ตอนที่ 393 รับผิดชอบผลลัพธ์ด้วยตนเอง
หลิวซื่อโมโหจนพูดไม่ออก ทว่าไป๋จื่อกลับพูดต่ออีกว่า “พวกเจ้าหาเรื่องพวกข้าด้วยเป้าหมายต่างๆ อยู่เสมอ มีลูกไม้มากมายไม่จบสิ้น ข้าว่าละครในโรงละครยังลื่นไหลไม่เท่าสมองพวกเจ้าเลย ร้องละครออกมาได้มากขนาดนี้ ทั้งยังไม่ซ้ำรูปแบบเดิมอีก ทำให้คนในหมู่บ้านอย่างพวกข้าอิ่มเอมใจเสียจริง”
เหล่าชาวบ้านกลั้นไว้ไม่อยู่ พากันหัวเราะออกมา
ไป๋จื่อเห็นสองแม่สามีและลูกสะใภ้ที่อยู่เบื้องล่างตัวสั่นด้วยความโมโห จึงกล่าวเสียงเย็นว่า “ไม่ว่าจะพูดเป็นพันหรือเป็นหมื่นครั้ง สุดท้ายเป้าหมายของพวกเจ้าก็คือต้องการเงินไม่ใช่หรือ ข้าไป๋จื่อมีเงิน และข้าไม่ใช่คนขี้งก เอาชีวิตรอดบนโลกใบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย มีบ้านไหนไม่ลำบากบ้างเล่า ข้ายินดีที่จะช่วย เพราะฉะนั้นข้าไม่ใช่คนใจดำแน่นอน”
นางค่อยๆ นั่งยองลง ร่นระยะห่างระหว่างนางและหญิงชรากับหลิวซื่อ ในดวงตาคู่งามเต็มไปด้วยความดุดัน
“แต่ข้าไป๋จื่อไม่ใช่กระต่ายอ้วน ไม่ใช่ว่าใครมาขอเงินจากข้า ข้าก็จะให้ทั้งหมด โดยเฉพาะกับคนที่มีความอาฆาตแค้นกับข้า เพราะคนพรรค์นั้นถึงแม้จะหิวตายอยู่ตรงหน้าข้า ข้าก็จะไม่ให้พวกนางกินน้ำแม้สักคำ”
หญิงชราโกรธเกรี้ยวจนแทบจะกระอักเลือดออกมา นิ้วมือของนางที่ชี้ไปยังไป๋จื่อสั่นเทา ปากที่พูดจาก็สั่นเครือไม่หยุดหย่อน “จะ เจ้ามันคนอกตัญญูไม่มีหัวใจ พวกข้า พวกข้าสกุลไป๋เลี้ยงเจ้ามาตั้งหลายปี เจ้า…”
ไป๋จื่อขัดจังหวะอีกฝ่าย “ข้าจะไม่โต้เถียงกับพวกเจ้า ว่าแท้จริงแล้วเลี้ยงดูข้าไป๋จื่อหรือไม่ ทว่าตั้งแต่ที่พวกเจ้าสองแม่สามีและลูกสะใภ้ตีข้าจนตายเพื่อเงินสิบตำลึงเงิน ข้าก็ถือว่าตนเองไม่มีความเกี่ยวข้องใดกับพวกเจ้าแล้ว ไป๋จื่อที่รอดชีวิตมาได้ไม่ใช่ไป๋จื่อคนเดิมอีกต่อไป ข้ามีเพียงท่านแม่เป็นญาติเพียงคนเดียว ส่วนพวกเจ้าเป็นคู่อริของข้า ข้าไม่แก้แค้นพวกเจ้า พวกเจ้าก็ควรซาบซึ้งใจถึงจะถูก แต่พวกเจ้ากลับมาหาข้าถึงที่โดยที่ไม่รู้จักอายครั้งแล้วครั้งเล่า สร้างความลำบากให้ข้า วันนี้ข้าไป๋จื่อขอยื่นคำขาด ณ ตรงนี้ หากพวกเจ้ากล้ามาหาเรื่องข้าอีก ก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจก็แล้วกัน”
เด็กสาววัยสิบสามปี ใบหน้ายังเล็กจ้อยอยู่แท้ๆ ทว่าบนดวงหน้างดงามนั้นกลับระเบิดวาจาแฝงโทสะที่มีแต่ผู้ใหญ่ถึงจะทำได้ออกมา
หญิงชราและหลิวซื่อหวาดหวั่นจนพูดไม่ออก เพราะสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของไป๋จื่อ ทำเอาพวกนางลืมเรื่องที่จะรีดไถเงินจากนางไปโดยปริยาย พากันตัวสั่นถอยหลังไปหลายก้าว
ผู้คนต่างก็เงียบกริบ ใครจะไปจินตนาการออกว่าไป๋จื่อที่ปกติใจเย็น มีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าจะมีสีหน้าอำมหิตเช่นนี้ได้ด้วย
การข่มขู่ไม่ใช่นิสัยของไป๋จื่อมาแต่ไหนแต่ไร นางมักจะมีคุณธรรมอยู่ในหัวใจ ทำอะไรล้วนมีเหตุผล จัดการทุกปัญหาด้วยความสงบเยือกเย็น
แต่วันนี้นางเริ่มพบว่าการพูดจาด้วยเหตุผลเหมือนจะไม่ใช่หนทางที่ดีที่สุด คนส่วนใหญ่ที่นี่ชอบไม้แข็ง หากใช้ไม้อ่อน พวกเขาจะคิดว่านางอ่อนแอ คิดว่านางกำลังยอมให้ พวกเขาจะฉวยโอกาสรุกคืบเข้ามา บีบบังคับให้นางจำต้องสู้กลับ จำต้องปั้นหน้าเคร่งแสดงอำนาจบ้าง
นางไม่เพียงพูดวาจาเหล่านี้ให้สตรีชั่วช้าจากสกุลไป๋ฟัง ยิ่งไปกว่านั้นคือนางพูดให้คนทั้งหมู่บ้านได้ยิน มีเพียงทำเช่นนี้เท่านั้น คนที่หมายจะฉวยโอกาสถึงจะตาสว่าง และสำรวมอาการขึ้นมาบ้าง
ไป๋จื่อกระโดดลงจากบนรถม้าด้วยตนเอง ก่อนจะสาวเท้าไปถึงตรงหน้าพวกนางทั้งสองคนทีละก้าว พร้อมทั้งกล่าวเสียงขรึม “จำไว้นะ อย่าได้มาหาเรื่องข้าอีก ไม่เช่นนั้นก็เตรียมรับผิดชอบผลลัพธ์ด้วยตนเองเสีย!”
ครั้นกล่าวจบ นางก็ไม่สนใจสายตาหวั่นเกรงของหญิงชราและหลิวซื่อ หมุนกายกลับไปที่หน้ารถม้า พูดกับคนที่อยู่ข้างในว่า “ท่านแม่ พวกท่านออกมาเถอะ”
จ้าวหลานและคนอื่นๆ ออกมาจากในรถม้า อาอู่ไปผูกม้า ส่วนไป๋จื่อพาทุกคนเข้าไปในเรือน ไม่มองสตรีสองคนจากสกุลไป๋แม้อีกสักครั้ง
“ท่านหัวหน้าหมู่บ้าน จื่อเอ๋อร์มีธุระอยากจะปรึกษาท่าน เชิญเข้าไปนั่งคุยในเรือนเถอะเจ้าค่ะ” จ้าวหลานกล่าวกับหัวหน้าหมู่บ้าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา
อัพเดทตอนใหม่เมื่อไรค่ะ...
คุณแอดมินผู้ใจดี ช่วยอัพเดทตอนใหม่เยอะๆเลยนะคะ ชอบมาก สนุก พลีสสสสส...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
เอาใจช่วยหูเฟิงทวงคทนอำนาจนะ...
ถ้าพ่อไม่ถูกเมียรังแกจนเกือบตายก็คงไม่ตื่นสินะ...
ดีใจกับเสี่ยวเฟิง...