“แม่ของฉันรักการวาดภาพ ฉันได้ยินมาว่าคุณยายของฉันปลูกฝังความรักในงานศิลปะให้กับเธอตั้งแต่ยังเล็ก ดังนั้นเธอก็เลยมีพรสวรรค์ในการวาด”
เมื่อเห็นว่าเขาคอยแต่จะหันหลังกลับไปมองภาพวาดที่เบาะด้านหลัง ทัง โรลชูว จึงพูดเรื่องแม่ของเธอให้ฟังขึ้นมาอย่างเต็มใจ
“ภาพวาดนั้นสวยมาก” ลู เซียวเหยา พูดขึ้น ชื่นชมเธอด้วยใจจริง
“ใช่มันสวยมาก แต่ภาพนี้ก็เป็นภาพสุดท้ายที่เหลืออยู่” พูดมาถึงช่วงนี้ ทัง โรลชูว ก็รู้สึกเสียใจ
“ทำไมล่ะ?” ลู เซียวเหยา รู้สึกสงสัย ในเมื่อแม่ของเธอรักการวาดภาพ ก็ควรจะมีงานศิลปะของเธออย่างนับไม่ถ้วน
“มันถูกเผาไปหมด” ทัง โรลชูว ตอบกลับด้วยท่าทีสบาย ๆ “แม่ของฉันเปราะบางและอ่อนแอมากในตอนนั้นเธอคงรู้ว่าเธอกำลังจะตายแล้ว เธอต้องการที่จะเผาภาพเหล่านั้นเพื่อที่เธอจะสามารถนำขึ้นไปอยู่บนสวรรค์กับเธอได้”
ลู เซียวเหยา ส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย “ช่างเป็นคนที่มีความเด็ดเดี่ยวเสียจริง”
ทัง โรลชูว ยิ้มแต่ไม่ได้พูดเรื่องนั้นต่อ
เธอหันหลังกลับไปมองที่ภาพวาดก่อนจะปล่อยให้ความคิดล่องลอยไป
เธออายุเพียงแค่ห้าขวบในตอนนั้น เมื่อแม่ของเธอวาดภาพนี้
แม่กอดเธอและยกเธอขึ้นมานั่งบนตักก่อนจะลงมือวาดภาพ เธอเล่าให้ฟังถึงความสวยงามของเมืองเจียงหนาน และบอกให้เธอไปที่นั่นให้ได้เมื่อเธอโตขึ้น
ทุกครั้งที่แม่ของเธอพูดถึงเมืองเจียงหนาน ดวงตาของเธอเปล่งประกาย เต็มไปด้วยความผูกพันกับเมืองนั้น
โชคร้ายที่แม่ของเธอจากไปเสียก่อนที่จะได้พาเธอไปเมืองเชียงหนาน
เมื่อไม่ได้ยินเสียงเธอพูดอะไรมาสักพักใหญ่ ลู เซียวเหยา หันกลับไปมองเธอ เขาเห็นใบหน้าที่เศร้าโศกและคิ้วที่ขมวดปมของเธอ “นี่ฉันทำให้พี่สะใภ้คิดถึงช่วงเวลาอันเจ็บปวดในอดีตงั้นเหรอ?”
ถ้าเป็นเรื่องจริงเขาต้องเล่าเรื่องตลกไปอะไรสักอย่างเพื่อทำให้พี่สะใภ้ของเขาอารมณ์ดีขึ้น
ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร โทรศัพท์ก็ดังขึ้นเสียก่อน
ทัง โรลชูว ถูกฉุดออกมาจากความทรงจำของเธอ กลับมาที่ปัจจุบัน เธอเห็น ลู เซียวเหยา กดตัดสายเมื่อเขาเห็นว่าใครโทรมา ไม่ยอมรับสายนั่น
เธอเลิกคิ้วขึ้นแต่ไม่ได้ถามออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่รักสายฟ้าแลบ: เจ้าสาว ของ คุณ พอจะเป็น ฉันได้ไหม