คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา นิยาย บท 369

ตอนที่ 369 ร่วมกองทัพ

พูดตามตรง การเก็บเกี่ยวข้าวสาลีสองหมู่แทบจะเป็นผลงานของเขากับฟู่กุ้ย แล้วผลลัพธ์เป็นอย่างไร สะใภ้ใหญ่ทำอาหารอยู่ในบ้าน ทั้งยังลอบซ่อนไว้ให้บุตรชายทั้งสองคนกินในตอนเย็นอีก ส่วนเขากับฟู่กุ้ยกลับต้องหิวตลอดทั้งคืนเพราะกินไม่อิ่ม

มีเหตุผลอะไรให้เขาอยากใช้ชีวิตเช่นนี้ต่อไปกัน ไม่มีเหตุผลให้อยู่ต่อไปอีกแล้ว

หลิวซื่อร้อนใจยิ่งนัก รีบไปดึงแขนเสื้อของหญิงชรา ก่อนจะขยิบตาให้นาง บ้านนี้ไม่อาจแบ่งแยกได้อีก หากพวกเขาแยกบ้านออกไปแล้ว ใครจะเป็นคนทำงานทั้งในและนอกบ้าน

จางซื่อดีใจจนแทบจะเต้นระบำ นางอดทนมานานนัก รอคอยมานานถึงเพียงนี้ เฝ้ารอวันที่เจ้ารองตาสว่างเสียที นางรอวันที่จะได้แยกบ้านกับบ้านใหญ่ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงแล้ว

หญิงชราแค่นหัวเราะ “อยากแยกบ้าน? รอข้าตายก่อนค่อยว่ากัน”

เจ้ารองก็แค่นหัวเราะเช่นกัน “แยกบ้านก็ต่างคนต่างอยู่ ไม่ยุ่งเกี่ยวซึ่งกันและกัน หากไม่แยกบ้าน เช่นนั้นข้าก็จะไม่ทำงานทั้งในและนอกบ้านแม้สักนิด ภรรยาและบุตรชายของข้าก็เช่นกัน พวกท่านทำเองแล้วกัน”

“ไม่ทำงานก็อย่าได้คิดจะกินข้าว” หลิวซื่อร้อนรนนัก

เจ้ารองกล่าวเสียงเย็น “ปกติพวกเจ้าบ้านใหญ่ก็ไม่เห็นจะทำงานอยู่แล้ว พวกเจ้ามีสิทธิ์อะไรใช้ของกงสี พวกเจ้าเกิดมาสูงส่งกว่าพวกข้าหรือไร”

ใบหน้าของเจ้าใหญ่เต็มไปด้วยอารมณ์โมโห “เจ้ารอง เจ้าจะพูดอะไรต้องรู้จักบาปบุญคุณโทษนะ พวกข้าบ้านใหญ่ไม่ทำงานตรงไหน ต้าเป่าก็ตามพวกเจ้าไปเก็บข้าวสาลีในนาไม่ใช่หรือ เขาเป็นตัวแทนของบ้านใหญ่อย่างพวกข้าไม่ใช่หรือไร”

เจ้ารองยิ้มเย็น “ต้าเป่า? เฮอะ…เจ้าน่าจะรู้จักบุตรชายของตนเองดีไม่ใช่หรือ เขามีนิสัยชอบทำงานหรือไร เขาเคยทำงานจริงๆ สักวันหรือไม่ ฟู่กุ้ยของข้าเกี่ยวข้าวสาลีไปสิบแถว แล้วเขาเกี่ยวเสร็จสักแถวหรือไม่ นั่นยังเรียกว่าทำงานอยู่รึ”

“หากพวกเจ้าไม่เชื่อก็ถามเขาเอง ทีแรกข้าไม่อยากจะพูด เพราะถึงอย่างไรเสียก็เป็นครอบครัวเดียวกัน และข้าไม่ได้มีความคิดจะแยกบ้านมากขนาดนั้น แต่วันนี้นับว่าข้าตาสว่างแล้ว ข้าเจ้ารองเห็นพวกเจ้าเป็นคนในครอบครัว แต่พวกเจ้ากลับไม่เห็นข้าเป็นคนในครอบครัวของตนเอง”

หญิงชราเห็นบุตรชายของตนเองโมโหจริงๆ แล้ว นางกลัวว่าเรื่องราวจะบานปลาย จึงกล่าวเสียงอ่อน “เจ้ารอง เจ้าพูดเช่นนี้ได้อย่างไร ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่หรือ ไยจู่ๆ ถึงพูดจาเช่นนี้ หรือมีคนคอยชี้นำเจ้าอยู่เบื้องหลัง” นางพูดพลางชำเลืองมองจางซื่อ เจตนาชัดเจนจนไม่ต้องพูดออกมา

นางก็แปลกใจเช่นกัน เพราะนิสัยของเจ้ารองต่างจากในอดีต เขาไม่ได้เชื่อฟังนางมากขนาดนั้นแล้ว

เจ้ารองกล่าว “ท่านแม่ ท่านอย่าได้มองภรรยาข้า นางไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น ข้าไม่ใช่คนโง่ แต่เป็นคนที่มีเลือดเนื้อ ผู้ใดจริงใจ ผู้ใดเสแสร้ง ข้าล้วนแยกแยะได้ทั้งสิ้น”

เขากวาดสายตามองพี่ใหญ่และสะใภ้ใหญ่ครั้งหนึ่งอย่างเยือกเย็น “หากเป็นพี่น้องของข้าจริง จะให้ข้าไปร่วมกองทัพได้อย่างไร ให้ข้าไปไม่พอ ยังให้บุตรชายของข้าไปอีก หากเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกข้าบ้านรองไม่เท่ากับไร้คนสืบสกุลเลยหรือ พวกเจ้าบ้านใหญ่รวมกันแล้วมีบุรุษถึงสามคน เหตุใดพวกเจ้าไม่ไปบ้าง อายุของฟู่กุ้ยยังไม่มากพอด้วยซ้ำไป พวกเจ้าจะให้ปลอมอายุไปร่วมกองทัพหรือไร เหตุใดไม่ให้ต้าเป่าที่อายุมากพอไปเล่า ชีวิตของบุตรชายเจ้าคือชีวิต แล้วชีวิตของบุตรชายข้าเป็นขี้หมูราขี้หมาแห้งรึ”

หญิงชรารีบกล่าว “เอาล่ะๆ เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ ไม่ไปก็ไม่ไป ไม่มีใครบังคับให้พวกเจ้าไป ก็แค่หารือกันเท่านั้น หากพวกเจ้าไม่อยากไป เช่นนั้นก็ช่างเถอะ ไม่ต้องพูดเรื่องนี้กันอีกแล้ว” นางต้องสงบไฟโทสะของเจ้ารองเสียก่อน ไม่เช่นนั้นหากเขามุ่งมั่นจะแยกบ้านจริงๆ บ้านนี้ไม่เท่ากับแตกหักกันเลยหรือ คนในหมู่บ้านจะต้องหัวเราะเยาะนางเป็นแน่

……….

ตอนที่ 370 ตั้งกฎให้บ้านรอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา