ตอนที่ 7 แยกบ้าน
หัวหน้าหมู่บ้านหันไปมองหญิงชราและหลิวซื่อที่อยู่ข้างๆ ถามเสียงทุ้มว่า “พวกเจ้าว่าอย่างไร”
ไยก่อนหน้านี้ไม่เคยขอแยกบ้าน ตอนนี้เพิ่งจ่ายเงินออกไปจนหมดเกลี้ยง ก็มาบอกจะแยกบ้านเนี่ยนะ!
“คืนเงินข้ามาก่อน!” แม่สามีเหมือนมีเลือดออกที่หัวใจ หมอลู่เดินไปไกลแล้ว เงินกว่าครึ่งไม่อาจกลับมาได้ นางโมโหแทบตาย “คืนเงินข้า แล้วพวกเจ้าสองแม่ลูกก็ไสหัวออกจากสกุลไป๋เสีย!”
เมื่อหลิวซื่อได้ยินดังนั้น แววตาของนางก็ร้อนรน ก่อนจะดึงแขนเสื้อของแม่สามีมาข้างๆ พลางกล่าวเสียงเบาว่า “ท่านแม่ แยกไม่ได้นะ หากพวกนางแยกบ้านออกไปแล้ว ต่อไปผู้ใดจะทำงานที่นี่กัน ผู้ใดจะซักเสื้อผ้าภายในบ้าน แล้วผู้ใดจะเป็นคนทำกับข้าวเล่า” แม้จ้าวหลานจะเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว แต่นางก็ทำงานนอกบ้านเก่งมาก แบกหามได้ทั้งบ่าและมือ หลายปีมานี้ ลูกคนโตและลูกคนรองของสกุลรวมกันยังสู้นางคนเดียวไม่ได้เลย
ส่วนเด็กสาวไป๋จื่อ แม้นางจะอายุยังน้อย แต่ก็คล่องแคล่วเช่นเดียวกัน นางทำได้ทั้งทำอาหารและซักเสื้อผ้า หากพวกนางสองคนแยกบ้านไปอยู่ตามลำพัง ผู้ใดจะเป็นคนทำงานทั้งหลายเหล่านี้ในบ้านเล่า นี่ไม่เท่ากับขาดสาวรับใช้ไปสองคนหรอกหรือ
หญิงชรามองตาขวางใส่นางครั้งหนึ่ง ก่อนจะกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เจ้าไม่มีมือมีเท้าหรืออย่างไร หรือว่าเจ้าทำงานพวกนี้ไม่เป็นสักอย่าง?”
บัดนี้หญิงชราจงเกลียดจงชังไป๋จื่อและจ้าวซื่อนัก นางไม่อยากเห็นพวกนางอีกแม้แต่วินาทีเดียว พวกนางต้องการแยกบ้าน ก็ตรงกับความต้องการของนางพอดี
“เช่นนั้น ท่านคิดจะแบ่งสมบัติอย่างไรเจ้าคะ” หลิวซื่อเห็นแม่สามีใจแข็ง ก็รู้ว่าไม่มีหนทางหวนกลับแล้ว ทำได้เพียงปล่อยมันไป
หญิงชราร้องเฮอะเสียงหนึ่ง “แบ่งรึ? ของของสกุลไป๋ ข้าจะไม่ให้พวกนางเช่นกัน จะไปย่อมได้ แต่ต้องไสหัวออกไปตัวเปล่า!”
บ้านหลังนี้ไม่ใหญ่นัก แม้ทั้งสองคนจะจงใจพูดเสียงเบา ทว่าหลายคนที่ยืนอยู่ไกลก็ยังคงได้ยินอย่างชัดเจน
ไป๋จื่อส่ายหน้า คนใจร้ายจนถึงขั้นนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว
หัวหน้าหมู่บ้านก็ส่ายหน้า สตรีสองนางนี้ทั้งอำมหิตและไร้ยางอาย นับว่าทำให้เขาเปิดโลกทัศน์นัก
จ้าวหลานเจ็บปวดใจมาก ในบ้านหลังนี้ นอกจากจื่อเอ๋อร์แล้ว แต่ไหนแต่ไรนางไม่เคยรับรู้ถึงน้ำใจและความอบอุ่นแม้สักเสี้ยวเดียว ทุกคนล้วนเห็นนางต่างวัวต่างม้า ทว่านางก็ยึดที่แห่งนี้เป็นบ้านของตนมาโดยตลอด ดังนั้นถึงจะลำบากและเหนื่อยล้าเพียงใด ได้รับความไม่เป็นธรรมถึงเพียงไหน นางก็ไม่เคยบ่น
ทว่าวันนี้ ในที่สุดนางก็ฟื้นสติอย่างเต็มที่ บ้านหลังนี้ไม่ต้องการนางและจื่อเอ๋อร์ การจากไปอาจจะเป็นการเริ่มต้นครั้งใหม่ก็ได้
หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวกับหญิงชราว่า “แม่เฒ่า จะเป็นคนก็ควรมีเมตตานะ ข้าว่าเจ้าทำเกินไป แม้ว่าเจ้าสามจะตายไปแล้ว ทว่าสะใภ้สามก็นับเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเช่นกัน ย่อมต้องแบ่งทรัพย์สินให้นางส่วนหนึ่ง”
หญิงชรารู้สึกไม่พอใจ นางมองตาขวางใส่หัวหน้าหมู่บ้าน แล้วกล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดี “หัวหน้าหมู่บ้าน การแยกบ้านเป็นเรื่องภายในครอบครัวอย่างแท้จริง ท่านไม่อาจเข้ามายุ่งเกี่ยวได้ ตอนนี้สกุลไป๋เป็นของข้า ข้าพอใจอย่างไรก็จะแบ่งอย่างนั้น”
หัวหน้าหมู่บ้านยังอยากพูดต่อ ทว่าจ้าวหลานรีบห้ามเขาไว้ “ท่านหัวหน้าหมู่บ้าน ข้าเข้าใจเจตนาดีของท่าน ทว่าอย่าพูดอะไรอีกเลยเจ้าค่ะ นางพอใจอย่างไรก็แบ่งอย่างนั้นเถิด ขอเพียงตัดความสัมพันธ์กับพวกเขาได้ พอจะทำให้จื่อเอ๋อร์ของข้าไม่ต้องรับมืออำมหิตของพวกนางอีก ข้าก็พอใจแล้วเจ้าค่ะ”
หัวหน้าหมู่บ้านถอนหายใจเสียงหนึ่ง แล้วพยักหน้าให้จ้าวหลาน “ตกลงตามนั้น!”
หญิงชรายิ้มเยือกเย็น แค่นหัวเราะกล่าวว่า “เจ้าเป็นคนพูดเองนะ ตอนนี้พวกเจ้าสองแม่ลูกไสหัวออกไปได้แล้ว สิ่งของของสกุลไป๋ไม่มีความเกี่ยวข้องกับพวกเจ้าสักนิด ทั้งเรือนและที่นา แม้กระทั่งเหรียญทองแดงก็อย่าได้คิดจะแบ่งไป!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา
อัพเดทตอนใหม่เมื่อไรค่ะ...
คุณแอดมินผู้ใจดี ช่วยอัพเดทตอนใหม่เยอะๆเลยนะคะ ชอบมาก สนุก พลีสสสสส...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
เอาใจช่วยหูเฟิงทวงคทนอำนาจนะ...
ถ้าพ่อไม่ถูกเมียรังแกจนเกือบตายก็คงไม่ตื่นสินะ...
ดีใจกับเสี่ยวเฟิง...