จู่ ๆ ซอง อันยี ก็ลืมตาขึ้น ทำให้เธอสบตากับคนที่ช่วยเธอไว้
เธออึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วรีบหันไปมอง ทัง โรลชูว และพูดด้วยความโกรธ "ทัง โรลชูว แกว่าใครโง่นะ?”
ทัง โรลชูว ยิ้มเบา ๆ และไม่พูดอะไร
จริง ๆ แล้ว ทัง โรลชูว พูดอย่างนั้นเพราะเธอเห็นโมเฟยวิ่งไปช่วยอันยี แต่ถึงแม้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น อันยีก็ยังคงหลับตาแน่นแถมขนตาของเธอก็สั่นอีกด้วย
ดังนั้นเธอจึงจงใจพูดอย่างนั้น ไม่งั้นเธอจะลืมตาไหมล่ะ?
"คุณเป็นอะไรไหม?" เซิน โมเฟย ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ขณะที่เขามองหญิงสาวตรงหน้า ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ที่คนอื่นแทบจะไม่สามารถรับรู้ได้
"ไม่เป็นไร ขอบคุณค่ะ" ซอง อันยี รู้ตัวว่าเธอยังอยู่ในอ้อมแขนของเขา เธอจึงรีบกระโดดออก
น้ำเสียงของเธอดูห่างเหินและสุภาพ ทำให้มีความเสียใจในแววตาของเขา คิ้วของเขาดูเหมือนจะขมวดเล็กน้อย
จากนั้นเขาก็หันไปมองเหล่าผู้หญิงที่สร้างปัญหา
"บอกผมที นี่มันเกิดอะไรขึ้น?" เขาถามอย่างเคร่งเครียด
"ฉัน...เรา..." ผู้หญิงคนหนึ่งเริ่มพูด แต่เพราะเธอกลัวมากทำให้เสียงของเธอสั่น
เซิน โมเฟย มองข้ามพวกเธอไป และหันไปมอง ทัง โรลชูว "รองผู้จัดการทัง มันเกิดอะไรขึ้น?"
เห็นได้ชัดว่าเขากำลังพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่เจ้านายใช้กับลูกน้อง มันไม่มีความรู้สึกส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้องเลย
ผู้หญิงเหล่านั้นมองหน้ากัน และถามกันว่า ทัง โรลชูว เป็นคนรักของผู้บริหารไม่ใช่เหรอ? แต่ทำไมเขาถึงมองเธอแบบนั้น? เหมือนไม่ใช่คนรักกันเลย
มันไม่ใช่เรื่องจริงเหรอ?
"ไม่มีอะไรค่ะ เป็นแค่เรื่องของผู้หญิง" ทัง โรลชูว ไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นปัญหาเธอจึงไม่ตอบอะไรมาก
เซิน โมเฟย ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาเข้าใจว่าพี่สะใภ้หมายถึงอะไร ดังนั้นเขาจึงพูดกับผู้หญิงเหล่านั้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า "ผมพูดไปแล้วในที่ประชุม ถ้าพวกคุณยังสร้างปัญหาแบบนี้อยู่ บริษัทของเราก็ไม่ต้องการคนอย่างพวกคุณ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่รักสายฟ้าแลบ: เจ้าสาว ของ คุณ พอจะเป็น ฉันได้ไหม