คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา นิยาย บท 403

ตอนที่ 403 ประจบ

เซียวอ๋องยกจอกสุรา สายตามองไปยังเมิ่งหนานที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “นี่คงจะเป็นคุณชายสกุลเมิ่งกระมัง รูปงามสมคำร่ำลือ ท่าทางไม่ธรรมดา!”

เมิ่งหยวนเต๋อยิ้มอย่างภาคภูมิใจ หน้าตาและนิสัยของบุตรชายตนคนนี้ อย่าว่าแต่เป็นหนึ่งในบรรดาคุณชายของเมืองหลวงเลย แม้นั่งอยู่ท่ามกลางเหล่าองค์ชายทั้งหลาย เขาก็ไม่ด้อยไปกว่าใครแน่นอน

“ท่านอ๋องชมเกินไปแล้ว บุตรชายของข้าหน้าตาธรรมดาทั่วไป ได้รับคำชมจากท่านอ๋องเช่นนี้ ทำเอาข้าอับอายแล้วขอรับ” เมิ่งหนานเต๋อกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

จากนั้นเมิ่งหนานเต๋อก็ยกเท้าเตะเมิ่งหนานที่กำลังอยู่ในภวังค์

“ดูท่าทางคุณชายเมิ่งจะมีเรื่องในใจนะ” เซียวอ๋องเอ่ย

เมิ่งหนานพลันดึงสติกลับมา รีบยกมือขึ้นคารวะ ก่อนจะยกจอกสุราขึ้น พลางยิ้มให้เซียวอ๋องอย่างอบอุ่น “ได้ยินเกียรติศัพท์ของเซียวอ๋องมานานแล้ว วันนี้โชคดีได้พบหน้า ได้ร่วมกินดื่มกับท่าน ข้าทั้งซาบซึ้งและหวาดหวั่นอยู่ในที จึงเสียกิริยาไปชั่วขณะ หวังว่าท่านอ๋องจะไม่ถือโทษ ข้าขอคารวะท่านก่อนหนึ่งจอก” ครั้นกล่าวจบ เมิ่งหนานก็เงยหน้าดื่มสุราในจอกจนหมดในคราวเดียว

ทุกคนชอบฟังวาจารื่นหูเช่นนี้ เซียวอ๋องก็ไม่ยกเว้น

เมิ่งหนานกล่าวประจบเขาเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกสบายใจนัก ถึงอย่างไรสกุลเมิ่งก็ไม่ใช่ครอบครัวธรรมดาทั่วไป

เมิ่งหยวนเต๋อเป็นผู้ช่วยเจ้ากรมโยธาธิการระดับสอง แม้ตำแหน่งนี้จะไม่มีค่าในสายตาของเซียวอ๋องเท่าไรนัก ทว่าบิดาของเมิ่งหยวนเต๋อ เมิ่งจ่างสยงกลับเป็นราชครูระดับหนึ่ง และเป็นหนึ่งในคนที่เสด็จพ่อเชื่อใจมากที่สุด ในปีนั้นเสด็จพ่อต่อต้านความเห็นของคนหมู่มากด้วยฐานะขององค์ชายที่เหนือว่าไท่จื่อ หนึ่งคนที่ให้ความช่วยเหลือพระองค์มากที่สุดในการขึ้นครองราชย์ ก็คือราชครูเมิ่งจ่างสยง

จนบัดนี้เสด็จพ่อก็ยังคงเรียกเขาว่าราชครูดังเดิม

หลังจากเสด็จพ่อขึ้นครองราชย์ได้ไม่นาน ก็รับบุตรีเพียงคนเดียวของราชครูเข้าวัง แต่งตั้งให้นางเป็นเจาอี๋ เมื่อนางให้กำเนิดองค์หญิงแล้ว พระองค์จึงพระราชทานตำแหน่งซูเฟยให้ ผ่านไปหลายปีก็ยังไม่มีท่าทีจะคลอดองค์ชายออกมา ไม่รู้ว่าท้องของนางไม่แข็งแรง หรือวิธีการของฮองเฮารุนแรงเกินไป สุดท้ายแล้วจึงให้กำเนิดองค์ชายไม่ได้ ไม่เช่นนั้นวันนี้เขาคงจะต้องมีศัตรูเพิ่มมาอีกหนึ่งคนเป็นแน่

