คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา นิยาย บท 523

สรุปบท ตอนที่ 523 เช่นนั้นก็ลงมือเถอะ / ตอนที่ 524 ลวี่เฉียวและจื่อเฟิงหลาน: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา

สรุปตอน ตอนที่ 523 เช่นนั้นก็ลงมือเถอะ / ตอนที่ 524 ลวี่เฉียวและจื่อเฟิงหลาน – จากเรื่อง คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา โดย Internet

ตอน ตอนที่ 523 เช่นนั้นก็ลงมือเถอะ / ตอนที่ 524 ลวี่เฉียวและจื่อเฟิงหลาน ของนิยายนางเอกเก่งเรื่องดัง คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่​ 523 เช่นนั้น​ก็​ลงมือ​เถอะ​

“เช่นนั้น​ก็​ลงมือ​เถอะ​ หาก​ตี​พวก​นาง​ตาย​แล้ว​ ข้า​จะรับผิดชอบ​เอง​” เสียงกังวาน​ใสดัง​มาจาก​ประตู​ หญิง​ชรา​และ​หลิว​ซื่อ​หน้า​เปลี่ยนสี​ไป​ในทันที​

โจว​อา​อู่​และ​จ้าว​ซู่เอ๋อ​กลับ​ยิ้มแย้ม​ “อา​จื่อ​ เจ้ากลับมา​แล้ว​หรือ​”

ไป๋​จื่อ​ก้าว​เท้า​เข้ามา​ใน​ประตู​ นาง​ยิ้ม​ให้​พวกเขา​สอง​คน​ แล้ว​ปรายตา​ไป​ยัง​เตียง​ไม้ มอง​จ้าว​หลาน​ที่​มีสีหน้า​เป็นกังวล​ และ​กำลัง​มีน้ำตา​นองหน้า​ “ท่าน​แม่ ข้า​กลับมา​แล้ว​”

ครั้น​เห็น​บุตรสาว​กลับมา​อย่าง​ปลอดภัย​ จิตวิญญาณ​ที่​หาย​ไป​มากกว่า​ครึ่ง​ของ​จ้าว​หลาน​ก็​กลับมา​รวมกลุ่ม​กัน​ นาง​มีชีวิตชีวา​ในทันที​

ไป๋​จื่อ​หันไป​มอง​หญิง​ชรา​และ​หลิว​ซื่อ​ กล่าว​เสียง​เรียบ​ว่า​ “พวก​เจ้าคิด​ว่า​พวก​ข้า​แม่ลูก​รังแก​ง่าย​นัก​หรือ​ คิด​ว่า​ถึงแม้จะรังแก​พวก​ข้า​แล้ว​ พวก​ข้า​ก็​จะไม่กล้า​ทำ​อะไร​กับ​พวก​เจ้าใช่หรือไม่​”

หญิง​ชรา​และ​หลิว​ซื่อ​หน้า​เคร่ง​ไม่พูดจา​ ไป๋​จื่อ​จึงพูด​อีก​ “วันนี้​ข้า​จะบอก​กับ​พวก​เจ้าอย่าง​ชัดเจน​ ว่า​พวก​ข้า​ก็​แค่​ไม่ลงมือ​เท่านั้น​ เพราะ​หาก​ลง​มือขึ้น​มา พวก​เจ้าก็​รอ​นอน​บน​เตียง​ไป​ทั้ง​ชีวิต​ได้​เลย​”

หลิว​ซื่อ​เท้า​เอว​ “เจ้ากล้า​? เจ้าอย่า​คิด​ว่า​พวก​ข้า​ไม่รู้​กฎหมาย​ หาก​เจ้ากล้า​ลงมือ​ ข้า​จะไป​ฟ้องร้อง​พวก​เจ้าที่​ศาลา​ว่าการ​ ให้​เจ้าไป​นอน​ใน​คุก​”

ไป๋​จื่อ​เอ่ย​เสียง​เย็น​ “เช่นนั้น​หรือ​? เจ้านอน​ขยับ​ไม่ได้​อยู่​บน​เตียง​แล้ว​ ยัง​จะไป​ฟ้องร้อง​พวก​ข้า​ได้​อย่างไร​”

“ข้า​ไป​ไม่ได้​ แต่​บุตรชาย​ของ​บ้าน​ข้า​ก็​ยัง​ไป​ได้​ไม่ใช่หรือ​ เจ้าพูดจา​ข่มขู่​ข้า​ให้​น้อย​ๆ หน่อย​เถอะ​ ข้า​ไม่หลงกล​เจ้าหรอก​” หลิว​ซื่อ​แค่น​หัวเราะ​

“เจ้าพูด​ถูกต้อง​ บุตรชาย​ของ​พวก​เจ้าไป​ฟ้องร้อง​แทน​เจ้าได้​ แต่​เงื่อนไข​แรก​ก็​คือ​หาก​ข้า​ยอม​จ่าย​เงินชดเชย​อย่าง​ลับ​ๆ พวกเขา​จะยัง​ไป​ฟ้องร้อง​อยู่​หรือไม่​” ครั้น​เห็น​ความ​ปีติ​ปรากฏ​ขึ้น​บน​ใบหน้า​ของ​หลิว​ซื่อ​ หัวใจ​ของ​ไป๋​จื่อ​ก็​พลัน​ต่อว่า​นาง​ ‘โง่นัก​’ อยู่​ใน​ใจ ก่อน​จะกล่าว​อี​กว่า​ “เจ้าก็​อย่า​เพิ่ง​วาด​ฝัน​ไว้​สวยหรู​ เพราะ​เมื่อ​ข้า​ให้​เงินชดเชย​กับ​เจ้าใหญ่​ของ​บ้าน​เจ้า เขา​ก็​นับว่า​ร่ำรวย​ขึ้น​มาทันที​ แล้ว​เขา​ยัง​จะเก็บ​คนพิการ​ไร้ประโยชน์​อย่าง​เจ้าไว้​หรือ​ ข้า​ว่า​เขา​น่าจะ​แต่ง​อนุ​เข้า​บ้าน​มากกว่า​ เจ้าพยายาม​หาเงิน​แทบตาย​ จน​สุดท้าย​เจ้าได้​ใช้เงิน​นั้น​หรือไม่​ ทันทีที่​อนุ​เข้า​บ้าน​ก็​จะคลอด​บุตรชาย​ออกมา​สอง​คน​ ส่วน​บุตรชาย​สอง​คน​ที่​เจ้าคลอด​ออกมา​จะยัง​มีชีวิต​ที่​ดี​ได้​อีก​หรือ​ไร​”

วาจา​ของ​ไป๋​จื่อ​จี้ใจดำ​นาง​ทุก​คำ​ ทำเอา​นาง​เจ็บปวด​หัวใจ​อย่างยิ่ง​

หญิง​ชรา​เห็น​สถานการณ์​ไม่ดี​ จึงรีบ​กล่าวว่า​ “อย่า​ไป​ฟังนาง​พูดเพ้อเจ้อ​ เจ้าใหญ่​ไม่ใช่คน​เช่นนั้น​ นาง​ก็​แค่​ยุแหย่​ให้​พวก​เจ้าแตกคอ​กัน​”

แน่นอน​ว่า​หลิว​ซื่อ​รู้​ว่า​นี่​คือ​การ​ยุแหย่​ แต่​ทุก​คำพูด​ของ​ไป๋​จื่อ​มีเหตุผล​ ด้วย​นิสัย​ของ​เจ้าใหญ่​แล้ว​ ไม่แน่​ว่า​เขา​อาจจะ​ทำ​เช่นนั้น​จริงๆ​ แล้ว​สิ่งที่​นาง​พยายาม​ทำ​ลง​ไป​ทั้งหมด​จะมีความหมาย​อะไร​

เมื่อ​เห็น​หลิว​ซื่อ​เริ่ม​ตี​กลอง​ถอย​ หัวใจ​ของ​หญิง​ชรา​ก็​พลัน​รู้สึก​ถึงความ​เย็นเยียบ​ ก่อนหน้านี้​ที่มา​หาเรื่อง​ถึงที่นี่​ ก็​เพราะ​เรื่อง​ที่​ไป๋​จื่อ​ไปหา​หู​เฟิงที่​ค่ายทหาร​ คิด​ว่า​เด็กสาว​จะกลับมา​ไม่ได้​แล้ว​ ขอ​เพียง​นาง​กลับมา​ไม่ได้​ จ้าว​หลาน​ก็​จะป่วย​ตาย​ ครั้น​ถึงเวลา​นั้น​ ทุกอย่าง​ของ​พวก​นาง​สอง​แม่ลูก​ก็​จะตก​มาอยู่​ใน​มือ​ตน​ ทว่า​ตอนนี้​ไป๋​จื่อ​กลับมา​แล้ว​ ทุกสิ่ง​จบสิ้น​แล้ว​

ไป๋​จื่อ​บอก​กับ​อา​อู่​ว่า​ “ข้า​จะนับ​ถึงสาม หาก​พวก​นาง​ยัง​ไม่ไป​ ก็​ลาก​พวก​นาง​จาก​ชั้นบน​ลง​ไป​ ถึงแม้ตกลง​ไป​ตาย​ ข้า​ก็​จะจ่าย​เงินชดเชย​เอง​”

อา​อู่​ยิ้มแป้น​ “ตกลง​ เจ้ารีบ​นับ​เถอะ​ ข้า​คันไม้คันมือ​มานาน​แล้ว​”

ยัง​ไม่ทัน​ที่​ไป๋​จื่อ​จะเริ่ม​นับ​ สอง​แม่สามีและ​ลูกสะใภ้​ก็​รีบร้อน​วิ่ง​หาย​ไป​ไม่เห็น​เงา ราวกับ​หนู​ข้ามถนน​ก็​ไม่ปาน​

ข้างนอก​ประตู​มีคน​ยืน​อยู่​อีก​คน​หนึ่ง​ ตอน​พวก​นาง​ออก​ไป​ไม่ทัน​ได้​มอง​ให้​ชัด​ว่า​เป็น​ผู้ใด​ ยัง​คิด​ว่า​เป็น​หู​จ่างหลิน​เสีย​ด้วยซ้ำ​

หลังจาก​หญิง​ชรา​และ​หลิว​ซื่อ​จากไป​แล้ว​ โจว​กัง​ที่​ยืน​อยู่​ข้างนอก​ถึงจะเข้ามา​ เขา​เห็น​ใบหน้า​ของ​อา​อู่​มีรอย​แผลเป็น​จาก​ดาบ​เพิ่มขึ้น​มาเป็น​อันดับ​แรก​ จึงร้อง​ด้วย​ความ​ตื่นตกใจ​ “อา​อู่​!”

อา​อู่​ชะงักงัน​ เขา​หันกลับ​ไป​มอง​ พบ​เงาร่าง​สูงใหญ่​ปรี่​เข้ามา​หาตน​ ยิ่ง​อีก​ฝ่าย​เดิน​เข้ามา​ใกล้​ ใบหน้า​นั้น​ก็​ยิ่ง​ชัดแจ้ง​ แม้จะผอม​ลง​ไป​มาก​ ทว่า​เขา​ก็​ยัง​จำได้​ตั้งแต่​แรกเห็น​

……….

นาง​รับ​ถ้วย​โจ๊ก​มา “ท่าน​แม่ ข้า​ป้อน​ท่าน​นะ​เจ้าคะ​”

จ้าว​หลาน​ส่ายหน้า​ “ไม่ต้อง​หรอก​ ข้า​กิน​เอง​ได้​” นาง​รับ​ถ้วย​โจ๊ก​ใน​มือ​ไป๋​จื่อ​มา แล้ว​เริ่ม​กิน​อย่าง​ช้าๆ ยิ่ง​กิน​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​อยาก​อาหาร​ จึงกิน​หมด​ทั้ง​ถ้วย​อย่าง​รวดเร็ว​

หลังจาก​ได้​กิน​อะไร​บ้าง​แล้ว​ จ้าว​หลาน​ก็​รู้สึก​ง่วง​ขึ้น​มา เพราะ​หลาย​วันนี้​นาง​นอน​ไม่ค่อย​หลับ​ เมื่อ​หลับตา​ก็​ฝัน​เห็น​ไป๋​จื่อ​เลือดโชก​ล้ม​ลง​ใน​กอง​ผู้คน​ ทำเอา​นาง​หวาดกลัว​จน​แทบจะ​ไม่กล้า​หลับตา​

ไป๋​จื่อรอจน​จ้าว​หลาน​หลับ​ นาง​ถึงจะออกจาก​ห้อง​ไป​พร้อม​ซู่เอ๋อ​ ก่อน​จะถามว่า​ “สมุนไพร​ใน​ที่ดิน​เป็น​อย่างไรบ้าง​เจ้าคะ​”

จ้าว​ซู่เอ๋อ​กล่าว​เคล้า​เสียงหัวเราะ​ “เจ้านี่​นะ​ ช่างกลับมา​ได้​ทันเวลา​เสีย​จริง​ สมุนไพร​ใน​ที่ดิน​เจริญเติบโต​เต็ม​ที่แล้ว​ เถ้าแก่​เฉิน​มาดู​อยู่​หลายครั้ง​ พวก​ข้า​ส่งรายการอาหาร​ให้​เขา​แล้วด้วย​เช่นกัน​ แต่​เขา​อยาก​ให้​เจ้าไป​สอน​พ่อครัว​ที่​ร้าน​สือเค่อ​ด้วย​ตน​ด​แงมากกว่า​ เมื่อวาน​เขา​ก็​มาที่นี่​ครั้งหนึ่ง​ เอาแต่​ถามอยู่​ตลอด​ว่า​เจ้าไป​ที่ใด​ แต่​พวก​ข้า​ก็​ไม่กล้า​พูดมาก​”

เด็กสาว​พยักหน้า​ “ได้​เจ้าค่ะ​ เช่นนั้น​พรุ่งนี้​ข้า​จะไปหา​เขา​สักครั้ง​” ถึงอย่างไร​ก็​เป็น​อาหาร​เป็น​ยา​ มีความแตกต่าง​กับ​อาหาร​ชนิด​อื่น​ พี่ใหญ่​เฉิน​จะระมัดระวัง​สักหน่อย​ก็​เป็นเรื่อง​ปกติ​

หลังจาก​พักผ่อน​ได้​ครู่หนึ่ง​ นาง​ก็​พา​จ้าว​ซู่เอ๋อ​ที่​ยัง​ที่นา​รอบ​หนึ่ง​ เก็บ​ต้น​เฉียว​เขียว​และ​ต้น​เฟิงหลาน​ม่วง​กลับมา​ด้วย​ ตอนนี้​ต้น​เฟิงหลาน​ม่วง​ออกดอก​แล้ว​ ดอก​ของ​มัน​เป็น​สีชมพู​อ่อน​ ส่วน​ใบ​เป็น​สีม่วง​ ทั้งสอง​สีต่าง​ขับ​เน้น​ซึ่งกันและกัน​ งดงาม​ยิ่งนัก​

“ดอกไม้​นี้​งามจริงๆ​ กิน​ได้​ด้วย​หรือ​นี่​” จ้าว​ซู่เอ๋อ​ถาม

ไป๋​จื่อ​พยักหน้า​ “แม้ดอก​ของ​มัน​จะไม่มีสรรพคุณ​ทาง​ยา​ แต่​ก็​มีรส​หวาน​ กิน​ได้​เช่นกัน​ เมื่อ​กิน​รวม​กับ​ใบ​เฟิงหลาน​ม่วง​แล้ว​อร่อย​อย่า​บอก​ใคร​เชียว​!”

จ้าว​ซู่เอ๋อ​ฟังแล้วก็​กลืนน้ำลาย​ จากนั้น​นาง​ก็​ชี้ไป​ยัง​ต้น​เฉียว​เขียว​ “ใบ​ของ​ต้น​เฉียว​เขียว​เล็ก​จ้อย​ขนาด​นั้น​ แต่กลับ​มีลำต้น​หนา​มาก​ ไม่ใช่ว่า​ต้อง​กินที่​ลำต้น​หรอก​หรือ​”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา