คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา นิยาย บท 405

ตอนที่ 405 เจ้ามีเรื่องในใจเช่นกันหรือ

ตกดึก เมิ่งหนานพลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับ จนในที่สุดก็ลุกขึ้นมาสวมเสื้อ

ครั้นเปิดหน้าต่างออก ดวงจันทร์ข้างนอกค่อนข้างกลมโต ส่องสว่างสิ่งต่างๆ ในลานชัดเจน มีเงาร่างที่คุ้นเคยสายหนึ่งกำลังนั่งร่ำสุราชมจันทร์อยู่ในลานบ้านด้วย

เขารีบเปิดประตูเดินออกไป “เจ้าช่างร้ายกาจนักจินเสี่ยวอัน ดื่มสุราไม่เรียกข้าเลย” เขาเดินไปนั่งลงข้างๆ โต๊ะ ก่อนจะรินสุราจอกหนึ่งให้ตนเองอย่างรวดเร็ว

จินเสี่ยวอันว่องไวนัก ขณะที่ได้ยินเสียงเปิดประตูดังมาจากข้างหลัง เขาก็รีบซ่อนไก่ย่างกลิ่นหอมฉุยไว้ใต้โต๊ะเรียบร้อยแล้ว

“คุณชาย ไยท่านถึงออกมา นอนไม่หลับเช่นกันหรือขอรับ”

เมิ่งหนานยกจอกสุราขึ้น เลิกคิ้วเล็กน้อย “เช่นกัน? หมายความว่าเจ้าเองก็นอนไม่หลับสินะ มีเรื่องในใจหรือ”

อีกฝ่ายส่ายหน้า “ข้าไม่ได้มีเรื่องอะไรในใจ ข้าเพียงกินข้าวเย็นไม่อิ่ม จึงหิวจนกระสับกระส่าย แหะๆ…”

คุณชายเมิ่งนึกขึ้นได้ว่าวันนี้จินเสี่ยวอันก็ไปร่วมงานเลี้ยงกับเขาด้วย ทว่าก็ทำได้เพียงคอยท่าอยู่ด้านนอก เกรงว่าแม้แต่น้ำสักอึกก็ไม่ได้ดื่มกระมัง

เขาชี้ไปยังมือของจินเสี่ยวอันที่ซ่อนอยู่ใต้โต๊ะ “ไม่ต้องซ่อนหรอก ข้าเห็นหมดแล้ว ไม่ใช่ไก่ย่างหรือไร แบ่งให้ข้าครึ่งหนึ่งสิ พรุ่งนี้ข้าจะคืนให้เจ้าสองตัว”

จินเสี่ยวอันรีบส่ายหน้า “ไม่ได้ ตัวเดียวนี้ข้ายังไม่พอกินเลย ขืนแบ่งให้ท่านครึ่งหนึ่งแล้ว ข้าจะไม่หิวตายหรือขอรับ”

เมิ่งหนานลูบท้องที่ร้องจ๊อกๆ ถอนใจกล่าวว่า “หากข้าไม่หิว ข้าคงไม่ขออาหารจากเจ้ากินหรอก”

องครักษ์คนสนิทถลึงตา “ท่านกินข้าวเย็นแล้วไม่ใช่หรือ มีแต่อาหารเลิศหรูและหลากหลาย ข้าเห็นกับตาว่าพวกเด็กๆ ยกอาหารจานแล้วจานเล่าเข้าไป ท่านอย่าบอกว่าท่านไม่ได้กิน!”

