จากนั้น ทัง โรลชูว จึงหันมาสั่ง เซิน โมเฟย “โมเฟย คุณก็พา อันยี ไปกับคุณด้วย แล้วก็ไม่ต้องไปหาผู้หญิงคนอื่นไปกับคุณอีกนะ”
ความสนใจของ เซิน โมเฟย เริ่มหมดลง เขาพยักหน้า “พี่สะใภ้ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมจะขอตัวกลับเลย”
“จะกลับแล้วเหรอ? ถ้างั้นก็ไปส่ง อันยี ที่บ้านด้วยเลยสิ” ทัง โรลชูว พูด
เมื่อได้ยินดังนั้น ซอง อันยี ก็ไปหยิบกระเป๋าของเธอ “ถ้าพูดอย่างนั้น ฉันเองก็คงต้องขอตัวด้วย”
ก่อนที่ อันยี จะได้ก้าวเท้าออกจากห้อง เธอก็ได้ยินเสียงเย็นชาและไร้ความรู้สึกของ เซิน โมเฟย
“เกรงว่าจะไม่สะดวกนัก กรุณานั่งแท็กซี่กลับเองเถอะครับ รองผู้จัดการซอง”
เมื่อพูดจบ เขาไม่ได้หันกลับไปมองทางผู้หญิงทั้งสองคนที่กำลังตกตะลึงจากคำพูดของเขา เมื่อทุกอย่างสงบลง เขาพูดขึ้น “ผมไปก่อนนะ” พร้อมกับเดินออกไป
ซอง อันยี กุมกระเป๋าของเธอไว้แน่นราวกับว่านี่คือหนทางเดียวที่จะมอบความแข็งแกร่งให้กับเธอ เพื่อที่เธอจะไม่หลุดแสดงความอ่อนแอออกมาให้ใครเห็น
เธอหันหลังกลับมาและยิ้มให้กับ ทัง โรลชูว “ ถ้าอย่างนั้น ชูวชูว ฉันจะนั่งแท็กซี่กลับบ้าน”
ทัง โรลชูว หลุดออกมาจากความคิดของเธอ เธอมองเพื่อนของเธออย่างกังวลและถามขึ้น “เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ซอง อันยี ยักไหล่ของเธอพร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงประหลาด “ฉันต้องเป็นอะไรด้วยเหรอ?”
“แต่ว่า…”
มองเธอเดินจากไป ทัง โรลชูว ถอนหายใจ เรื่องมันวุ่นวายไปยิ่งกว่าเดิมเพราะความหวังดีไม่เข้าเรื่องของเธอแท้ ๆ
ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเข้าไปยุ่ง พวกเขาก็คงไม่ต้องจบลงด้วยสถานการณ์อันน่าอึดอัดใจเช่นนี้
คิดได้ดังนั้น เธอก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
ลู ชินจิน เดินเข้ามาในตึก และเห็นว่าเธอถอนหายใจราวกับคนแก่ ช่างน่าขันยิ่งนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่รักสายฟ้าแลบ: เจ้าสาว ของ คุณ พอจะเป็น ฉันได้ไหม