ทัง โรลชูว ถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน “ใช่ ฉันผิดหวังมาก”
เพราะความตั้งใจของเธอคือช่วยให้ อันยี และ โมเฟย ได้ลงเอยกัน แต่ดูเหมือนว่าเธอไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกแล้ว
เมื่อคิดได้ดังนั้น เธอก็ถอนหายใจอีกครั้ง เธอไม่อยากจะทำให้เรื่องวุ่นวายไปมากกว่านี้แล้ว เธอจึงเปลี่ยนเรื่องคุยและถามออกไป “ทังไห่ ได้ส่งบัตรเชิญมาให้คุณหรือเปล่าคะ?”
“ใช่” ลู ชินจิน ถัดผมที่หูเธออย่างอ่อนโยน “คุณอยากไปหรือเปล่า?”
ทัง โรลชูว ดึงตัวออกจากอ้อมกอดเขา เงยหน้ามองดวงตาดำขลับของเขา และยิ้มให้เขาอย่างเจ้าเล่ห์ “เรื่องนั้น คุณลู คุณอยากให้คนอื่น ๆ รู้ว่าคุณแต่งงานแล้วอย่างนั้นเหรอ?”
ลู ชินจิน แกล้งทำเป็นประหลาดใจ และถามกลับ “ก็ไม่ใช่คุณหรอกเหรอที่ขอร้องให้เก็บมันไว้เป็นความลับตลอดเวลาที่ผ่านมา?”
ใช่ เป็นเธอเอง
แต่ในตอนนั้นเรื่องต่าง ๆ มันวุ่นวายซับซ้อนไปหมด และอีกอย่างมันเป็นการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ และพวกเขาก็ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรต่อกัน ถ้าพวกเขาเปิดตัวต่อสาธารณะชนก็จะยิ่งเป็นปัญหากับตัวเขาเอง เธอก็จะยิ่งรู้สึกผิดไปกันใหญ่
แต่ตอนนี้ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมแล้ว พวกเขามีความรู้สึกที่ดีต่อกัน และมากขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย
ถึงแม้พวกเขาจะมีความรู้สึกที่ดีให้กันแล้วก็ตาม แต่ถ้าพวกเขาบอกให้คนอื่นได้รับรู้…
ทัง โรลชูว เม้มปากและนิ่งคิดไปครู่ใหญ่ แต่แล้วเธอก็ยอมแพ้กับความคิดนั้น “เราไม่ควรจะเปิดเผยเรื่องนี้ ไม่อย่างนั้นคุณก็จะโดนสื่อเล่นงาน”
ถ้าเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป มันจะต้องกลายเป็นพาดหัวข่าวดัง ก่อนหน้านั้นที่เธอเปิดเผยความสัมพันธ์ของ โมเฟย มันกลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าอยู่หลายวัน ก่อนที่จะค่อย ๆ จางหายไป ถ้าเป็น ชินจิน ละก็…
ทัง โรลชูว ทำได้แค่เพียงจินตนาการว่ามันจะเกิดความวุ่นวายอะไรปะทุขึ้นในเมืองปักกิ่งนี้
เพียงแค่คิดก็ขนลุกไปหมด!
“แล้วคุณอยากจะบอกพวกเขาเมื่อไหร่ล่ะ?” ลู ชินจิน ถาม
“ก็คง…” ทัง โรลชูว นิ่งคิดอย่างเอาจริงเอาจังก่อนจะให้คำตอบ
“เราจะเปิดเผยเรื่องนี้ก็ต่อเมื่อสถานการณ์ทุกอย่างลงตัวแล้ว”
เมื่อสถานการณ์ทุกอย่างลงตัวแล้ว? ช่างเป็นคำพูดที่คลุมเครือเสียจริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่รักสายฟ้าแลบ: เจ้าสาว ของ คุณ พอจะเป็น ฉันได้ไหม