“ไม่ได้กินจริงๆ ข้าดื่มเหล้าไปหลายจอกทั้งๆ ที่ท้องว่าง ตอนนี้ข้ารู้สึกร้อนในท้องเป็นอย่างยิ่ง เร็วเข้าเถอะ แบ่งให้ข้าครึ่งหนึ่ง พรุ่งนี้ข้าคืนให้เจ้าสามตัวเลยดีหรือไม่” เมิ่งหนานกล่าวด้วยสีหน้าทรมาน

จินเสี่ยวอันจนใจ ทำได้เพียงนำไก่ย่างที่เพิ่งกินไปได้ปีกเดียวออกมา

เมิ่งหนานเองก็ไม่เกรงใจ เขายื่นมือไปดึงน่องไก่ข้างที่ใหญ่ที่สุดขึ้นมาแทะกิน

เมื่อเห็นดังนั้น จินเสี่ยวอันก็รีบดึงน่องไก่อีกข้างมาไว้ในมือ หลังจากกัดไปคำหนึ่งแล้ว เขาถึงจะถามด้วยความสบายใจว่า “คุณชาย ข้าว่าท่านดูเหมือนมีเรื่องในใจนะขอรับ!”

คุณชายเมิ่งช้อนสายตามองคนสนิท “ใช้ได้เลยนะจินเสี่ยวอัน เจ้ามีพัฒนาการทีเดียว คุณชายอย่างข้ามีเรื่องในใจ เจ้าก็ดูออกเช่นกันสินะ”

จินเสี่ยวอันหัวเราะแหะๆ “แน่นอนขอรับ เพียงแค่คุณชายขมวดคิ้ว ข้าก็รู้แล้วว่าคุณชายกำลังทุกข์ใจอยู่”

เมิ่งหนานกัดเนื้อน่องไก่เข้าปาก พร้อมกับพูดว่า “เช่นนั้นเจ้าลองบอกข้าสิ ว่าข้ากำลังทุกข์ใจเรื่องอะไรอยู่”

“ยังต้องพูดอีกหรือขอรับ ท่านต้องทุกข์ใจเรื่องที่แม่นางไป๋ยังไม่ตอบจดหมายท่านอยู่แน่ๆ!” จินเสี่ยวอันเอ่ยพร้อมรอยยิ้มภูมิใจ

“คราวนี้เจ้าเดาผิดแล้ว วันนี้ข้าไม่ได้ทุกข์ใจเรื่องนั้น” เมิ่งหนานโบกมือ

“ไม่ใช่เรื่องนี้หรือ แล้วเป็นเรื่องอะไรกัน” จินเสี่ยวอันมองคุณชายของตนอย่างไม่เข้าใจ ตั้งแต่คุณชายกลับมาที่เมืองหลวง เขาก็คิดคำนวณอยู่เพียงเรื่องเดียว นั่นก็คือหาวิธีการหลอกแม่นางไป๋มาที่นี่ อ้อไม่ใช่ ไม่ใช่การหลอกล่อ เป็นการรับมาต่างหาก

“เจ้าเห็นตอนที่เซียวอ๋องมาถึงหรือไม่” เมิ่งหนานถาม

จินเสี่ยวอันส่ายหน้า “ไม่เห็นขอรับ ตอนนั้นข้าไม่อยู่ เลยไม่เห็นเขา”

เมิ่งหนานเหลียวซ้ายแลขวา เมื่อแน่ใจแล้วว่ารอบๆ ไม่มีคนอื่น ถึงจะพูดเสียงเบาว่า “หน้าตาของเซียวอ๋องคล้ายคลึงกับหูเฟิงอยู่หลายส่วน เจ้าว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่”

องครักษ์จินส่ายหน้าโดยไม่คิด “นั่นต้องเป็นเรื่องบังเอิญแน่นอน บนโลกนี้มีคนหน้าตาคล้ายกันอยู่ถมไป ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแล้วจะเป็นอะไรไปได้เล่าขอรับ”

เมิ่งหนานกลอกตาขาว กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เจ้าใช้สมองคิดให้ดีหน่อย อย่าเอาแต่พูดไปเรื่อย”

“ขอรับ!” จินเสี่ยวอันใช้สมองของตนคิดคำนวณอย่างเต็มกำลัง เบนความสนใจมาจากน่องไก่ เมื่อได้คิดดูให้ดีเช่นนี้แล้ว เขาถึงรู้สึกว่าแปลกจริงๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งแปลก

……….

