คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา นิยาย บท 55

ตอนที่ 55 หกตำลึงเงิน

หมอลู่ก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน ว่าเหตุใดจู่ๆ หญิงชราสกุลไป๋ผู้นี้ถึงเปลี่ยนนิสัย แม้ในใจจะสงสัย ทว่าบัดนี้ไม่ใช่เวลาพูดมากความ เขาจึงยกล่วมยาเดินไปถึงข้างกายของเจ้าใหญ่ เพื่อจัดกระดูกและพันแผล ทุกการกระทำของหมอลู่ ทำเอาเจ้าใหญ่ร้องอย่างน่าเวทนาอยู่หลายเสียง ในลานบ้านมีเพียงเสียงโอดโอยของเขาดังไม่ขาดสาย

ถึงแม้เขาจะเจ็บแทบตาย ทว่าไป๋จื่อก็ไม่ไปช่วยเขาฝังเข็มให้ชา เขาเจ็บก็สมควรแล้ว แบบนี้เรียกว่าการแก้แค้น หักแขนของลุงหูแล้ว อีกทั้งทำให้อาการแขนหักของจ้าวหลานหนักข้อกว่าเดิม หักขาเขาอีกสักข้างก็ไม่นับว่าเกินไป

หลังจากพันแผลเสร็จ เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของเจ้าใหญ่ก็ค่อยๆ หยุดลง สีหน้าของเขาซีดขาวราวกับกระดาษ ตอนที่เจ็บจนทนไม่ไหว แม้แต่ริมฝีปากก็กัดจนแตกยับ จนมีเลือดสดๆ ไหลออกมาด้านนอก

หมอลู่ไม่สนใจเขา เมื่อเก็บล่วมยาเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงหันกายไปขอเงินกับหญิงชรา

หญิงชราเริ่มแสร้งทำเป็นปวดหัว เจ็บหน้าอก ราวกับว่าไม่มีเนื้อชิ้นไหนบนร่างกายไม่รู้สึกเจ็บ

“แม่เฒ่า หกตำลึงเงินที่ข้าพูดเมื่อครู่เจ้าก็ตกลงแล้ว ต่อหน้าหัวหน้าหมู่บ้าน เจ้าคิดจะเบี้ยวหนี้รึ” หมอลู่เลิกคิ้วขึ้นสูง พลางมองการแสดงของนางด้วยสายตาเย็นชา

หญิงชราทำสีหน้าเหมือนเจียนตาย เสียงกล่าวเหมือนแมลงวันและยุง “ใครกัน ใครบอกว่าพวกข้าจะเบี้ยวหนี้ เพียงแต่ตอนนี้ตึงมือยิ่งนัก จึงไม่มีเงินเท่านั้นเอง”

“นี่มันเบี้ยวหนี้ไม่ใช่หรืออย่างไร ตึงมือ ไม่มีเงิน เหตุใดก่อนหน้านี้ไม่พูดออกมาเล่า ต้องรอให้ข้ารักษาเจ้าใหญ่เสร็จแล้วค่อยพูด เห็นข้าลู่จ่างชุนรังแกง่าย เหมือนกระต่ายตัวใหญ่หรืออย่างไร”

ฝ่ายหญิงชราเห็นสีหน้าของหัวหน้าหมู่บ้านเปลี่ยนไปเช่นกัน จึงรีบปั้นหน้ายิ้มบนใบหน้าไม่น่ามอง “ดูท่านหมอลู่กล่าวสิ เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันแท้ๆ พวกเราสกุลไป๋อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้มานาน ไหนเลยจะเบี้ยวหนี้ได้”

หมอลู่ยื่นมือออกมา “ในเมื่อไม่เบี้ยวหนี้ เช่นนั้นก็เอาเงินมาหกตำลึงเงิน ขาดไม่ได้แม้แต่ตำลึงเดียว”

หญิงชราหัวเราะแห้งๆ สองเสียง “กล่าวตามตรงไม่ปิดบัง สองตำลึงเงินที่ให้เจ้าไปเมื่อวาน เป็นเงินก้อนสุดท้ายของบ้านข้าแล้ว บัดนี้ไม่มีเงินจริงๆ เช่นนั้นเอาแบบนี้ พวกข้าติดเงินไว้ก่อน สองเดือนผ่านไปพวกข้ามีเงินพอใช้แล้ว จะให้เจ้าพร้อมกับดอกเบี้ย เจ้าว่าอย่างไร”

ติดค้างบัญชีรึ เหอะๆ…

หมอลู่กล่าวเหมือนจะยิ้ม “แม่เฒ่า เจ้ายังจำสามปีก่อนที่เสี่ยวเฟิงเป็นไข้หวัด แล้วให้ข้าออกยาให้กินสองสามชุด ตอนนั้นก็บอกว่าติดค้างบัญชีไว้ ทั้งหมดเจ็ดตำลึงเงิน เจ้าคืนแล้วหรือยัง”

เจ็ดตำลึงเงินสามปีแล้วยังไม่คืน ยังทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหกตำลึงเงิน นางให้ก็แปลกแล้ว

หญิงชราสกุลไป๋เคาะหน้าผากตนเอง “ดูความจำของข้าสิ ข้ายังคิดว่าคืนไปแล้ว จำเรื่องนี้ไม่ได้โดยสิ้นเชิง เหตุใดเจ้าไม่เตือนข้าสักหน่อยเล่า”

ช่าง…นางยังมีหน้ากล่าวโทษข้าอีก

“วันนี้ข้าไม่ได้มาเพื่อสะสางบัญชีเก่ากับเจ้า ไม่ต้องพูดเรื่องอื่นแล้ว เอาหกตำลึงเงินนี้ให้ข้ามาก่อน”

นางหันไปมองหัวหน้าหมู่บ้าน “หัวหน้าหมู่บ้าน ท่านดูสิ ท่านหมอลู่ผู้นี้ข้าก็ไม่ได้เป็นคนเชิญมา บัดนี้จะเอาเงินหกตำลึงเงินจากข้า เป็นจำนวนเงินไม่น้อยเลยนะเจ้าคะ ในเวลาเช่นนี้ ข้าจะไปขอเงินได้จากที่ใดกัน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา