คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา นิยาย บท 49

ตอนที่ 49 เรือนเล็กๆ ที่มืดมิด

หัวหน้าหมู่บ้านรีบเข้ามา เขาไปดูที่บ้านของหูจ่างหลินก่อน เห็นว่าจ้าวหลานถูกแบกไป ส่วนหูจ่างหลินได้รับบาดเจ็บ เขารู้สึกโมโหจนทนไม่ไหว จึงรีบมาที่นี่

“หัวหน้าหมู่บ้าน เจ้ามาเสียที หากเจ้ามาช้ากว่านี้สักสองสามก้าว เกรงว่าเจ้านักฆ่านี้คงจะฆ่าสกุลไป๋ของพวกข้าทั้งตระกูล” หญิงชราสกุลไป๋ยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดน้ำตา แต่ไหนเลยจะมีน้ำตา แม้จะขยี้ตาจนแดงก่ำแล้ว ก็ยังไม่เห็นจะมีน้ำตาเลยสักนิด

ฝ่ายหัวหน้าหมู่บ้านขมวดคิ้วและกวาดสายตามองทุกคนในลานบ้านรอบหนึ่ง ก่อนจะถามเสียงทุ้ม “เกิดอะไรขึ้นกันแน่”

เจ้าใหญ่เจ็บจนแทบจะสลบไปแล้ว มือของเขาขยับไม่ไห้ ทว่าปากยังขยับได้อยู่ เขาร้องตะโกนว่า “หูเฟิง เจ้าบัดซบนี่หักแขนทั้งสองข้างของข้า แม้แต่สตรีก็ไม่เว้น หากท่านหัวหน้าหมู่บ้านมาช้ากว่านี้อีกสองสามก้าว ไม่แน่ว่าเขาจะทำเรื่องบ้าคลั่งใดออกมา”

หัวหน้าหมู่บ้านไม่ได้ตอบเขา เพียงแต่ถามต่อว่า “จ้าวหลานเล่า พวกเจ้าทำอะไรจ้าวหลานบ้าง”

ในหัวของไป๋จื่อปรากฎความทรงจำของเจ้าของร่างคนเก่าจำนวนหนึ่ง จ้าวหลานกับไป๋จื่อไม่มีตำแหน่งใดในบ้านหลังนี้ มักจะถูกลงโทษเสมอ บทลงโทษที่ไป๋จื่อได้รับมากที่สุดคือถูกขังอยู่ในเรือนเล็กๆ ที่มืดมิด แน่นอนว่าถูกตีอย่างหนักก่อน แล้วถึงถูกส่งไปอยู่ในเรือนหลังเล็กมืดๆ นั้นพร้อมกับความหิวโหย

เรือนหลังเล็กและมืดนั้นอยู่ด้านหลังลานบ้าน เป็นเรือนขนาดเล็กอย่างยิ่ง ภายในมีกองฟืนสุมอยู่จนเต็ม สามารถบรรจุคนผู้หนึ่งขดตัวอยู่ในนั้นได้เท่านั้น แม้แต่จะยืนก็ทำไม่ได้ ถึงแม้นั่งบนพื้น ขาก็เหยียดได้ไม่สุด เด็กสาวอย่างนางยังทำไม่ได้ แล้วจ้าวหลานที่รูปร่างสูงกว่านางถูกขังอยู่ในนั้น จะได้รับความทุกข์ทนถึงเพียงใดกัน

นางไม่คิดมากอีก รีบร้อนพุ่งเข้าไปในเรือนใหญ่ เพื่อทะลุออกไปด้านหลังลานบ้าน

ด้านหลังลานบ้านมีคนยืนอยู่หลายคน ได้แก่ ไป๋ต้าเป่า ไป๋เสี่ยวเฟิง ลูกชายคนโตและคนรองของเจ้าใหญ่ และยังมีไป๋เจินจู ไป๋ฟู่กุ้ย ลูกสาวคนโตและลูกชายคนรองของเจ้ารอง

ปีนี้ไป๋ต้าเป่ามีอายุสิบแปดปี ส่วนสูงเลยช่วงไหล่ของบิดาเขาไปแล้ว หน้าตาละม้ายคล้ายหลิวซื่อยิ่งกว่า สีหน้าหยาบคายและปากจัด เขานั่งเฝ้าอยู่บนเก้าอี้ด้านหน้าเรือนมืดหลังเล็ก พิงหลังบนประตูไม้ขนาดเล็กของเรือน ไม่ยอมให้คนด้านในออกมา

นางได้ยินเสียงทุบประตู ไปจนถึงเสียงร้องเรียกของมารดา

ไป๋เสี่ยวเฟิงและไป๋ฟู่กุ้ยไม่รู้ว่ายืนพึมพำอะไรอยู่ตรงมุม ส่วนไป๋เจินจูถือพัดโปร่ง พัดมันขึ้นลงอยู่บ้าง ครั้นเห็นไป๋จื่อเข้ามาด้านหลังลานบ้าน นางก็กล่าวทันทีว่า “โอ้ ยังรู้จักกลับมาอยู่นี่ เตียงของสกุลหูนุ่มกว่าเตียงที่สกุลไป๋ของพวกเราหรือไม่”

ตอนนี้ไป๋จื่อไม่มีกะใจจะตีฝีปากกับนาง ดูจากในความทรงจำแล้ว ไป๋เจินจูผู้นี้มีเจตนาเป็นศัตรูของนางมาโดยตลอด เอาแต่เพ่งเล็งนางตลอดเวลา พูดคำกล่าวไม่น่าฟังพรรค์นี้ออกมาได้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรเช่นกัน

ไป๋จื่อเดินไปถึงตรงหน้าของไป๋ต้าเป่าโดยตรง “หลีกไป”

ไป๋ต้าเป่าหรี่ตามองนางครึ่งหนึ่ง สีหน้าเฉยเชา “ไม่หลีกแล้วจะทำไม”

กำปั้นเล็กๆ ของนางกำเข้าหากันแน่น ขณะกำลังจะชกหมัดหนึ่งลงบนหน้าของไป๋ต้าเป่าผู้นี้ นางกลับไปยินเสียงของหัวหน้าหมู่บ้านดังมาจากข้างหลัง “ขืนยังไม่หลีกไปอีก ข้าจะให้คนไปฟ้องทางการ บอกว่าพวกเจ้าสกุลไป๋สังหารโหดหญิงหม้าย”

เมื่อไป๋ต้าเป่าเห็นหัวหน้าหมู่บ้าน ไหนเลยเขาจะกล้าพูดออกมาอีก ได้แต่รีบลุกขึ้นยกเก้าอี้หลีกไป

ไป๋จื่อเปิดประตูออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะก้มลงประคองมารดาที่ขดร่างอยู่ด้านในออกมา

เชือกที่มัดมือจ้าวหลานไว้หายไปแล้ว เสื้อผ้าบนร่างกายก็ถูกดึงทึ้งจนฉีกขาดไปหลายจุด รอยมือบนใบหน้าชัดเจนยิ่ง แม้กระทั่งมีรอยเลือดจากการถูกเล็บข่วนด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา