ตอนที่ 651 เหยียนเอ๋อร์ที่กล่าวถึง
ตงฟางมู่ก็ไม่ขวาง เพียงหรี่ตาพิจารณาเหยียนเอ๋อร์ที่เผยชิงหานกล่าวถึง
ไป๋เจินจูก้าวไปข้างหน้า คุกเข่าลงต่อหน้าตงฟางมู่แล้วโขกศีรษะครั้งหนึ่ง “ท่านตา!” เสียงของนางสั่นเ เครืออยู่บ้าง แม้แต่หน้าก็ไม่กล้าเงยขึ้นมา ถึงอย่างไรเสียนางก็เป็นตัวปลอม จึงได้รู้สึกปอดแหกเช่น นนี้
เผยชิงหานรีบกล่าวว่า “ส่วนนี่คือแม่ของเจ้า”
ไป๋เจินจูหันไปคุกเข่าและโขกศีรษะให้ตงฟางหว่านเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้าง “ท่านแม่!”
ไม่ว่านางจะเรียกตงฟางมู่ว่าตา หรือเรียกตงฟางหว่านเอ๋อร์ว่าแม่ เสียงของนางล้วนสั่นเครือ พาให้ผู อื่นรู้สึกว่านางกำลังหวาดกลัว ไม่ได้รู้สึกว่านางดีใจหรือปลาบปลื้นแม้สักนิด
เพราะนางเองก็ไม่รู้ว่าว่าในเวลานี้ควรดีใจหรือร้องไห้ออกมาดี
เหตุใดพวกเขาถึงได้เย็นชาเช่นนี้
“รีบลุกขึ้นเถอะ เข้ามาให้ข้าดูหน้าตาหน่อย!” ตงฟางหว่านเอ๋อร์เอ่ย
ไป๋เจินจูลุกขึ้นอย่างเชื่อฟัง แล้วค่อยๆ เดินไปถึงเบื้องหน้าของตงฟางหว่านเอ๋อร์ จนถึงตอนนี้แล้วนาง ยังไม่มองคนที่ตนเรียกว่าแม่เลยสักครั้ง
ตงฟางหว่านเอ๋อร์กล่าวอีก “สาวน้อย เจ้าเงยหน้าขึ้นเถอะ”
ไป๋เจินจูจนใจ ทำได้เพียงเงยหน้าขึ้นช้าๆ สายตาตกลงที่ร่างของสตรีเบื้องหน้า นางพลันตะลึงงัน หัวใจเ เต้นระรัวอย่างบ้าคลั่ง บริเวณหน้าผากมีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ซึมออกมาในทันที
สตรีที่อยู่ตรงหน้านางคนนี้งดงามสะสวย โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้น ทว่านางกลับเคยเห็นดวงตาเช่นนี้บนใบห หน้าของใครอีกคนหนึ่ง เป็นดวงตาที่เหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน
ตงฟางหว่านเอ๋อร์ก็ตะลึงงันเช่นกัน ในใจเกิดความผิดหวังอย่างชัดเจน ใบหน้าของเด็กคนนี้ไม่มีความคล้าย ยคลึงกับนางแม้สักครึ่งส่วน นางยังจำตอนที่เหยียนเอ๋อร์เกิดมาได้ แม่นมและเหล่าสาวใช้ต่างก็พูดเป็น นเสียงเดียวกันว่าดวงตาของบุตรีนางเหมือนกับนางอย่างยิ่ง ทว่าสตรีเบื้องหน้าผู้นี้มีดวงตาเรียวเล็ก คนคนหนึ่งจะดวงตาเล็กลงได้ถึงเพียงนี้เลยหรือ
นางไม่ใช่เหยียนเอ๋อร์
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด นางถอนหายใจด้วยความโล่งอกออกมา
ตงฟางมู่เห็นสีหน้าของบุตรีแล้ว ก็รู้ว่านางแน่ใจแล้วเช่นกัน จึงหันไปกล่าวกับเผยชิงหานว่า “เจ้า าบอกว่านางคือเผยเซี่ยเหยียน แต่ไหนเล่าหลักฐาน เจ้าคงจะพูดไปเรื่อยเปื่อยไม่ได้กระมัง แค่ริมฝีปากบน ล่างกระทบกันก็ใช้ได้ มันไม่ง่ายเช่นนั้นหรอกนะ”
ความเย็นชาของตงฟางมู่กับตงฟางหว่านเอ๋อร์ล้วนเหนือความคาคหมายของเผยชิงหาน หากบอกว่าความเย็นชา าที่หน้าประตูเมืองก่อนหน้านี้เป็นเพราะพวกเขายังไม่ได้พบเผยเซี่ยเหยียน เช่นนนั้นไยตอนนี้นางอยู่ ตรงหน้าแล้ว แต่พวกเขากลับยังคงเย็นชาเช่นนี้ เป็นเพราะเหตุใดกัน
อย่างไรเสียเผยชิงหานก็วางแผนไว้นานมากแล้ว เขาทบทวนเรื่องนี้อยู่ในหัวสมองแล้วหลายหน บทพูดใด ล้วนท่องจำจนขึ้นใจ ทว่าเมื่อตงฟางมู่ถามขึ้นมาเช่นนี้ แม้เขาจะประหลาดใจ แต่กลับไม่ได้ถอดใจเร็วนัก
“ท่านพ่อตา นางคือเซี่ยเหยียนจริงๆ ขอรับ ข้ายืนยันได้”
“เจ้ายืนยันได้เช่นไร ลองบอกให้ข้าฟังหน่อยสิ!” ตงฟางหว่านมู่ยกชาขึ้นดื่ม รอยยิ้มเยาะเจือจางปรากฏอ อยู่บนใบหน้า ราวกับกำลังนั่งฟังละครอยู่ในโรงน้ำชาอย่างเป็นสุขอย่างไรอย่างนั้น
“คืออย่างนี้ขอรับ หลังจากข้าได้ข่าว ข้าก็เสาะหานางอยู่ตลอด ใช้เวลาไปหลายเดือนทีเดียว จนในที่สุด ก็พบคนที่รับเลี้ยงนางในปีนั้นพานางไปที่ตะวันตกเฉียงเหนือ ข้านำคนไปที่นั่น เมื่อพบคนผู้นั้นแล ล้ว เขากลับบอกว่าตนทิ้งนางไว้ในป่า ข้าลองถามหาที่หมู่บ้านบริเวณป่าผืนนั้นอีกครั้ง คิดไม่ถึงเลย ยว่าจะพบนางเข้าจริงๆ” เผยชิงหานเล่า
“เช่นนั้นไยเจ้าถึงแน่ใจว่านางเป็นเด็กหญิงในตอนนั้น ข้าว่านางหน้าไม่เห็นเหมือนเสียหน่อย” ตงฟางมู่ ถามอีก
เผยชิงหานยิ้มเจื่อน “ก็เหมือนอยู่นิดหน่อยนะขอรับ ทว่าไม่ได้เหมือนโดยสมบูรณ์” เขากระแอม ก่อนจะกล ล่าวอีกว่า “ข้าเจอครอบครัวหนึ่งที่นั่น พวกเขาเก็บเด็กคนหนึ่งได้ในป่าเมื่อสิบสามปีที่แล้วพอดี แล ละบนตัวของเด็กคนนี้ก็มีพู่หยกพระสังกัจจายน์ชิ้นนั้นด้วย ทุกอย่างล้วนชัดเจน ไม่มีทางผิดไปได้แน น่ขอรับ”
……….
ตอนที่ 652 เขาชื่อไป๋จื่อ
“ไหนเล่าพู่หยก” ตงฟางมู่เอ่ยถาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา
อัพเดทตอนใหม่เมื่อไรค่ะ...
คุณแอดมินผู้ใจดี ช่วยอัพเดทตอนใหม่เยอะๆเลยนะคะ ชอบมาก สนุก พลีสสสสส...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
เอาใจช่วยหูเฟิงทวงคทนอำนาจนะ...
ถ้าพ่อไม่ถูกเมียรังแกจนเกือบตายก็คงไม่ตื่นสินะ...
ดีใจกับเสี่ยวเฟิง...