ตอนที่ 406 ค่ำคืนที่ยากจะนอนหลับ

“คุณชาย ท่านสงสัยว่าหูเฟิงมีความเกี่ยวข้องกับจิ้นอ๋องที่หายตัวไปเมื่อสามปีที่แล้วหรือ” อย่างไรเสียจินเสี่ยวอันก็เป็นคนสนิทของเมิ่งหนาน เรื่องที่เมิ่งหนานรู้ เขาล้วนรู้ทั้งหมดเช่นกัน

เมิ่งหนานพยักหน้า “ถูกต้อง ตอนที่ข้าเห็นเซียวอ๋องครั้งแรกก็มีความรู้สึกเช่นนั้นแล้ว แม้พวกเขาสองคนจะไม่ได้เหมือนกันราวกับเป็นฝาแฝด ทว่าไม่ว่าจะมองเช่นไรก็เหมือนพี่น้องกันยิ่งนัก”

จินเสี่ยวอันตบเข่าฉาด ร้องเสียงดัง “ข้าว่าแล้ว คนอย่างหูเฟิง มองอย่างไรก็ไม่เหมือนบุรุษตามป่าเขาทั่วๆ ไป รูปลักษณ์หล่อเหลา กลิ่นอายไม่ธรรมดา วรยุทธ์ก็สูงส่งอีกต่างหาก จะมีก็แต่การกระทำหรือการพูดจาของเขา ที่ด้อยกว่าคุณชายตระกูลสูงศักดิ์ในเมืองหลวงของพวกเราส่วนหนึ่ง มิน่าเล่าแม่นางไป๋…” จินเสี่ยวอันรู้สึกได้ถึงแววตาดุดันและเย็นชาของเมิ่งหนาน ถึงได้รู้ตัวว่าตนเองพูดมากเกินไปแล้ว จึงรีบปิดปาก หัวเราะกลบเกลื่อนว่า “คุณชายรีบกินสิ เดี๋ยวเย็นแล้วจะไม่อร่อยนะขอรับ”

เมิ่งหนานโยนน่องไก่ที่กินไปครึ่งหนึ่งกลับไป “มันเย็นตั้งนานแล้ว ไม่อร่อยเลยสักนิด”

เขาผุดลุกขึ้นและเดินไป ทว่าเดินไปได้สองสามก้าวก็หมุนกายกลับมา ทำหน้าเคร่งถามจินเสี่ยวอันว่า “พูดให้จบสิ”

จินเสี่ยวอันส่ายหน้า ทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราว “พูดอะไรขอรับ ข้าพูดจบแล้ว ไม่มีอะไรจะพูดแล้วขอรับ”

เมิ่งหนานฉวยน่องไก่ในมืออีกฝ่ายมา กล่าวเสียงทุ้ม “อย่าเฉไฉ รีบพูดมา!”

จินเสี่ยวอันเห็นคุณชายอารมณ์ไม่ดีแล้ว จึงลอบต่อว่าตนเองว่าปากพาซวย ตนเองยังไม่เมาแท้ๆ เหตุใดปากพล่อยพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดออกมาได้กัน

“เอาล่ะ ข้าจะพูดก็ได้!” หากวันนี้ไม่พูดให้ชัดเจน เกรงว่าจะต้องเสียใจเป็นแน่

“คุณชาย ความจริงข้ามองออกตั้งนานแล้ว ว่าความรู้สึกที่แม่นางไป๋ที่มีต่อท่านแตกต่างกับหูเฟิง แม่นางไป๋เห็นท่านเป็นสหาย อย่างมากก็เป็นสหายที่สนิทสนมกับกว่าสหายทั่วๆ ไปเล็กน้อย เพราะอย่างไรเสียท่านก็เคยช่วยชีวิตนางไว้”

