คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา นิยาย บท 89

ตอนที่ 89 ซาบซึ้ง

จ้าวหลานตอบ “มือของข้าไม่นานก็หายดีแล้ว คำพูดของท่านหมอลู่นั้น ล้วนเป็นคำขู่คนสกุลไป๋ ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะยอมแยกบ้านกับพวกข้าได้อย่างไร”

เดิมทีไม่ควรพูดเช่นนี้ออกมาในเวลานี้ ทว่าจ้าวหลานกลับปากไวนัก ไป๋จื่อทำได้เพียงกล่าวว่า “ท่านลุงหัวหน้าหมู่บ้าน ขอท่านเก็บเรื่องนี้เป็นความลับด้วยเจ้าค่ะ หากคนสกุลไป๋รู้เรื่องนี้เขา จะต้องเป็นเรื่องใหญ่โตอีกแน่ พวกข้าไม่เป็นไร กลัวแต่พวกเขาจะกล่าวโทษท่านหมอลู่ด้วยเหตุนี้ และถือโอกาสเบี้ยวหนี้ท่านหมอลู่ เช่นนั้นคงไม่ดีแน่”

หัวหน้าหมู่บ้านพยักหน้าหงึกหงัก “ข้าเข้าใจ วางใจเถอะ ข้าจะให้เรื่องนี้เน่าอยู่ในท้องข้า ไม่พูดกับผู้ใดทั้งนั้น” เขาหัวเราะโดยพลัน ความกังวลสุดท้ายในใจหายไปทั้งหมดอย่างไร้ร่องรอย

หลังจากหัวหน้าหมู่บ้านจากไป จ้าวหลานกับไป๋จื่อก็ถือกระเป๋าใบเล็กของพวกนางกลับไปที่เรือนไม้ ครั้นเปิดประตูเรือนไม้ พวกนางก็ต้องตกตะลึงกับภาพเบื้องหน้า

เรือนไม้ไม่ใช่เรือนไม้เช่นก่อนหน้าอีกต่อไป ข้าวของระเกะระกะที่กองอยู่ภายในถูกกำจัดออกไปจนหมดสิ้น ด้านในวางด้วยเตียงหลังหนึ่ง บนเตียงปูผ้าใหม่เอี่ยมเอาไว้ หมอนปักลายดอกไม้สองใบวางอยู่ตรงหัวนอนอย่างเป็นระเบียบ บนกำแพงยังมีหน้าต่างบานเล็กที่เพิ่งทำใหม่ และบนนั้นก็มีผ้าม่านห้อยอยู่ผืนหนึ่งด้วย

ในมุมเรือนยังวางด้วยแท่นไม้สองชั้น บนนั้นวางกะละมังไม้เอี่ยมอ่องสองใบ ทั้งยังมีโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ ด้วย ด้านบนตั้งกระจกสำริดบานหนึ่งไว้ แม้จะไม่สวยประณีตนัก แต่กลับทำให้จ้าวหลานร้องไห้ออกมาด้วยความซาบซึ้ง

ต้องรู้ว่าเมื่อนางแต่งให้เจ้าสามเมื่อครั้งนั้น นางไม่เคยได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกระจกสำริด แม้แต่ผ้าปูเตียงใหม่ยังไม่เคยได้เลยด้วยซ้ำ

และยิ่งไม่ต้องพูดถึงสิบปีหลังจากเจ้าสามตายไป นางกับจ้าวหลานไม่เคยได้ส่องกระจกโดยสิ้นเชิง

แค่เพียงเครื่องเรือนธรรมดาเหล่านี้ กลับทำให้จ้าวหลานซาบซึ้งจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

อยู่ในเรือนเช่นนี้ ถึงจะรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวได้!

หูเฟิงยกถังน้ำเดินเข้ามาในเรือนไม้ ครั้นเห็นจ้าวหลานร้องไห้อยู่เงียบๆ ทว่าบนใบหน้ากลับมีรอยยิ้ม ส่วนไป๋จื่อกำลังปลอบใจนางอย่างใจเย็น เขาก็วางถังไม้ลงอย่างแรง แล้วกล่าวกับเด็กสาวว่า “เย็นนี้เจ้าทำกับข้าว ข้าถอนขนไก่ป่าไว้เรียบร้อยแล้ว”

ไป๋จื่อหันไปมองเขา เงาร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ตรงประตู ทว่าย้อนแสงเช่นนี้ นางจึงไม่สีหน้าของเขาได้ไม่ชัดเจน แต่ก็รับรู้ได้ถึงความเขินอายของเขาอย่างแจ่มชัด

“หูเฟิง ขอบคุณพวกเจ้ามาก”

เขากวาดสายตามองข้าวของทำใหม่ในเรือน ทุกชิ้นล้วนเป็นฝีมือเขาทั้งหมด

เมื่อคิดถึงสภาพแวดล้อมที่พวกนางอาศัยอยู่ก่อนหน้านี้ เขาย่อมเข้าใจความรู้สึกของพวกนางในเวลานี้

“ใช้เงินที่เจ้าหามาทั้งนั้น ไม่ต้องขอบคุณข้า ข้าแค่ออกแรงเล็กน้อยเท่านั้น” หูเฟิงกล่าวเรียบๆ

“เช่นนั้นก็ต้องขอบคุณเจ้าเช่นกัน ไม่ใช่ว่าทุกคนจะยอมออกแรงช่วยพวกข้าสองแม่ลูกเช่นนี้”

มีคนในหมู่บ้านเห็นใจพวกนางสองแม่ลูกมากมายนัก ทว่าส่วนใหญ่ล้วนใช้เพียงปากพูด ตำหนิคนสกุลไป๋เล็กน้อยอย่างลับๆ ใครจะออกเงินออกแรงช่วยพวกนางให้หลุกพ้นจากความลำบากกันเล่า

หูเฟิงจ้องนางเขม็ง ดวงตาคู่นั้นบนดวงหน้าเล็กๆ ราวกับดาวสุกสกาวบนท้องฟ้ายามราตรี ส่องสว่างงดงาม “หากอยากขอบคุณข้าจริงๆ เช่นนั้นก็ทำกับข้าวเย็นนี้ให้ดี ถือเป็นการตอบแทนข้า”

นางพลันยิ้มขึ้น มุมปากแย้มดอกยี่เข่งงดงามละเอียดอ่อน เผยให้เห็นฟันขาวสะอาดเรียงตัวสวย “ตกลง จะไม่ทำให้เจ้าต้องผิดหวังแน่นอน”

หลังจากหูเฟิงไปแล้ว ไป๋จื่อก็ตักน้ำให้จ้าวหลานล้างหน้ากะละมังหนึ่ง “ท่านแม่ ดูสภาพท่านสิเจ้าคะ หากใครเห็นท่านเข้า คงจะต้องหัวเราะเยาะท่านแน่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา