ตอนที่ 615 ฮูหยินไม่ไหวแล้วหรือ
มุมปากของนางยกโค้ง สิ่งที่เรียกว่าวาสนานี้ ช่างมหัศจรรย์จนเกินคำบรรยายเสียจริง
เกรงว่าไม่ว่าอย่างไรหูเฟิงก็ไม่คาดคิด ว่าตอนนี้นางจะอยู่ที่เขาฉีอวิ๋น อยู่ในสถานที่ที่เขาเคยร่ำเรียนและเติบใหญ่ เดินในเส้นทางที่เขาเคยเดิน และนั่งบนเตียงที่เขาเคยนอนหลับ
ครั้นตกกลางคืน ลมหนาวพัดมาเสียงดังหวีดหวิว พาให้ผ้าม่านปลิวไหว เสียงนกฮูกคลุมเครือดังมาจากข้างนอก ทว่าไป๋จื่อนอนหลับสนิทมาก ในความฝันขณะนี้ นางและตงฟางหว่านเอ๋อร์ต่างก็จำกันได้แล้ว ตงฟางหว่านเอ๋อร์กอดนางไว้ พร่ำเรียกชื่อนางพลางร้องไห้อยู่เนิ่นนาน
จากนั้นนางก็ให้เสื้อผ้าที่นางปักลายดอกเหมยไว้อย่างละเมียดละไมกับมือให้ไป๋จื่อ จ้าวหลานและหูเฟิงก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน ทั้งคู่ต่างดีใจที่แม่ลูกผู้พลัดพรากจากกันไปถึงสิบสามปี ได้หวนคืนมาพบกันอีกครั้งเสียที
ทว่าขณะที่กำลังมีความสุขกันอยู่ จู่ๆ ตงฟางหว่านเอ๋อร์ก็ล้มลง ราวกับว่านางเป็นกิ่งไม้แห้ง ก่อนจะสลายกลายเป็นฝุ่นผงหายไปในอากาศ ไป๋จื่อพยายามไขว่คว้าหานางสุดชีวิต ทว่าวิ่งตามอย่างไรก็ไปไม่ถึงเสียที นางอยากช่วยมารดาของตนเอง แต่กลับสัมผัสร่างของอีกฝ่ายไม่ได้เลย และระหว่างที่กำลังตกใจกลัวและผิดหวังอยู่นั้น นางก็เห็นชีวิตของนางเองก็ค่อยๆ เสื่อมสลายลงทีละเล็ก ทีละน้อย
“ไม่ ไม่นะ อย่า…” นางตื่นขึ้น ดวงตาเบิกโพลงพลางหอบหายใจ เหงื่อกาฬท่วมบริเวณหน้าผาก
ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังมาจากข้างนอก ท่าทางรีบร้อนมาทีเดียว นางจึงลนลานลงจากเตียง ลืมสวมแม้กระทั่งรองเท้าด้วยซ้ำ
ชุ่ยเอ๋อร์เป็นฝ่ายเคาะประตู บัดนี้นางหน้าซีดเผือด ขอบตาแดงก่ำ ครั้นเห็นหน้าไป๋จื่อแล้ว นางก็ปรี่เข้ามาจับข้อมือทันที “เร็วเข้า ฮูหยินไม่ไหวแล้ว รีบไปตรวจให้นางที”
ฮูหยินไม่ไหวแล้ว?
ห้าพยางค์นี้เหมือนกับสายฟ้าฟาดลงกลางกระหม่อมของไป๋จื่อ นางฟังคำพูดหลังจากนั้นของชุ่ยเอ๋อร์ไม่รู้เรื่องแล้ว เพียงดันร่างของชุ่ยเอ๋อร์ออกไปจนพ้นทาง แล้วสาวเท้าวิ่งออกจากห้องไป มุ่งหน้าไปยังลานบ้านของตงฟางหว่านเอ๋อร์ทันที
ลานบ้านของนางติดกับลานบ้านของตงฟางหว่านเอ๋อร์ จากตรงนี้ห่างกันเพียงทางเดินหินกั้นเท่านั้น นางสวมแค่เสื้อนอนตัวบาง บัดนี้เท้าเปลือยเปล่าเหยียบย่างอยู่บนก้อนหิน ทว่านางไม่รู้สึกถึงความเย็นยะเยือกที่ฝ่าเท้าเลย ในใจของนางมีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น เร็วกว่านี้ ต้องเร็วกว่านี้อีก ตงฟางหว่านเอ๋อร์จะตายไม่ได้ ตายไม่ได้เด็ดขาด
เมื่อเข้าไปในห้องของตงฟางหว่านเอ๋อร์แล้ว สาวใช้สองคนคุกเข่าร้องไห้อยู่ข้างเตียง นางจึงปรี่ไปถึงข้างเตียงบ้าง มือข้างหนึ่งจับชีพจรของตงฟางหว่านเอ๋อร์ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งเปิดเปลือกตาตรวจสอบดู
ยังมีชีพจรอยู่ ลูกตาก็ยังปกติดี แต่แล้วเหตุใดชีพจรของนางถึงอ่อนเช่นนี้เล่า
“เร็วเข้า นำเข็มเงินมา” ไป๋จื่อเอ่ยเสียงดัง
ชุ่ยเอ๋อร์ที่ตามหลังนางมารีบหยิบล่วมยามา แม้จะกระวนกระวายใจจนทำอะไรไม่ค่อยถูก ทว่าก็ยังค้นหากระเป๋าเข็มจากในล่วมยาจนเจอ และส่งมันให้นางจนได้
ไป๋จื่อสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วเลิกผ้าห่มบนกายตงฟางหว่านเอ๋อร์ออก รวมถึงปลดอาภรณ์ของนางออกด้วย ก่อนจะแทงเข็มเงินลงบนร่างกายของฮูหยินผู้นี้ทีละเข็ม
นางใช้วิชาฝังเข็มตามจุดต่างๆ กระตุ้นลมหายใจของอีกฝ่าย นางฝังเข็มไปทั่วร่างกายทั้งหมดเก้าร้อยเก้าสิบแปดจุด หลังจากทำเช่นนี้เสร็จรอบหนึ่งแล้ว นางก็ทำซ้ำอีกรอบแล้วรอบเล่า จนกระทั่งลมหายใจของตงฟางหว่านเอ๋อร์กลับมามั่นคงอีกครั้ง
เมื่อเห็นเช่นนั้น นางถึงจะหยุดมือ เสื้อผ้าตัวบางบนร่างกายเปียกชุ่มไปหมด แนบชิดอยู่กับเนื้อกาย ทำให้ส่วนโค้งเว้าของสตรีปรากฏออกมาอย่าชัดเจน
ชุ่ยเอ๋อร์เห็นเข้าก็ตกอกตกใจยกใหญ่ ไป๋จื่อผู้นี้ แท้จริงแล้วเป็นสตรีหรือนี่!
ครั้นเห็นไป๋จื่อเก็บเข็ม ชุ่ยเอ๋อร์ก็รีบถาม “เป็นอย่างไรบ้าง”
ไป๋จื่อเหนื่อยล้าจนแทบจะเป็นอัมพาต มือข้างหนึ่งค้ำยันขอบเตียงเพื่อหยัดกายลุกขึ้น “ข้ายื้อชีวิตของนางไว้ได้ ภายในสามวันนี้น่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นอีก ทว่าก็ต้องตามหายาที่จะช่วยนางให้ได้ภายในสามวันเช่นกัน ไม่เช่นนั้น…”
นางไม่ได้พูดต่ออีก เพราะไม่มีความจำเป็นต้องพูดต่อไป ทุกคนก็เข้าใจความหมายนี้แล้ว
“เหตุใดจู่ๆ ฮูหยินถึงเป็นเช่นนี้ได้” ไป๋จื่อถาม
ชุ่ยเอ๋อร์รีบตอบทันควัน “ฮูหยินเป็นคนเข้านอนเร็ว ทว่าเมื่อครู่จู่ๆ ก็ตื่นขึ้นมา บอกว่ากระหายน้ำ ข้าจึงให้สาวใช้เวรกลางคืนไปรินชามาให้ หลังจากที่นางดื่มชาที่สาวใช้รินให้แล้ว ไม่นานนักก็กระอักเลือดออกมา จากนั้นก็เป็นเช่นที่เจ้าเห็น”
……….
ตอนที่ 616 เป็นแม่นาง ไม่ใช่เด็กหนุ่ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา
อัพเดทตอนใหม่เมื่อไรค่ะ...
คุณแอดมินผู้ใจดี ช่วยอัพเดทตอนใหม่เยอะๆเลยนะคะ ชอบมาก สนุก พลีสสสสส...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
เอาใจช่วยหูเฟิงทวงคทนอำนาจนะ...
ถ้าพ่อไม่ถูกเมียรังแกจนเกือบตายก็คงไม่ตื่นสินะ...
ดีใจกับเสี่ยวเฟิง...