เขาช้อนสายตาขึ้นมองสีหน้าของเมิ่งหนานอย่างระมัดระวัง ใบหน้าของคุณชายดำคล้ำยิ่งกว่าก้นหม้อเสียอีก

“พูดต่อไป!” เมิ่งหนานกล่าวเสียงเข้ม

จินเสี่ยวอันลอบถอนใจ ก่อนจะพูดต่อ “แต่นางกลับไม่เห็นหูเฟิงเป็นเพียงสหาย ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสองคน ภายนอกอาจจะดูเหมือนไม่มีอะไรพิเศษ แต่ขอเพียงตั้งใจสังเกตอย่างละเอียดก็จะพบว่าพวกเขาเข้าใจอีกฝ่ายเป็นอย่างดี ทั้งยังเป็นห่วงกันและกันเป็นอย่างยิ่ง”

วันที่ไป๋จื่อมารักษาข้อมือให้คุณชาย นางกับหูเฟิงฝ่าฝนมาด้วยกัน หูเฟิงตัวเปียกจนดูไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ แต่เขากลับเป็นห่วงเพียงไป๋จื่อ เร่งให้เขาหาเสื้อผ้าให้ไป๋จื่อเปลี่ยนใส่ ส่วนไป๋จื่อก็เป็นห่วงหูเฟิงเช่นเดียวกัน ทั้งนางยังเร่งเร้าให้เขาหาเสื้อผ้าให้หูเฟิงก่อนด้วย

เขามองดูแล้ว ท่าทางของพวกเขาสองคนไม่ต่างอะไรจากคู่แต่งงานใหม่ ข้าวใหม่ปลามัน

ความจริงแล้วคุณชายเองก็เห็นท่าทางเหล่านั้นอยู่ในสายตา แต่ไม่อยากเก็บมาใส่ใจ นี่เป็นเหตุผลใหญ่ที่คุณชายเอาแต่คิดจะรับไป๋จื่อมาจากเมืองชิงหยวน เพราะคุณชายรู้ดีอยู่แก่ใจ ว่าหากไป๋จื่ออยู่ที่หมู่บ้านหวงถัวต่อไป ไม่ช้าก็เร็วนางต้องกลายเป็นผู้หญิงของหูเฟิงแน่

เมิ่งหนานเงียบไปนานทีเดียว แต่จู่ๆ ก็พูดขึ้นมาว่า “หากหูเฟิงไม่ใช่หูเฟิง ไป๋จื่ออยู่กับเขาแล้วเกรงว่าจะมีอันตราย”

“หากอยากรู้ว่าหูเฟิงใช่หูเฟิงหรือไม่ ส่งคนไปสืบดูก็รู้แล้วไม่ใช่หรือขอรับ” จินเสี่ยวอันกล่าว

เมิ่งหนานพูดกับจินเสี่ยวอัน “เรื่องนี้ต้องมอบหมายให้เจ้าไปจัดการ จำไว้ว่าต้องระแวดระวังให้มาก อย่าให้มีข่าวอะไรหลุดรอดออกไป เรื่องนี้สำคัญมากจริงๆ หากเจ้าไม่ระวังตัว ย่อมต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่”

จินเสี่ยวอันพยักหน้า “ข้าทราบดีขอรับ คุณชายโปรดวางใจ ข้าจะส่งคนที่ไว้ใจได้มากที่สุดไปจัดการ ปฏิบัติการอย่างลับๆ จะไม่ให้มีข่าวอะไรหลุดออกไปแน่นอนขอรับ”

เมิ่งหนานโยนน่องไก่ในมือทิ้ง ด้วยไม่มีความอยากอาหารอีกแล้ว

คืนนี้ช่างเป็นคืนที่ยากจะนอนหลับเสียจริง!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา