อ่านสรุป ตอนที่ 423 โชคชะตา? / ตอนที่ 424 ไม่ใช่ภาพหลอน จาก คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา โดย Internet
บทที่ ตอนที่ 423 โชคชะตา? / ตอนที่ 424 ไม่ใช่ภาพหลอน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนางเอกเก่ง คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ตอนที่ 423 โชคชะตา?
เสี่ยวเฟิงยืนอยู่ข้างกายไป๋จื่อ เขายื่นมือออกไป แต่ก็ปล่อยมือลงในที่สุด ด้วยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เด็กสาวคนนี้ไม่ใช่ฟืนท่อนหนึ่ง เขาจะแบกขึ้นหลังไปได้อย่างไรกัน
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายเขาก็แบกไป๋จื่อขึ้นหลังได้สำเร็จ ไป๋จื่อตัวเบากว่าที่เขาคิดเอาไว้ ตอนที่แบกนางไปถึงเรือนไม้ด้านหลังแล้ว อาอู่ก็ออกมาจากด้านในพอดี อีกฝ่ายเห็นเขาแบกไป๋จื่อมาจริงๆ จึงยิ้มกล่าวว่า “เจ้านี่ไม่เลวเลย แม้จะผอมบางปลิวลมเช่นนี้ แต่แบกคนผู้หนึ่งขึ้นหลังแล้วก็ยังเดินเหินได้อยู่”
เสี่ยวเฟิงแบกไป๋จื่อเข้าไปในเรือน ก่อนจะวางนางลงบนเตียงอย่างเบามือ ทันทีที่ห่มผ้าให้นางเรียบร้อยแล้ว เขาถึงจะปาดเหงื่อ “ตอนที่ข้าอยู่ในค่ายทหาร ข้าต้องไปตัดฟืนทุกวัน และต้องแบกฟืนที่ตัดมาได้กลับไป ถึงได้ค่อยๆ ฝึกพละกำลังได้ขอรับ”
อาอู่ตบไหล่ของเสี่ยวเฟิงเบาๆ “ดีทีเดียว นี่สิถึงจะสมกับเป็นลูกหลานของสกุลโจวพวกเรา”
เด็กชายแย้มยิ้ม รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ ในอดีตเขาคิดว่าตนเองไม่ได้เรื่องอะไรสักอย่าง แต่เห็นทีในวันนี้เขาไม่ได้ไร้ประโยชน์ดังที่ตนเองคิดแล้ว
แสงจันทร์ข้างนอกหน้าต่างบานเล็กส่องเข้ามาในเรือนไม้ กระทบบนใบหน้าเล็กที่กำลังหลับสนิทของไป๋จื่อ ยามที่นางหลับกับยามที่นางตื่น ช่างเป็นเหมือนคนละคนกันจริงๆ
ไป๋จื่อในตอนนี้เหมือนเด็กสาวอายุสิบสามที่แท้จริง ทั้งน่ารักและไร้เดียงสา
“ไปเถอะ พวกเราสองคนเป็นบุรุษ อยู่ที่นี่ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไร” อาอู่พาเสี่ยวเฟิงออกไป
…
เธอตกลงบนเตียงหลังนุ่มดังเดิม ทำให้เธอรู้ว่าตนเองกลับมาที่ห้องพักผู้ป่วยในยุคปัจจุบันอีกแล้ว กลับมาสู่ร่างเดิมอีกครั้ง
เมื่อเธอลืมตาขึ้น นาฬิกาบนผนังบอกว่าเป็นเวลาตีสอง
ตีสอง ทุกครั้งเธอจะกลับมาที่นี่ในเวลานี้ เพราะอะไรกัน
ในห้องพักผู้ป่วยว่างเปล่า มืดสลัว มีเพียงแสงบางๆ จากนาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์บนผนัง และจากมอนิเตอร์ข้างเตียงเท่านั้น
วันนี้เป็นวันไหว้พระจันทร์ หลินหยางคงจะกลับไปฉลองที่บ้านสินะ
เธอลงจากเตียง เดินไปมองทิวทัศน์ที่ข้างหน้าต่าง ไฟทางบนถนนส่องแสงอย่างโดดเดี่ยว ไม่มีใครเดินอยู่บนทางเท้า ไม่มีเลยแม้สักคนเดียว
ค่ำคืนที่พระจันทร์เต็มดวงแบบนี้ จะมีใครเดินเตร่อยู่ในโรงพยาบาลในเวลาตีสองบ้างไหมนะ
เธอเงยหน้าขึ้นมองจันทร์กระจ่างกลางท้องฟ้า เธอกลับมาที่นี่ทุกวันขึ้นสิบห้าค่ำ เพราะเหตุผลอะไรกันแน่
เพราะโชคชะตาเหรอ
เพราะอะไรกันแน่ ทำไมต้องให้เธอข้ามโลกสองใบไปมาแบบนี้ เธอต้องกลับมาทำอะไรที่นี่ แล้วจุดประสงค์ที่ต้องกลับไปที่นั่นคืออะไร
ถ้าเป็นเพราะโชคชะตา จะไม่ชี้แนะเธอสักหน่อยเลยหรือไง
เธอก้มหน้าลง มองทางเท้าที่เงียบเชียบ ก่อนจะเห็นเงาร่างหนึ่งรีบร้อนเดินมา
เงาร่างนั้นคุ้นตามาก ตอนที่เขาเดินออกจากร่มไม้ มุ่งหน้ามาทางตึกที่เธออยู่นี้ เขาก็มองเห็นหน้าตาของเขาชัดเจนแล้ว
เป็นหลินหยาง! เธอคุ้นเคยกับท่าเดิน และท่าทางเล็กๆ น้อยๆ ตามสัญชาตญาณของเขาอย่างมาก
เขามาได้ยังไง วันไหว้พระจันทร์ที่ผ่านๆ มา เขากลับบ้านที่เมือง B เสมอ ที่นั่นอยู่ห่างออกไปเป็นพันลี้ ปกติแล้วเขาไปอยู่ที่นั่นสองวันแล้วก็จะกลับมา
ตอนนี้เขารีบร้อนกลับมาแบบนี้ เป็นเพราะเธองั้นเหรอ
หลินหยางเดินอยู่บนทางเดินหินเพียงลำพัง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองห้องพักผู้ป่วยที่ไป๋จื่ออยู่ตามที่ทำเป็นประจำ ในห้องพักผู้ป่วยไม่ได้เปิดไฟไว้ เขากวาดสายตาดูแล้วเหมือนจะไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น แต่จากนั้นเขาก็ชะงักไปในทันที ตาฝาดไปหรือเปล่า เพราะเขาคิดว่าตนเองมองเห็นอะไรบางอย่างเข้าให้แล้ว
เขาหยุดฝีเท้า แล้วเงยหน้ามองหน้าตาของห้องพักผู้ป่วยอีกครั้ง คราวนี้เขามองเห็นชัดเจน ด้านหน้าหน้าต่างเต็มบานใบนั้น มีใครบางคนยืนอยู่จริงๆ เขามองไม่เห็นหน้าตาของคนคนนั้น แต่เขากลับรู้สึกได้รางๆ ว่านั่นคือไป๋จื่อ เป็นไป๋จื่อ!
หัวใจของเขาเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่เขากำลังจะอ้าปากตะโกนเรียกชื่อเธอ กลับไม่รู้ว่าทำไมถึงพูดออกไปไม่ได้สักที
ภาพหลอนเหรอ ช่วงนี้เขาเหนื่อยเกินไป คิดมากจนเกินไป ก็เลยเกิดภาพหลอนงั้นเหรอ
เขาเดินไปที่ข้างเตียงผู้ป่วยทีละก้าว ทีแรกเขาคิดว่าจะได้เห็นใบหน้าขาวซีดนั้น แต่บนเตียงกลับว่างเปล่า ทำให้เขาทั้งตื่นตกใจ ทั้งยังดีใจอีกด้วย
ตกใจที่เธอไม่อยู่ และดีใจที่เธอไม่อยู่เช่นกัน
เธอไม่อยู่ นั่นหมายความว่าเงาคนที่เขาเห็นเมื่อกี้นี้ไม่ใช่ภาพหลอน เธอตื่นแล้วจริงๆ เขากลับหลังหันไปที่ห้องน้ำ เธอจะอยู่ในนั้นไหม ขณะที่เขากำลังจะเคาะประตูนั้นเอง เขารู้สึกได้ตอนที่เพิ่งเงยหน้าขึ้น ว่ามีอะไรบางอย่างเกี่ยวเท้าของเขาอยู่
เมื่อก้มหน้าลงไปมองอีกครั้ง เขาก็พบว่าบนพื้นมีคนนอนอยู่ และนั่นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นไป๋จื่อที่เขากำลังตามหา
…
ไป๋จื่อลืมตา มองไปยังใบหน้าเคล้าน้ำตาของจ้าวหลาน “ท่านแม่ ท่านเป็นอะไรไป”
ครั้นได้ยินเสียงของไป๋จื่อ จ้าวหลานถึงได้รู้ว่าบุตรสาวของตนตื่นแล้ว นางหยุดสะอื้นไห้โดยพลัน แล้วถามเด็กสาวว่า “เจ้าเป็นอย่างไรบาง ไม่สบายตรงไหนหรือไม่”
ไป๋จื่อส่ายหน้า “ไม่เจ้าค่ะ ข้าสบายดี เหตุใดท่านแม่ถึงร้องไห้กัน”
“เด็กโง่ เจ้าทำแม่ตกใจแทบตาย เมื่อกี้แม่เรียกเจ้าอย่างไรเจ้าก็ไม่ยอมตื่น ทั้งร่างเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง แม้กระทั่งไม่หายใจอีกต่างหาก ข้าเกือบจะคิดว่า…” จ้าวหลานเช็ดน้ำตา “พรุ่งนี้พวกเราจะไปให้หมอในเมืองตรวจดูสักหน่อย ต้องรักษาอาการนี้ของเจ้าเสียแล้ว” นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ครั้งก่อนไป๋จื่อก็ทำให้นางตกใจเช่นนี้
“ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ แค่หลับลึกเกินไปเท่านั้นเอง ท่านอย่ากังวลใจไปเลยนะเจ้าคะ ข้าไม่เป็นไรจริงๆ” ไป๋จื่อยิ้มกล่าว
“ไม่เป็นไรจริงหรือ” จ้าวหลานรู้สึกไม่เชื่ออยู่บ้าง เพราะเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ไม่ใช่แค่ไป๋จื่อหลับลึกจนเกินไป แต่เหมือนหลับแล้วตายไปมากกว่า
“ข้าไม่เป็นไรจริงๆ ท่านไม่เชื่อข้าหรือ ข้าเป็นหมอนะ แล้วข้าจะไม่รู้สภาพร่างกายของตัวเองได้อย่างไร”
เมื่อเห็นไป๋จื่อยืนยันขนาดนั้น ในที่สุดจ้าวหลานก็วางใจลงได้บ้าง แต่ก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี “จื่อเอ๋อร์ หากเจ้ามีเรื่องอะไร เจ้าอย่าได้ปิดบังแม่เด็ดขาด ต้องบอกแม่นะ เจ้าได้ยินหรือไม่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา
อัพเดทตอนใหม่เมื่อไรค่ะ...
คุณแอดมินผู้ใจดี ช่วยอัพเดทตอนใหม่เยอะๆเลยนะคะ ชอบมาก สนุก พลีสสสสส...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
เอาใจช่วยหูเฟิงทวงคทนอำนาจนะ...
ถ้าพ่อไม่ถูกเมียรังแกจนเกือบตายก็คงไม่ตื่นสินะ...
ดีใจกับเสี่ยวเฟิง...