หลายปีมานี้สกุลเมิ่งขยายอำนาจในเมืองหลวงขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีตระกูลบุญหนักศักดิ์ใหญ่ใดเทียบเคียงอิทธิพลได้แล้ว เสด็จแม่กล่าวเตือนเขาอยู่เสมอ ว่าหากอยากทำงานใหญ่สำเร็จ จะต้องดึงสกุลเมิ่งมาเป็นพรรคพวกของตนเองให้ได้ ขอเพียงได้รับการรับการสนับสนุนของเมิ่งจ่างสยง ให้เขาช่วยโน้มน้าวต่อหน้าเสด็จพ่ออย่างเต็มกำลัง มีหรือยังจะต้องกังวลว่างานใหญ่จะไม่สำเร็จ

รอยิ้มบนใบหน้าของเซียวอ๋องยิ่งเบ่งบาน มือที่ประคองจอกสุรายกขึ้นเล็กน้อย “คุณชายเมิ่งเกรงใจเกินไปแล้ว!” ครั้นกล่าวจบ เขาก็ยกจอกขึ้นดื่มสุราจนเกลี้ยง ทุกคนจึงพากันชำเลืองสายตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา มองไปยังเมิ่งหนานอย่างอดไม่ได้

ตั้งแต่เริ่มงานเลี้ยง มีคนมาขอดื่มเคารพเซียวอ๋องอยู่ไม่น้อย เซียวอ๋องล้วนจิบสุราเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทว่าคุณชายเมิ่งเพิ่งกล่าววาจาออกมาเพียงประโยคเดียว เซียวอ๋องก็ดื่มสุราจนหมดจอกในคราวเดียวแล้ว การกระทำเช่นนี้เกรงว่าจะมีแต่สกุลเมิ่งเท่านั้นที่จะได้รับ

เมิ่งหนานเต๋อยิ่งกระหยิ่มยิ้มย่อง รู้สึกพึงพอใจอย่างยิ่งยวด บุตรชายของตนไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ รู้ประสามากกว่าแต่ก่อนทีเดียว

เมื่องานเลี้ยงจบลง ทุกคนต่างก็เมามาย แต่เมิ่งหนานกลับตื่นเต็มตาเป็นพิเศษ แทนที่จะบอกว่าเขาคอแข็ง สู้บอกว่าเขาไม่กล้าดื่มจนตัวเองเมาเสียยังดีกว่า

เขาคิดเรื่องของหูเฟิงไม่ตก หากดื่มจนเมาแล้ว อาจจะกล่าววาจาที่ไม่ควรออกมาก็ได้ และผลที่ตามมาก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะจินตนาการได้เลย

บนรถม้าขณะกลับจวน เมิ่งหนานเต๋อเอนกายพิงตัวรถ หลับตาพักผ่อน วันนี้เขามีอารมณ์ดีไม่น้อย จึงดื่มสุราเข้าไปหลายจอก เวลานี้รู้สึกเวียนหัวตาลาย ขาทั้งสองข้างไร้เรี่ยวแรง ทรมานยิ่งนัก

เมิ่งหนานรู้ว่าเขาไม่ได้กำลังนอนหลับ หลังจากข่มใจอยู่ครู่หนึ่งแล้ว ในที่สุดเขาก็ทนไม่ได้ “ท่านพ่อ ในเมื่อฝ่าบาทแต่งตั้งฉุนเฟยเป็นฮองเฮาแล้ว เหตุใดไม่แต่งตั้งเซียวอ๋องเป็นไท่จื่อเลยเล่า”

เมิ่งหยวนเต๋อเปิดเปลือกตาเป็นซอกเล็กๆ ในรถม้ามืดนัก บวกกับอาการตาลายจาฤทธิ์สุรา ไม่ว่าจะพยายามมากเพียงใดก็มองใบหน้าของบุตรชายไม่ชัดเจน

“ไยเจ้าถึงถาม” เมิ่งหยวนเต๋อถามกลับ

……….

ตอนที่ 404 สวรรค์ไม่เป็นใจ

เมิ่งหนานยิ้มจาง “ข้าเพียงอยากรู้เท่านั้น ดูจากท่าทีในวันนี้แล้ว เซียวอ๋องมีพรรคพวกอยู่ในราชสำนักไม่น้อยเลย ทั้งยังกุมอำนาจกองกำลังทหาร องค์ชายคนอื่นไม่มีทางเทียบกับเขาได้โดยสิ้นเชิง ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เหตุใดไม่แต่งตั้งให้เขาเป็นไท่จื่อไปเลยเล่า ถือเป็นการตัดหนทางขององค์ชายคนอื่นไปด้วย”

เมิ่งหยวนเต๋อถอนใจเบาๆ เสียงหนึ่ง “ว่ากันว่าฝ่าบาทโปรดปรานฉุนเฟย จึงพระราชทานตำแหน่งฮองเฮาให้ ใช้เซียวอ๋องเพื่อเพิ่มอำนาจให้ตนเอง แต่ความจริงแล้วในหัวใจของฝ่าบาทมีเพียงจิ้นอ๋อง ไม่เช่นนั้นอิทธิพลของเซียวอ๋องในตอนนี้มากมายนัก ไยฝ่าบาทไม่ทรงล่องเรือตามน้ำ แต่งตั้งเขาเป็นไท่จื่อไปให้สิ้นเรื่อง”

“ในเมื่อฝ่าบาทมีใจเอนเอียงไปทางจิ้นอ๋อง ไยถึงส่งจิ้นอ๋องออกจากวังไปตั้งแต่เล็กเล่าขอรับ แล้วเหตุใดถึงให้เขาไปรบตั้งแต่อายุยังน้อย จนสุดท้ายเขาต้องมีสภาพเช่นนั้น!” เมิ่งหนานไม่เข้าใจ

ผู้เป็นบิดาถอนใจเสียงหนึ่ง “เจ้าไม่รู้อะไร ฝ่าบาทเองก็ทรมานใจนัก ที่พระองค์ส่งจิ้นอ๋องออกจากวังไป ก็เพื่อให้เขาหลีกลี้การต่อสู้ที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดในราชสำนัก ขณะเดียวกันก็ให้เขาเรียนวิชาเพื่อป้องกันตนเอง ไม่ต้องยืนอยู่ท่ามกลางการต่อสู้เข่นฆ่าของเหล่าพี่น้อง ส่วนที่ส่งเขาไปยังสนามรบ ก็เพราะอยากให้เขาได้ฝึกฝนฝีมืออย่างหนัก ได้รับอำนาจที่เป็นของเขาเอง”

“จิ้นอ๋องเองก็ทำได้ดีมาก เจ็ดปีต่อมาเขาได้รับชัยในสงครามทางตะวันตก ควบคุมทั้งสามเหล่าทัพ แม้ฝ่าบาทจะไม่ได้เอ่ยชม ทว่าก็มีคนในราชสำนักเอ่ยถึงคุณงามความดีของเขาทุกครั้งไป ไม่ว่าพระองค์จะปกปิดความปีติบนพระพักตร์อย่างไรก็ไม่มิด เก่งกาจทั้งบุ๋นและบู๋เช่นนี้ ไหนเลยฝ่าบาทจะไม่โปรดปรานได้”

“น่าเสียดายนัก น่าเสียดาย…” คำว่าน่าเสียดายของเมิ่งหยวนเต๋อนั้น เป็นการแสดงความเสียใจจากใจจริง เมิ่งหนานรู้ใจของบิดาดี จึงเอาแต่คิดจะส่งเสริมให้จิ้นอ๋องได้ตำแหน่งไท่จื่อ นี่ไม่ได้เป็นความปรารถนาของท่านพ่อเพียงคนเดียว ยิ่งเป็นความปรารถนาของฝ่าบาทอีกด้วย

เมิ่งหนานถามอีกว่า “แม้จะว่าพูดเช่นนั้น แต่ถึงอย่างไรจิ้นอ๋องก็หายตัวไปแล้ว ในบรรดาองค์ชายทั้งหมดในตอนนี้ ตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดเกรงว่าจะเป็นเซียวอ๋อง แม้แต่พวกข้าเองก็ดูออก ฝ่าบาทจะดูไม่ออกเลยหรือ ไยฝ่าบาทไม่ยอมแต่งตั้งเซียวอ๋องเป็นไท่จื่อเสียที”

เมิ่งหยวนเต๋อเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่ในที่สุดจะผ่อนลมหายใจออกมา “เดิมทีข้าไม่ควรพูดหรอกนะ แต่ในเมื่อเจ้ากลับมาที่เมืองหลวงแล้ว ต่อไปความก้าวหน้าหรือถดถอยของสกุลเมิ่งล้วนอยู่ในกำมือของเจ้า ข้าจึงคิดว่าเจ้าควรจะเข้าใจเรื่องเหล่านี้ไว้”

“เจ้าก็รู้ว่าปู่ของเจ้ากับฝ่าบาทไม่ได้มีความสัมพันธ์เป็นแค่ข้าราชบริพารกับผู้ปกครองแว่นแคว้น แต่ยังเป็นอาจารย์ของฝ่าบาทด้วย ระหว่างพวกเขาแทบจะรู้ใจกันทุกเรื่อง ปู่ของเจ้าก็เคยพูดถึงเรื่องนี้กับข้าเช่นกัน”

เขาพลันลดเสียงลง “แม้ฝ่าบาทจะแต่งตั้งฉุนเฟยเป็นฮองเฮาแล้ว แต่กลับแต่งตั้งเซียวอ๋องเป็นแค่ชินอ๋อง ไม่เอ่ยถึงเรื่องแต่งตั้งไท่จื่อ ความจริงแล้วพระองค์ยังหวังว่าสักวันจิ้นอ๋องจะกลับมา ตำแหน่งไท่จื่อนี้ ฝ่าบาทคิดจะเก็บไว้ให้จิ้นอ๋องเท่านั้น”

สีหน้าของเมิ่งหนานเปลี่ยนไปเล็กน้อย “หมายความว่า เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจิ้นอ๋องจะยังมีชีวิตอยู่อย่างนั้นหรือ”

เมิ่งหยวนเต๋อส่ายหน้า “เรื่องนั้นนับว่าพูดยาก เรื่องการหายตัวไปของจิ้นอ๋องมีลับลมคมในนัก เป็นตายยากคาดเดา ทว่าหากเขายังมีชีวิตอยู่ เหตุใดถึงไม่ปรากฏตัวเลยตลอดสามปี ข้าเกรงว่าเขาจะกลับมาไม่ได้แล้วล่ะ”

นี่เป็นเหตุผลที่เขาตัดสินใจเข้าหาเซียวอ๋อง ในเมื่อจิ้นอ๋องกลับมาไม่ได้แล้ว เช่นนั้นไม่ช้าก็เร็วเซียวอ๋องจะขึ้นเป็นไท่จื่อ ถึงแม้ฝ่าบาทจะไม่แต่งตั้งตำแหน่งให้ แต่ก็ไม่มีทางขัดขวางงานใหญ่ของเขาแน่

ในห้วงความคิดของเมิ่งหนานปรากฏใบหน้าของหูเฟิงอย่างต่อเนื่อง หูเฟิงกับจิ้นอ๋อง ระหว่างทั้งสองคนนี้มีความเกี่ยวข้องอะไรกันหรือไม่

หมู่บ้านหวงถัวตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ห่างจากสนามรบบริเวณชายแดนไม่ถึงร้อยลี้ ทุกอย่างนี้คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกกระมัง

“วันนี้เจ้าดูแปลกไปนะ มีเรื่องอะไรปิดบังข้าไว้ใช่หรือไม่” เมิ่งหยวนเต๋อพลันลืมตา จับจ้องเมิ่งหนานด้วยสายตาเข้มงวด

เมิ่งหนานยิ้มเจื่อน “ข้าจะมีเรื่องใดปิดบังท่านได้ ท่านเห็นการกระทำทุกอย่างของข้าชัดเจนดีไม่ใช่หรือไร”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา