด้วยแววตาทอประกาย เด็กสาวนางนี้อายุเพียงสิบสองสิบสามปีเท่านั้น แต่สิ่งที่นางพูดออกมากลับไม่เหมือนผู้ใด ในคำพูดเรียบง่ายของนางแฝงไปด้วยหลักการอันลึกซึ้ง แต่ไม่รู้ว่าเหล่าชายอกสามศอกร่างหนาเหล่านี้จะเข้าใจหรือไม่
ที่ตามหลังเถ้าแก่เฉินมายังมีอีกสองคน
เมิ่งหนานและหูเฟิง
เมิ่งหนานรีบมาถึงเบื้องหน้าของเถ้าแก่เฉิน ก่อนจะยื่นมือไปจับข้อมือของไป๋จื่อ “ข้ารู้ว่าวันนี้เจ้าจะมา จึงรีบทำธุระในศาลาว่าการให้เสร็จ โชคดีที่มาทันเวลา”
ไป๋จื่อยิ้มจาง ก่อนจะชักมือของตนเองกลับมาอย่างไม่ให้ผิดสังเกต “ท่านกินข้าวหรือยังเจ้าคะ”
เมิ่งหนานส่ายหน้า ขณะนี้เขามีสีหน้าน่าสงสารทีเดียว “ยังไม่ได้กินเลย พรุ่งนี้ข้าต้องเดินทางกลับเมืองหลวงแล้ว ในศาลาว่าการยังมีธุระมากมายที่ต้องจัดการให้ชัดเจน จึงยุ่งวุ่นวายอยู่ตลอดทั้งเช้า จนถึงตอนนี้แล้วยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย”
หูเฟิงที่ยังคงยืนอยู่ข้างหลังของเถ้าแก่เฉินพูดขึ้นมาในทันที “เมื่อครู่ไม่รู้ใครพูดว่ากินโจ๊กรังนกไปสามถ้วย จนตอนนี้ยังไม่หิวเลย”
เมิ่งหนานพลันยิ้มเก้ๆ กังๆ ขึ้นมา “ข้าล้อเล่น ตอนเช้าข้ายังไม่ได้กินอะไรเลยจริงๆ ไม่เชื่อเจ้าก็ถามจินเสี่ยวอันสิ”
เมื่อพูดถึงจินเสี่ยวอัน เขาก็หันไปมองเงาร่างของอีกฝ่าย แต่กลับพบว่าคนสนิทของตนกำลังกินแผ่นแป้งแตงดินกรอบนอกนุ่มในสีเหลืองทองอยู่ในห้องครัว ไหนเลยจะมีเวลาว่างมาพูดอะไรกับพวกเขา
เถ้าแก่เฉินหัวเราะอย่างเบิกบานใจ “พวกเจ้ากลับไปที่ห้องรับรองด้านบนก่อนเถอะ ตกลงกันไว้แล้ว วันนี้ข้าจะเป็นเจ้ามือเอง จัดงานเลี้ยงอำลาให้กับใต้เท้าเมิ่ง”
เมิ่งหนานย่อมขอให้เป็นเช่นนั้น มีไป๋จื่ออยู่ด้วย ไม่ว่านางทำอะไรล้วนอร่อยที่สุดอย่างแน่นอน
ทว่าไป๋จื่อยังไม่ทันจะถามว่าเขาอยากกินอะไร หูเฟิงก็เบียดมาถึงตรงหน้าของเถ้าแก่เฉิน มือข้างหนึ่งคว้าหมับไปที่ข้อมือของเด็กสาว “ยังตะลึงอะไรอยู่ ไปสิ!”
ไป๋จื่อยังไม่ทันได้คิดอะไร ชายหนุ่มก็ลากนางออกจากห้องครัวไปแล้ว
“เจ้าทำอะไร ข้ายังต้องทำอาหารให้พี่เมิ่งนะ”
หูเฟิงจูงมือนางเดินไปยังห้องรับรองที่อยู่ชั้นบน ขณะเดียวกันก็กล่าวโดยที่ไม่ได้หันหน้ากลับมา “มีพ่อครัวอยู่ตั้งเยอะแยะ เจ้าไม่ต้องทำหรอก อีกอย่างเจ้าก็ไม่ใช่แม่ครัวของเมิ่งหนาน เจ้าไม่ทำอาหารให้ เขาจะหิวตายหรืออย่างไร”
เมิ่งหนานตามออกมา เขาเหลือบเห็นหูเฟิงจับข้อมือของไป๋จื่อไว้แน่น แต่นางกลับไม่ดึงมืออก ราวกับว่าไม่มีความคิดจะดึงออกเลยด้วยซ้ำ
……….
ตอนที่ 266 เหตุใดไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นไท่จื่อ
เมื่อครู่นี้เขาก็จับข้อมือของนางเช่นกัน แต่นางกลับชักมือกลับไปในทันที
จินเสี่ยวอันกลืนแผ่นแป้งมันฝรั่งคอ แล้วตามหลังคุณชายของตนไป ครั้นเห็นเขายืนเหม่ออยู่ด้านล่างขั้นบันได เขาก็ถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจว่า “คุณชาย ท่านเป็นอะไรไป เหตุใดถึงเหม่อลอยเช่นนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา
อัพเดทตอนใหม่เมื่อไรค่ะ...
คุณแอดมินผู้ใจดี ช่วยอัพเดทตอนใหม่เยอะๆเลยนะคะ ชอบมาก สนุก พลีสสสสส...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
เอาใจช่วยหูเฟิงทวงคทนอำนาจนะ...
ถ้าพ่อไม่ถูกเมียรังแกจนเกือบตายก็คงไม่ตื่นสินะ...
ดีใจกับเสี่ยวเฟิง...